ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง และสินทรัพย์เสี่ยง หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่สดใส
ณ เวลา 20.29 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.05% สู่ระดับ 112.44 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.12% สู่ระดับ 128.87 เยน และร่วงลง 0.04% สู่ระดับ 1.1462 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.01% สู่ระดับ 95.16 หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ในช่วงแรก
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ยอดค้าปลีก และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่างดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ดอลลาร์ดิ่งลงในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อที่ซบเซา บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค.
ดัชนี CPI ทรงตัวในเดือนมิ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาน้ำมัน และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำของสหรัฐ และอาจส่งผลให้เฟดชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย.
ในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในสัปดาห์นี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 หลังจากร่วงลง 0.1% ในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.
ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงในเดือนมิ.ย. ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในร้านอาหาร และด้านพลังงาน ขณะที่ยอดขายในห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตร่วงลง