ดอลลาร์ดิ่งลงในวันนี้ใกล้หลุดระดับ 112 เยน และร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน โดยถูกกระทบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความกังวลเกี่ยวกับการออกกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.52% สู่ระดับ 112.04 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.11% สู่ระดับ 129.41 เยน และดีดตัวขึ้น 0.63% สู่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.50% สู่ระดับ 94.65 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงราว 9% เมื่อเทียบกับระดับ 103.82 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ทำไว้เมื่อวันที่ 3 ม.ค.
นายเจอร์รี มอร์แรน และนายไมค์ ลี สองวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ประกาศว่า พวกเขาจะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับปรับปรุงใหม่ของวุฒิสภาซึ่งผลักดันโดยพรรครีพับลิกัน ส่งผลให้ทางพรรคอาจไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันให้เพียงพอต่อการผลักดันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวให้ผ่านวุฒิสภาเพื่อนำไปบังคับใช้แทนกฎหมายโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน
นักลงทุนกังวลว่า ความล่าช้าของการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่จะส่งผลกระทบต่อการออกกฎหมายปฏิรูปภาษี รวมทั้งกระทบต่อความพยายามในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์
นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนสิ้นปีนี้
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสไม่ถึง 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ปอนด์ดิ่งลงในวันนี้ หลังมีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษร่วงลงอย่างหนักในเดือนมิ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
ณ เวลา 17.24 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ร่วงลง 0.24% สู่ระดับ 1.3023 ดอลลาร์ โดยได้ลบล้างช่วงบวกที่ทำไว้ก่อนการเปิดเผยรายงานเงินเฟ้อดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษปรับตัวขึ้นเพียง 2.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากพุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งนับเป็นการทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2015
ดัชนี CPI ที่ชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ดัชนี CPI จะดีดตัวขึ้นแตะ 3% ในเดือนดังกล่าว
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทรงตัวในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ การลดลงอย่างคาดไม่ถึงของดัชนี CPI นั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ลดต่ำลง