สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) โดยดอลลาร์ยังคงได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะพิจารณาเริ่มปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดในเดือนก.ย.นี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1790 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1763 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3028 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3036 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7911 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7928 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.74 เยน จากระดับ 110.68 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9736 ฟรังก์สวิสจากระดับ 0.9734 ฟรังก์สวิส
สกุลเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.3%
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เพื่อหาปัจจัยบ่งชี้ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลบัญชีและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์กล่าวว่า "รายงานของกระทรวงแรงงานดังกล่าว จะทำให้เฟดมีความผ่อนคลายมากขึ้นในการเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีลงสู่ระดับปกติในเดือนก.ย. และเราคิดว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายในเดือนธ.ค.นี้"
นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ค. โดย NFIB, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นไตรมาส 2/2560, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.