ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบเงินสกุลหลัก นลท.ซึมซับถ้อยแถลงเยลเลน, วิตกพายุฮาร์วีย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 29, 2017 07:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) ขณะนักลงทุนซึมซับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยทั้งสองไม่ได้ส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในอนาคตแต่อย่างใด นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ที่พัดถล่มรัฐเท็กซัสของสหรัฐ และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1980 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1876 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2941 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2875 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7971 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7935 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.11 เยน จากระดับ 109.29 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9550 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9574 ฟรังก์สวิส

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนในตลาดเงินยังคงซึมซับถ้อยแถลงของประธานเฟดและประธาน ECB ในการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนางเยลเลนไม่ได้ส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต แต่ได้พุ่งความสำคัญไปยังเรื่องของวิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต และสิ่งที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ดำเนินการเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น

นางเยลเลนกล่าวเตือนว่า วิกฤตทางการเงินในอนาคตอาจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ภาวะทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ได้ให้บทเรียนที่สำคัญแก่ทุกคน

"เราได้เรียนรู้บทเรียนจากความเจ็บปวดที่เกิดจากวิกฤตการณ์ เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่าระบบการเงิน และเศรษฐกิจมีโอกาสน้อยลงที่จะเผชิญกับวิกฤตการณ์ และจะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ได้เร็วขึ้น ทำให้ภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหมือนที่ได้ประสบในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์เมื่อ 1 ทศวรรษก่อนหน้านี้" นางเยลเลนกล่าว

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากกระแสความวิตกในผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าพัดถล่มรัฐเท็กซัส ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก และสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ประสบภัยหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองฮุสตัน ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 6.012 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การที่ภาคธุรกิจเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังจะถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตขยับตัวลงสู่ระดับ 20.3 ในเดือนส.ค. จากระดับ 22.8 ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.จะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย.จาก S&P/Case-Shiller และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ