ดอลลาร์ดีดตัวเหนือระดับ 113 เยนในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง และเทขายเยน
ณ เวลา 21.10 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.25% สู่ระดับ 113.36 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.12% สู่ระดับ 133.25 เยน และร่วงลง 0.11% สู่ระดับ 1.1758 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.05% สู่ระดับ 93.84
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ย. โดยปรับตัวขึ้น 228,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขรายได้ของแรงงานเพิ่มขึ้น 2.5% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 38,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 18,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 244,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และวุฒิสภาซึ่งได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลจนถึงวันที่ 22 ธ.ค.
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 235-193 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ ก่อนที่วุฒิสภาลงมติด้วยคะแนนเสียง 81-14 ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน
การลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในช่วงเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ