ยูโรพุ่งเทียบดอลลาร์,เยน หลัง ECB ส่งสัญญาณถอนตัวจากนโยบายผ่อนคลายการเงิน ขณะเศรษฐกิจฟื้นตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 11, 2018 22:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยูโรพุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และเยนในวันนี้ หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับลง 0.05% สู่ระดับ 111.36 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.75% สู่ระดับ 134.09 เยน และดีดตัวขึ้น 0.83% สู่ระดับ 1.2044 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.48% สู่ระดับ 91.89

ECB เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะทำการทบทวนแนวทางการสื่อสารของ ECB ในต้นปีนี้ และจะทำการปรับการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์ของการประชุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น

รายงานการประชุมดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB จะตัดถ้อยคำที่ว่า "ECB จะซื้อพันธบัตรจนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของ ECB" และเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB พร้อมจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งมีมูลค่า 2.55 ล้านล้านยูโร โดยจะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น

รายงานดังกล่าวแสดงว่า คณะกรรมการ ECB มองว่าการสื่อสารเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจะได้รับความสำคัญมากขึ้น ขณะที่การซื้อพันธบัตรจะมีบทบาทลดลงในฐานะเครื่องมือด้านนโยบายของ ECB

นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่ ECB ได้มีการหารือกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมหลังจากโครงการ QE สิ้นสุดลง บ่งชี้ว่าคณะกรรมการ ECB ให้การสนับสนุนมากขึ้นต่อการตัดสินใจยุติโครงการในปีนี้ หลังจากที่ได้ดำเนินการมานาน 3 ปี

ทั้งนี้ ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงสิ้นปีที่แล้ว และลดลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย.ปีนี้ อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า ธนาคารอาจจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรเกินกว่าเดือนก.ย. หากมีความจำเป็น และอาจมีการขยายวงเงิน QE หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง โดยธนาคารจะใช้มาตรการ QE จนกว่าภาวะเงินเฟ้อมีทิศทางดำเนินไปอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ