พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
การร่วงลงของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.341% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.988%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 3.2% โดยสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.9% จากแรงหนุนของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีประจำไตรมาส 3 จะอยู่ที่ระดับ 3.0%
การขยายตัวที่ระดับ 3.2% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1
การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2013 และช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีคิดเป็นสัดส่วน 0.87% จากที่ช่วยหนุนเพียง 0.18% ในไตรมาส 2
การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.8% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับระดับ 4.3% ในไตรมาส 2
ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในระดับสูง และสต็อกบ้านที่มีจำกัด
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2006 หลังจากเพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือนส.ค.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองซีแอตเติล (11.0%), พอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน (10.9%) และเดนเวอร์ (8.7%)
ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 107.1 ในเดือนพ.ย. หลังจากร่วงลงแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะแตะระดับ 101.2 ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะธุรกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน