สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะปฏิบัติตามข้อตกลงในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตอย่างจริงจังหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ได้จัดการประชุมเป็นเวลา 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 49.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 52.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนชะลอการซื้อขาย พร้อมกับจับตาการประชุมของเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ที่เมืองอาบู ดาบี ในระหว่างวันที่ 7-8 ส.ค.นี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงในการลดปริมาณการผลิตลงอย่างเต็มรูปแบบ
ที่ผ่านมา ลิเบียและไนจีเรียเป็นประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับลดกำลังการผลิต ภายหลังจากที่เกิดเหตุปะทะที่ยือเยื้อในประเทศ อย่างไรก็ดี ล่าสุดทั้ง 2 ประเทศได้เพิ่มปริมาณการผลิตสูงขึ้นจนใกล้แตะระดับสูงสุดแล้ว ส่งผลให้เกิดกระแสเรียกร้องว่า ทั้ง 2 ประเทศควรจะทำตามข้อตกลงในการควบคุมเพดานการผลิต
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ และเป็นบริษัทในเครือเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานทั่วโลกในเดือนก.ค. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 69 แท่น สู่ระดับ 2,110 แท่น จากระดับ 2,041 แท่นในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 629 แท่น จากระดับ 1,481 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในเดือนก.ค. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 22 แท่น สู่ระดับ 953 แท่น จากระดับ 931 แท่นในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย