กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
มหาวิทยาลัยอิสลามศึกษาทั่วโลกประกาศปฏิญญาปัตตานีหนุนสร้างเครือข่ายการศึกษาพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่พร้อมดัน ม.อ.ปัตตานี ศูนย์กลางภาษาอาหรับในไทย
มหาวิทยาลัยอิสลามศึกษาทั่วโลก ร่วมประกาศปฏิญญาปัตตานี ดันไทยเป็นศูนย์กลางอิสลามศึกษาของโลก พร้อมให้ ม.อ.วิทยาเขตปัตตานี เป็นศูนย์กลางภาษาอาหรับในไทย สร้างเครือข่ายทางด้านการศึกษาอิสลามศึกษา แลกเปลี่ยนอาจารย์ นักศึกษาและทำวิจัยทางวิชการร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งให้กับหลักสูตร เตรียมจัดประชุมทุก 2 ปี หวังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการทางอิสลามศึกษา
(วันที่ 23 ธันวาคม 2553) ที่วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตปัตตานี ผู้เข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติอิสลามศึกษา Role of Islamic Studies in Post Globalized Societies โดยมีตัวแทนนักวิชาการอิสลามศึกษากว่า 100 คนใน 16 ประเทศที่มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับอิสลามศึกษา อาทิเช่น อียิปต์ จอร์แดน มาเลเซีย ปากีสถาน ตูนีเซีย ตุรกี รวมถึงไทย ได้ร่วมประกาศปฏิญญาปัตตานี เพื่อประกาศให้ไทยเป็นศูนย์กลางอิสลามศึกษาของโลก และร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับอิสลามศึกษา เพื่อพัฒนาเยาวชนรองรับการแข่งขันในยุคโลกโลกาภิวัฒน์
รองศาสตราจารย์ ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า การประชุมทางวิชาการนานาชาติอิสลามศึกษา ถือว่าประสบความสำเร็จในการสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้นำศาสนาอิสลามในแต่ละประเทศได้เห็นถึงการทำนุบำรุงศาสนาอิสลาม การให้ความสำคัญกับหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับอิสลามศึกษา และผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทยทำให้มุมมองความคิดของกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามมีความเข้าใจในประเทศไทยดีขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมจึงเห็นชอบในการประกาศปฏิญญาปัตตานีจากกลุ่มประเทศมุสลิมที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนอิสลามศึกษา และพร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอิสลามศึกษาของโลก โดยมีประเด็นต่างๆ 5 ข้อ ได้แก่ 1.การให้อิสลามศึกษานำสันติสุขไปสู่ชุมชน 2. การบูรณาการศาสตร์อิสลามศึกษาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในอนาคต 3.การทำให้อิสลามศึกษาเป็นศาสตร์ของการมีชีวิตชีวา ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่นำไปสู่ความสงบสุข 4.การนำอิสลามศึกษาไปสู่ความร่วมมือกับประชาคมในระดับโลก 5. เน้นให้อิสลามศึกษามีโอกาสมาพบปะพูดคุยเรื่องสิทธิเสรีภาพ และพยายามปกป้องมรดกทางสังคม โดยที่ประชุมมีมติให้จัดการประชุมในลักษณะนี้ทุกๆ 2 ปี
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกันทางด้านวิชาการที่เกี่ยวกับอิสลามศึกษา ที่เน้นการสร้างเครือข่ายทางด้านการศึกษา ทั้งการแลกเปลี่ยนนักศึกษา คณะอาจารย์ การวิจัย และการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามในไทย และพัฒนาบุคลากรที่จบในหลักสูตรของอิสลามศึกษา เพื่อรองรับการแข่งขันเปิดเสรี ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดแรงงานของเยาวชนที่เรียนอิสลามศึกษาให้มีงานทำทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ภายใต้ปฏิญญาปัตตานี ที่ประกาศร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของการจัดงานประชุมนานาชาติในครั้งนี้ ที่ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นพ้องกันว่า จะร่วมกันผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอิสลามศึกษาของโลก และให้วิทยาลัยอิสลามศึกษา ม.อ.วิทยาเขตปัตตานี เป็นศูนย์กลางภาษาอาหรับในไทย โดยมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านวิชาการ เพื่อร่วมกันสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อรองรับกับการแข่งขันในยุคโลกาภิวัตน์และยังเป็นส่วนหนึ่งที่นำความสันติสุขคืนสู่สังคมคนภาคใต้ได้” รองศาสตรจารย์ ดร.บุญสม กล่าว
อธิการบดี ม.อ.กล่าวว่า การที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางอิสลามศึกษาในครั้งนี้ จะทำให้นักศึกษาจากประเทศมุสลิมให้ความสนใจที่จะเข้ามาศึกษาต่อในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ม.อ. มีความพร้อมด้านบุคลากรคณะอาจารย์ และหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่นักศึกษาที่เป็นมุสลิมในประเทศไทย หรือนักศึกษาที่มาจากประเทศมุสลิมที่สนใจเข้ามาเรียนหลักสูตรอิสลามศึกษาในไทย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเรียนไกลถึงประเทศตะวันออกกลางอีกต่อไป
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดยบริษัทมาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ในนามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: วารุณี คำไชย (แนน)
โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 119
e-mail : c_mastermind@hotmail.com,w.kham@hotmail.com
เว็บไซต์ : www.mtmultimedia.com