ที.จี.เอ็ม. ไส้กรอกไทยสไตล์เยอรมัน โชว์จุดเด่นดีกรีแชมป์โลก หวังซิวเบอร์หนึ่งตลาด อัดกลยุทธ์แบบ 360 องศา รุกตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตั้งเป้าไตรมาส 2 โต 20%

ข่าวทั่วไป Tuesday May 10, 2011 17:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ บริษัท ไทย เยอรมัน มีท โปรดักท์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ไส้กรอก ที.จี.เอ็ม. ตอกย้ำคุณภาพรางวัลเหรียญทองระดับโลก รุกตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยึดตลาดแถบเอเชีย ดำเนินกลยุทธ์ แบบ 360 องศา ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพิ่มทางเลือกใหม่ ออกแพคเกจจิ้งสำหรับผลิตภัณฑ์ไส้กรอก แฮม และเบค่อน ไซต์มินิ พร้อมชิมลางส่งแบบ เดลิเวอรี่ ตั้งเป้าไตรมาส 2 โตกว่า 20% จันทนา พัวพัฒนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เยอรมัน มีท โปรดักท์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเนื้อสัตว์แบรนด์ ที.จี.เอ็ม. เปิดเผยว่า “เศรษฐกิจปีนี้มีการฟื้นตัวไปในทิศทางบวกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่ามีแนวโน้มที่สดใส สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ระดับบนในช่องทางโมเดิร์นเทรดซึ่งมีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 20% ต่อปี โดยปัจจุบันแบรนด์ ที.จี.เอ็ม. มีส่วนแบ่งตลาดที่ 20% จัดอยู่ในอันดับ 1 หรือ 2 ของตลาด แต่ด้วยความกังวลในปัจจัยลบทางการเมืองทำให้ต้องมีแผนการดำเนินงานอย่างรัดกุม สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของแบรนด์ ที.จี.เอ็ม.นั้น นอกจากจะยังคงให้ความสำคัญต่อการผลักดันตลาดสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งนอกจากการพัฒนาศักยภาพของการผลิตสินค้าบริการให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายแล้ว ยังเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในร้านค้าปลีก ควบคู่ไปกับการดำเนินแผนการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายในประเทศ และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้จะเน้นในแถบเอเชียที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม พม่า กัมพูชา อีกทั้งยังได้มีการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดในกลุ่มฟู้ดเซอร์วิส ซึ่งเป็นกลุ่มร้านอาหารชั้นนำ และธุรกิจโรงแรม มองว่ามีช่องว่างการเติบโตที่สดใส เพราะมีความต้องการสินค้าเกรดพรีเมียมสูงมาก ช่วยลดภาวะการแข่งขันในเรื่องราคา เพราะเมื่อเทียบสินค้าที่ธุรกิจกลุ่มนี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว ของบริษัทฯ จะมีราคาที่ถูกกว่าเท่าตัว ทำให้สินค้าของบริษัทฯ เป็นที่ต้องการของตลาดกลุ่มนี้อย่างมาก ดังนั้นตลาดไฮเอนด์จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เพื่อเลี่ยงการแข่งขันในเรื่องของราคา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่เน้นการผลิตสินค้ามีคุณภาพเยี่ยม เป็นไปตามมาตรฐานสากล สำหรับการกระตุ้นตลาดในประเทศ บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มในเรื่องของการคิดค้นและพัฒนาทั้งในตัวผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้มีสินค้ามีความหลากหลาย มีการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มแอร์ไดร์ หรือหมักแห้ง และมีการเพิ่ม แพ็คเกจจิ้งสำหรับผลิตภัณฑ์ไส้กรอก แฮม และเบค่อนเกรดพรีเมี่ยมในไซต์มินิ ที่มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากกว่า 12 รายการ ออกสู่ตลาด อาทิ ไส้กรอกชีสหมู เบค่อน โทสต์แฮม ค๊อกเทลรมควันหนังกรอบ ไส้กรอกแฟร้งเฟิตเตอร์ไก่ ไส้กรอกแฟร้งเฟิตเตอร์หมู ไส้กรอกพ็อกสโมคกี้ ไส้กรอกพ๊อกจูเนียร์ ไส้กรอกชิกเก้นจูเนียร์ บาโลน่า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับประทาน และที่สำคัญเพิ่มคุณค่าของอาหารให้คงความสดใหม่อยู่เสมอ ในขนาด 90 กรัม สำหรับรับประทานในมื้อเดียว โดยได้มีการพัฒนาและออกแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ เริ่มวางจำหน่ายแล้วที่ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ในราคาแพ็คละ 35 — 45 บาท อีกทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น โดยในปี 54 นี้ ได้จัดสรรงบประมาณทางการตลาดทั้งหมดกว่า 30 ล้านบาท เพื่อใช้ในกิจกรรมทางการตลาดทั้ง แบบอะโบพเดอะไลน์ และบีโลเดอะไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และสาขานอกเมือง, กิจกรรมโรด์โชว์และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อเป้าหมายต่างๆ หลากหลายช่องทาง โดยตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 2 เติบโต 20% ด้านแผนการในอนาคต ของบริษัทฯ นั้น หลังจากที่ได้มีการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ บนพื้นที่ 12 ไร่ ในนิคมอุดสาหกรรมเวลโกรว์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2554 นั้น จะสามารถขยายกำลังการผลิตอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว จากโรงงานแห่งแรกผลิต 25 ตันต่อวันเพิ่มเป็น 40-50 ตันต่อวัน โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับความต้องการตลาดส่งออกในอนาคต ซึ่งเตรียมวางแผนที่จะขยายตลาดไปในประเทศญี่ปุ่นและจีน ในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า รวมทั้งรองรับการขยายตลาดในแถบอเมริกา และยุโรปด้วย ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ มีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% ของยอดขายทั้งหมด” จันทนา กล่าวปิดท้าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด โทร 0-2284-2662 คุณภาวิณี เอราวัน E-mail: pawinee@kanokratpr.com คุณกวิศรา กอวัฒนสกุล E-mail: kawitsara@kanokratpr.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ