พม.เดินหน้าปรับโครงสร้างการทำงาน ยกสำนักเทียบเท่ากรม ดูแลทุกกลุ่มเป้าหมายในสังคม

ข่าวทั่วไป Tuesday May 10, 2011 17:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--พม. วันนี้ (๑๐ พ.ค.๕๔) เวลา๑๓.๓๐ น.ที่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็น “โครงการศึกษาวิเคราะห์ระบบโครงสร้างส่วนราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย ในการพัฒนาระบบโครงสร้างการทำงานของกระทรวงฯ ให้มีประสิทธิภาพ โดยกล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๕ โดยมีหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาสังคม การสร้างความเป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคม การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและความมั่นคงในชีวิต โดยประกอบด้วยส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ โดยในส่วนภูมิภาคมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดและสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ เป็นราชการส่วนกลางทำงานเป็นศูนย์กลางส่วนงานสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งจากการแบ่งโครงสร้างการทำงานดังกล่าว จึงมีกรมที่ทำงานเชิงนโยบาย ๓ กรม แต่มีกรมที่ทำงานเชิงปฏิบัติการเพียงกรมเดียว ทำให้เกิดการทับซ้อนระหว่างหน่วยงานด้านวิชาการและปฏิบัติ ขาดการบูรณาการกันระหว่างหน่วยงาน อีกทั้งการทำงานในส่วนภูมิภาคยังไม่ชัดเจน จนผู้รับบริการเกิดความสับสน ประกอบกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เกิดปัญหาสังคมในด้านต่างๆที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงด้านประชากร ที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคตอันใกล้ จึงจำเป็นที่กระทรวงฯ ซึ่งทำงานด้านสังคม ต้องปรับปรุงระบบการทำงานให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ นางพนิตา กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้มอบหมายให้สถาบันที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพ ในระบบราชการ (สปร.)ดำเนินโครงการศึกษาวิเคราะห์ระบบโครงสร้างส่วนราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยทำการปรับโครงสร้างใหม่ ให้รวมหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ดำเนินงานทั้งในเชิงปฏิบัติและเชิงวิชาการ โดยยก ๓ สำนักงาน ให้เทียบเท่าระดับกรม ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) เป็นกรมกิจการเด็กและเยาวชน สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.)เป็นกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) เป็นกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และเพิ่มกรมกิจการผู้สูงอายุ ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต อีกทั้งเปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเป็นกรมประชาสงเคราะห์ดังเดิม ซึ่งจะช่วยลดความทับซ้อนในการทำงาน และสามารถให้บริการกลุ่มเป้าหมายได้เต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นหน่วยงานสนับสนุน (ศูนย์การเรียนรู้) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มากขึ้นด้วย โดยตามโครงสร้างใหม่นี้ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากบุคลากรในกระทรวงฯ ให้ความเห็นชอบด้วย ๘๓% และผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงฯ เห็นด้วยถึงร้อยละ ๙๑% ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นในวันนี้ จะได้นำไปปรับปรุงเพิ่มเติม และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ