ฟิลิปส์ครองแชมป์สร้างยอดขายสูงสุดกลุ่มเตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ ปี 2549 จากจีเอฟเค รักษาแชมป์ 3 ปีซ้อน พร้อมนำทัพสินค้าใหม่รุกตลาดปี 2550

ข่าวทั่วไป Wednesday June 13, 2007 15:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์
บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย คุณอุระสินี ดีประเสริฐ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก ประกาศความสำเร็จสร้างยอดขายอันดับหนึ่งผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ ปี 2549 ในตลาดประเทศไทย รับมอบ No.1 Award Certificate จาก บริษัท จีเอฟเค มาร์เก็ต-ติ้ง เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก พร้อมนำทัพผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์รุ่นใหม่ กระตุ้นตลาดเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มเตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ในประเทศไทย ปี 2550
บริษัท จีเอฟเค มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยรายงานสถิติการขายผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยปี พ.ศ.2549 ซึ่งแสดงว่าฟิลิปส์ครองตำแหน่งผู้นำสร้างยอดขายอันดับ 1 ของทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ และทำให้ฟิลิปส์ครองแชมป์สร้างยอดขายสูงสุดติดต่อกันถึงสามปีซ้อน
คุณอุระสินี กล่าวว่า “การสร้างยอดขายสูงสุดกลุ่มผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 — 2549 นั้น เป็นผลมาจากผู้บริโภคเชื่อมั่นต่อแบรนด์ฟิลิปส์ ทั้งในด้านของคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุดของผลิตภัณฑ์ ที่นำเสนอได้ตรงต่อไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง การเน้นการทำกิจกรรม ณ จุดขายทั่วประเทศ พร้อมไปกับการดำเนินกลยุทธ์การตลาดแบบ Consumer Experience Marketing ให้ผู้บริโภคสามารถทดลองประสิทธิภาพก่อนการตัดสินใจซื้อ การสร้าง brand awareness จากโฆษณาทีวีสำหรับผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่อง และการบริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคที่เข้ารับบริการการซ่อม”
เมื่อปี พ.ศ. 2549 ฟิลิปส์ได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เตารีดรวมทั้งสิ้น 25 รุ่น แบ่งเป็นเตารีดแห้ง 7 รุ่น ราคาระหว่าง 399 — 599 บาท และเตารีดไอน้ำ 18 รุ่น ราคาระหว่าง 690 — 17,900 บาท สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องปั่นอเนกประสงค์ฟิลิปส์วางจำหน่าย 7 รุ่น ราคาระหว่าง 999 — 4,590 บาท สามารถเลือกได้หลากหลายตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มต่างๆ
นอกจากนี้ การจัด roadshow ทั่วประเทศ เพื่อการทำกิจกรรม ณ จุดขาย โดยเน้นการสาธิตสินค้า และให้ผู้บริโภคสามารถทดลองและทดสอบประสิทธิภาพสินค้าก่อนการตัดสินใจซื้อ พร้อมไปกับการจัด consumer promotion campaign โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ฟิลิปส์ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการ
แข่งขันฟุตบอลโลก จึงได้จัดกิจกรรม “Big โชค World Cup กับฟิลิปส์” ให้ผู้บริโภคที่ซื้อเตารีด เครื่องปั่นอเนกประสงค์ เครื่องคั้นและสกัดน้ำผลไม้ เครื่องต้มกาแฟ เครื่องปิ้งขนมปัง และเครื่องทำ แซนวิช ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลโลกชิงรางวัลเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก และในไตรมาสที่ 4 ได้จัดกิจกรรม Let’s Celebrate Philips No.1 blender and Iron ร่วมลุ้นของรางวัลเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์เพื่อตอกย้ำว่าฟิลิปส์เป็นผู้นำตลาดทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ ฟิลิปส์ ประสบความสำเร็จสร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยในปี 2549
ฟิลิปส์ตอกย้ำ brand awareness สำหรับผลิตภัณฑ์เตารีดไอน้ำและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ด้วยโฆษณาทางทีวี โดยเลือกรายการและเวลาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
นอกจากนั้นฟิลิปส์มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคด้วยการบริการหลังการขาย ซึ่งปัจจุบันฟิลิปส์มีศูนย์บริการโดยแต่งตั้งทั้งสิ้น 115 ศูนย์ ทั่วประเทศ และฟิลิปส์มีบริการพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์เตารีด คือ การบริการ Hotline สายด่วน 24 ชั่วโมงสำหรับเตารีดไอน้ำระดับ high-end ที่มีแท็งค์ต้มน้ำแยกออกจากตัวเครื่อง รุ่น Intellicare และ Provapor โดยจะ ให้บริการภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับการแจ้ง (จันทร์-เสาร์) ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำ การใช้งาน และการตรวจเช็คซ่อมถึงบ้านพร้อมเครื่องสำรองใช้งาน สำหรับพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯและปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่ สุพรรณบุรี ภูเก็ต และสงขลา นอกจากนี้ศูนย์บริการ ฟิลิปส์ใน 16 จังหวัด ยังสามารถมีบริการซ่อมเสร็จภายใน 1 วัน สำหรับทุกผลิตภัณฑ์ของส่วนกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็กหลังนำผลิตภัณฑ์เข้าศูนย์บริการ
คุณอุระสินี กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับในปี 2550 นี้ ฟิลิปส์นำทัพผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ใหม่ นำเสนอนวัตกรรมใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพ ตลอดจนการดีไซน์ที่ทันสมัยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ตรงตามเป้าหมาย เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคชาวไทยสูงสุด และตอกย้ำความเป็นผู้นำและรักษาแชมป์การสร้างยอดขายสูงสุดในประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์เตารีดและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ฟิลิปส์ได้รับการออกแบบขึ้น และอยู่บนพื้นฐานของคำมั่นสัญญาแบรนด์ ‘sense and simplicity’ โดยฟิลิปส์คำนึงถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภค (Design around you) ใช้งานง่าย (Easy to experience) และมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย (advance)
คุณอุระสินี กล่าวว่า “สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เตารีดฟิลิปส์ชูจุดเด่นด้านคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุดพร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เพราะเตารีดไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงรีดผ้าให้เรียบและถนอมเนื้อผ้าเท่านั้นแต่ยังต้องทำให้การรีดผ้ามีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ง่ายดาย และได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ในปี 2550 นี้ ฟิลิปส์พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์เตารีดไอน้ำใหม่ 15 รุ่น ราคาระหว่าง 790 — 23,900 บาท อาทิ เตารีดไอน้ำฟิลิปส์รุ่น GC4430 ที่มาพร้อมกับพลังไอน้ำ Ionic DeepSteam สร้างไอน้ำที่มีอนุภาคเล็กลงกว่าเดิมสามารถซอกซอนเข้าลึกถึงเส้นใยผ้าและขจัดรอยยับที่รีดยากได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความสะดวกในการรีดผ้าที่แขวนไว้ด้วยพลังไอน้ำสำหรับการรีดในแนวตั้ง
“ผู้บริโภคให้ความสนใจและเริ่มใช้เตารีดไอน้ำเพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้ว่า เมื่อปี 2548 ตลาดรวมของเตารีดมีส่วนแบ่งมูลค่าตลาดของเตารีดไอน้ำ 53 เปอร์เซ็นต์ และในปี 2549 มีส่วนแบ่งมูลค่าตลาดของเตารีดไอน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ”
ฟิลิปส์เชื่อมั่นว่าการดำเนินกลยุทธ์ Conversion Strategy เพื่อให้ผู้บริโภคที่ใช้เตารีดแห้งปัจจุบัน เปลี่ยนมาใช้เตารีดไอน้ำ และกลยุทธ์ Upgrading Strategy เพื่อให้ผู้บริโภคเดิมหันมาใช้เตารีดไอน้ำรุ่นที่สูงขึ้นไป โดยการมุ่งการดำเนินกิจกรรม ณ จุดขาย จะทำให้ผู้บริโภคสามารถทดลองและทดสอบประสิทธิภาพของสินค้า และในขณะเดียวกัน ฟิลิปส์สามารถให้ความรู้และข้อมูลกับผู้บริโภคเพื่อการตัดสินใจก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานได้”
ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เตารีดฟิลิปส์ ด้วยประวัติการผลิตที่มีมานานกว่า 50 ปี (ตั้งแต่ปี 2499) ปัจจุบันเตารีดฟิลิปส์สามารถขายได้เฉลี่ยทุก ๆ 2.5 วินาที และฟิลิปส์ขายเตารีดได้ 13 ล้านเครื่องทั่วโลกต่อปี โดยรวมแล้วฟิลิปส์สามารถจำหน่ายเตารีดได้กว่า 290 ล้านเครื่องแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์เตารีดระดับโลก
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องปั่นอเนกประสงค์ คุณอุระสินีกล่าวว่า ฟิลิปส์เล็งเห็นว่า ปัจจุบันผู้บริโภคไทยหันมาให้ความสนใจการดูแลสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น และเริ่มทำอาหาร และปั่นน้ำผลไม้ ทำเครื่องดื่มสมูทตี้ ทานเองได้ที่บ้าน ดังนั้นจึงต้องการผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะมีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานแล้ว ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ช่วยให้งานครัวของผู้บริโภคง่ายขึ้น ดังนั้นเครื่องปั่นอเนกประสงค์ฟิลิปส์จึงได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เพราะมีประสิทธิภาพหลากหลายไม่ได้แค่ปั่นน้ำผลไม้ได้อย่างเดียว แต่สามารถที่จะปั่นส่วนผสมได้ละเอียดภายในเวลารวดเร็ว บดน้ำแข็งยูนิตได้ โถพลาสติกคุณภาพสูงที่ไม่ติดสี ไม่เก็บกลิ่น ไม่แตกง่ายและทำความสะอาดง่าย
ฟิลิปส์วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปั่นอเนกประสงค์ 8 รุ่น ราคาระหว่าง 999 — 4,590 บาท ในปี 2550 โดยไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ได้แก่รุ่น HR2084 ที่มีใบมีดฟันปลาแบบแยก 4 ทิศทางทำจากสแตนเลสสตีล สามารถปั่นส่วนผสมได้ทุกประเภท มีที่กรองแยกกากเพื่อแยกกากและเมล็ดออก สามารถปั่น, บดน้ำแข็งหรือปั่นส่วนผสมทุกประเภทได้ตามต้องการ เพียงแค่กดปุ่มการทำงานเท่านั้น ก็สามารถเตรียมอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
สำหรับนโยบายการส่งเสริมการตลาดและการขายนั้น ฟิลิปส์ยังคงมีแผนที่จะโฆษณาทีวีสำหรับผลิตภัณฑ์ เตารีดไอน้ำและเครื่องปั่นอเนกประสงค์ เพื่อตอกย้ำถึงประสิทธิภาพของเตารีดไอน้ำและการรับรู้ของแบรนด์ (brand awareness) และดำเนินกลยุทธ์การจัด roadshow พร้อมไปกับการเน้นการทำกิจกรรม ณ จุดขาย ทั่วประเทศ และ โปรโมทผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็กตลอดทั้งปี
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 02-6143333 ต่อ 3486, 3627

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ