ไมโครซอฟท์ชู 5 นวัตกรรมเซิร์ฟเวอร์ "เชื่อมโยง" องค์กรธุรกิจ ผนึกกำลังพันธมิตรเปิดตัวแคมเปญการตลาด "Be Connected"

ข่าวทั่วไป Tuesday April 27, 2004 17:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแผนการตลาดเซิร์ฟเวอร์ สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี จับกลุ่มเป้าหมายธุรกิจขนาดกลางและองค์กรในประเทศไทย
พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรออกแคมเปญการตลาดแบบเอนด์ทูเอนด์ชื่อ "Be Connected" เจาะลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงิน การผลิต การค้าปลีก และการจัดจำหน่าย
นายชาญชัย พันธุ์โสภา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "แคมเปญการตลาด Be Connected ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2547 มีเป้าหมายที่จะเพิ่มคุณค่าและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไมโครซอฟท์กับพันธมิตรธุรกิจซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าของเราด้วยเช่นกัน ไมโครซอฟท์จะผลักดันแคมเปญดังกล่าวโดยผ่านทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ ทั้งทางสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ สื่อออนไลน์ ไดเรคเมล การจัดกิจกรรม และการส่งเสริมการขาย"
สำหรับแคมเปญส่งเสริมการขายของไมโครซอฟท์ เมื่อสั่งซื้อภายใน 30 มิถุนายน 2547 ได้แก่ ลูกค้าจะได้รับโน้ตบุ๊ค Fujitsu LifeBook P5020 Widescreen มูลค่า 79,900 บาทเมื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์รวมกันตั้งแต่ 650,000 บาทขึ้นไป, เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant ML330 มูลค่า 62,560 บาทสำหรับยอดสั่งซื้อ 500,000 บาท, เลเซอร์พรินเตอร์ HP LaserJet 3380 All-in-one มูลค่า 34,510 บาทสำหรับยอดสั่งซื้อ 250,000 บาท และ พ็อคเก็ตพีซี HP 1940 มูลค่า 12,900 บาทสำหรับยอดสั่งซื้อ 100,000 บาท และพิเศษสุด เมื่อสั่งซื้อ 5 ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มครบ 100,000 บาท มีสิทธิ์ได้รับส่วนลด 10% สำหรับซื้อไมโครซอฟท์ออฟฟิศ"
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "การเปิดตัวแคมเปญ Be Connected สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดเซิร์ฟเวอร์และทูลของไมโครซอฟท์ทั่วโลก คือประมาณ 19% ถึงแม้ว่าจะประสบภาวะถดถอยมาหลายไตรมาส แต่ในไตรมาสนี้ธุรกิจของไมโครซอฟท์ทั่วโลกมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเกินความคาดหมาย ทั้งนี้จากการคาดการณ์ของไอดีซี พบว่าการเติบโตของการลงทุนด้านไอทีในประเทศไทยในปี 2547
จะอยู่ที่ 11.3% หรือประมาณ 2.332 พันล้านเหรียญ (93,280 ล้านบาท) ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากอินเดีย และ อินโดนีเซีย ตามลำดับ และปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตด้านไอทีในประเทศไทย ได้แก่ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของทางภาครัฐและภาคการศึกษา
การสนับสนุนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศจากทางภาครัฐ การปรับตัวลดลงของตลาดเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ระดับกลางจะมีการเติบโตค่อนข้างมากประมาณ 5% ในปี 2547 และการใช้ฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ขนาด 64 บิตบนระบบวินโดวส์ในตลาดส่วนใหญ่"
จากการทำตลาด Microsoft‚ Windows Serverƒ 2003 ทั่วโลกพบว่ามีการจำหน่ายลิขสิทธิ์เติบโตขึ้น 31% โดยกลายเป็นผลิตภัณฑ์ระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของไมโครซอฟท์ ซึ่งมีจำนวนลูกค้าลิขสิทธิ์มากกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้เท่าตัวเมื่อเทียบในช่วงระยะเวลาเดียวกันนับจากการเปิดตัว ในปีนี้ ไอดีซีได้คาดการณ์การเติบโตโดยรวมของตลาดฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยในปี 2547 อยู่ที่ 18% ซึ่งไมโครซอฟท์เชื่อมั่นว่าเฉพาะตระกูลซอฟต์แวร์ Microsoft‚ Windows Server Systemƒ อย่างเดียวก็สามารถมีอัตราการเติบโตแซงหน้าตลาดฮาร์ดแวร์ได้
"เป้าหมายของไมโครซอฟท์อยู่ที่การนำเสนอแพลตฟอร์มเทคโนโลยี .NET ให้แก่พันธมิตรและลูกค้าของเรา ด้วยโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพพร้อมด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น 3 ประการ ได้แก่ ระบบความปลอดภัย (Security Solution) การสื่อสารและการเชื่อมโยงการทำงานที่คล่องตัว (Communication & Collaboration Solution) และ การวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำฉับไว (Business Intelligence Solution)" นายชาญชัยกล่าว
นายชาญชัยกล่าวต่อว่า "ไมโครซอฟท์มีความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับพันธมิตรในการทำความเข้าใจ ในความต้องการของตลาดธุรกิจขนาดกลางและองค์กร เพื่อที่จะได้นำเสนอโซลูชั่นธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการนั้นๆ ได้มากที่สุด โซลูชั่นของไมโครซอฟท์ให้ประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มสูงสุด ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยต้นทุนที่ต่ำลง (Do more with less) อาทิ อัตราการรีบูทเครื่องที่น้อยลงถึง 80% เมื่อเปรียบเทียบกับระบบ NT Server 4.0 การปรับปรุงระบบการแชร์ข้อมูลโดยใช้ Microsoft‚ Windows‚ SharePointƒ การลดต้นทุนรวมการดำเนินงาน (Total Cost of Ownership: TCO) ถึง 20-30% การจัดการเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์ที่ง่ายขึ้น รวมทั้ง การเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์โดยสามารถลดการโจมตีจากภายนอกได้ถึง 60%"
Microsoft Windows Server System คือตระกูลผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลผลิตมากที่สุดเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างแอพพลิเคชั่น เน็ตเวิร์ค และเว็บเซอร์วิส โดยระบบแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์แบบเอนด์ทูเอนด์จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ความวางใจได้ และระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ระบบสภาพแวดล้อมของเซิร์ฟเวอร์ไมโครซอฟท์ยังให้ความง่ายในการใช้งาน และการปรับขยายขนาด ไมโครซอฟท์ประเทศไทยมีกำหนดจะจัดกิจกรรมสนับสนุนสำหรับพันธมิตรและลูกค้า ภายใต้แคมเปญ Be Connected ในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน 2547 อาทิ งาน Secured Email Solution for Mid-Sized Business, งาน Outlook in Marketing Management, งาน Business Productivity Center (BPC) Solution Month, งาน Exchange and Mobility Solution and SAP Summit 2004 ซึ่งการประชุมและสัมมนาทั้งหลายจะเน้นการนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ จากพันธมิตรของไมโครซอฟท์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากตระกูลไมโครซอฟท์ วินโดว์ส เซิร์ฟเวอร์ เช่น Microsoft Windows Server 2003, Microsoft‚ Windows‚ Small Business Server, Microsoft SQL‚ Serverƒ, Microsoft Windows SharePoint Portal Server 2003 และ Microsoft‚ Exchange‚ Server 2003
ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 บริษัทฯ เสนอซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้คนไทย ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับได้ตั้งแต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ระดับเมนเฟรม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย
ไมโครซอฟท์เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ ไมโครซอฟท์ คอร์ป ประเทศสหรัฐอเมริกา และ/หรือ ประเทศอื่นๆ ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวถึงในเอกสารชุดนี้อาจจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของนั้นๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณนฤมล วีระเดชะ คุณปัณฑ์ชนิต โรจน์อมรสวัสดิ์
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทรศัพท์: 0-2266 3300 ต่อ 217 โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 205
โทรสาร: 0-2266 3310 โทรสาร: 0-2627-3545
Email: naruemow@microsoft.com Email: panchanit.roatamornsawat@th.hillandknowlton.com--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ