MovieRomance

ข่าวบันเทิง Tuesday January 28, 2014 10:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม ประเภท Romance กำหนดฉาย 2กุมภาพันธ์ 2014 จัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์ อำนวยการสร้าง เมแกน แอลลิสัน (Zero Dark Thirty, True Grit) กำกับ/เขียนบท สไปค์ จอนซ์ (Being John Malkovich, Where the Wild Things Are) นำแสดง วาคิน ฟินิกซ์ (Gladiator, Walk The Line) สการ์เล็ต โจแฮนสัน (Lost in Translation, The Avengers) เอมี่ อดัมส์ (The Fighter, Man of Steel) เรื่องย่อ เรื่องราวในอนาคตอันใกล้ที่เกิดขึ้นในมหานครลอส แองเจิลลิส“Her”เล่าเรื่องราวของธีโอดอร์(วาคิน ฟินิกซ์) ชายหนุ่มผู้เขียนจดหมายเป็นอาชีพ ซึ่งทำให้เขาเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนไหวและเต็มไปด้วยความซับซ้อน หลังจากหย่าร้างกับภรรยาและต้องทุกข์ทนกับอาการใจสลาย ธีโอดอร์ก็ได้พบกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและซาแมนธา (สการ์เลต โจแฮนสัน) ด้วยความสดใสในน้ำเสียงและอารมณ์ขันของเธอ มิตรภาพที่เติบโตเป็นความรักรูปแบบใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น Her คือผลงานการเขียนบทและกำกับเรื่องล่าสุดจากผู้กำกับผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สไปค์ จอนซ์ นำแสดงโดยนักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ วาคิน ฟินิกซ์ (“The Master,” “Walk the Line,” “Gladiator”), นักแสดงสาวผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ เอมี่ อดัมส์(“The Master,” “Doubt”) นักแสดงสาวผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ รูนีย์ มารา (“The Girl With the Dragon Tattoo”) โอลิเวีย ไวลด์ และ สการ์เส็ต โจแฮนสัน เกี่ยวกับภาพยนตร์ ธีโอดอร์ มันถือเป็นเรื่องดีที่มีคนที่รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่ใกล้ๆ ผมแทบจะลืมความรู้สึกนี้ไปแล้ว ผู้เขียนบทและผู้กำกับ สไปค์ จอนซ์ได้ใช้สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในการถ่ายทอดเรื่องราวความรักในยุคใหม่ในภาพยนตร์เรื่อง Her “หนึ่งในแง่มุมที่ยากที่สุดของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็คือการมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ความใกล้ชิด และการยอมให้คนที่คุณรักสามารถคงความเป็นตัวตนของตัวเองไว้” เขากล่าว “เราทุกคนเติบโตขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะสามารถเปิดโอกาสให้เขาได้มีอิสระในความเป็นตัวเองได้อย่างไร ในวันแต่ละวัน จากวินาทีหนึ่งสู่วินาทีหนึ่ง ปีแล้วปีเล่า คนๆนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และเรายังจะสามารถรักเขาได้เหมือนเดิมมั้ย” และที่สำคัญยิ่งกว่า เขาจะยังรักคุณอยู่มั้ย? นี่คือคำถามสำคัญที่เกิดขึ้นหลังจากที่ธีโอดอร์ได้คอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่กลับมาที่บ้าน และทำให้เขาได้พบกับ ..ซาแมนธา “มันถูกโฆษณาว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่รับฟัง และเข้าใจคุณ” จอนซ์กล่าว ในฐานะที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ซาแมนธาได้แสดงให้เห็นถึงความเข้าอกเข้าใจและความอบอุ่น ในเวลาไม่นานเธอได้เผยให้เห็นถึงอารมณ์ขัน ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ และอารมณ์ความรู้สึกในตัวเธอที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ความมสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น จอนซ์เล่าว่า “ พวกเขาพัฒนาจากการเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวก กลายเป็นเพื่อนที่ไว้ใจกัน และพัฒนาไปในขั้นที่มากขึ้นกว่านั้น” Her คือผลงานการฉายเดี่ยวเขียนบทด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกของ จอนซ์ ซึ่งทำให้เขาสามารถที่จะลงลึกถึงรายละเอียดธรรมชาติความรักของมนุษย์ทื่ทุกคนต่างก็เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ร่วมกัน โดยได้เพิ่มไอเดียวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายคนหนึ่งกับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นสไตล์ภาพยนตร์ที่แฟนๆของจอนซ์ต่างก็คุ้นเคยกันดี ผลงานหลายเรื่องของเขามักจะผสมผสานเรื่องของเทคโนโลยี และความแปลกใหม่ เห็นได้จากการกำกับมิวสิควิดีโอ สารคดี และภาพยนตร์สุดโด่งดังอย่าง “Being John Malkovich” “Adaptation.” และ “Where the Wild Things Are”เป็นต้น วาคิน ฟินิกซ์ ผู้รับบทธีโอดอร์กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่อง Her ว่า “น่าตกตะลึง” เขาเล่าต่อว่า “ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีโอกาส สไปค์และผมมักจะพูดคุยกับเกี่ยวกับบทและตัวละคร มันยอดเยี่ยมมากครับที่เราได้ร่วมพัฒนารายละเอียดเหล่านี้ไปพร้อมๆกัน” “ผมเชื่อในสัญชาตญาณของเขา ถ้าเขารู้สึกไม่มั่นใจตรงไหน เขารู้ว่าเราจะต้องคิดให้มากขึ้น” ผู้กำกับจอนซ์หล่าวถึงการที่เขาติดต่อฟินิกซ์ทันทีหลังจากที่เขาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จในเวล่าไม่ถึงอาทิตย์ “แค่ 5 นาทีที่ผมได้พูดคุยกับเขา ผมคิดในใจว่า ‘ผมชอบผู้ชายคนนี้ ผมอยากให้เขาแสดงในหนังเรื่องนี้ให้ได้’ วาคินสามารถสื่อในเห็นถึงจิตใจของตัวละครตัวนี้แม้ธีโอดอร์จะเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แต่เขาก็มีความรู้สึกยินดี มีชีวิตชีวาอยู่ในตัว มันเป็นความแตกต่างที่แสดงถึงความอ่อนไหว ซึ่งวาคินจะสามารถแสดงให้เห็นถึงจุดนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน” สการ์เล็ต โจแฮนสัน รับบท ซาแมนธา ระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ที่มีความปรารถนาที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างและเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงธีโอดอร์ “แม้ว่าจะเป็นจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับทุกเรื่องในโลกนี้ได้ แต่เธอเลือกที่จะเปิดใจเรียนรู้ทุกอย่างในมุมมองที่บริสุทธ์” โจแฮนสันกล่าว หลังจากที่ซาแมนธาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับตัวตนของธีโอดอร์ เขาเริ่มที่จะพยาซาแมนธาออกไปท่องโลก เพื่อเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเมทอง ภูเขา ทะเล และนำเธอไปรู้จักกับกิจวัตรในชีวิตประจำวันของเขา สิ่งเหล่านี้ทำให้ธีโอดอร์เริ่มที่จะมองเห็นตัวเองต่างออกไปจากเดิม จุดนี้เองที่ผู้กำกับเชื่อว่ามันจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของความโรแมนติคที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ “คุณทำให้อีกฝ่ายได้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปในการมองสิ่งต่างๆ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของการตกหลุมรัก การได้อยู่เคียงข้างคนที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณจนทำให้ตัวคุณได้พบแง่มุมที่แปลกใหม่” เขากล่าว “Her”ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์รักโรแมนติกทั่วๆไป แต่มันเริ่มต้นจากการการแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความทุกข์ไปจนถึงห้วงเวลาแห่งความสุขและการได้สะท้อนกลับมามองตัวตนของตัวเองของตัวละครในภาพยนตร์ ฟินิกซ์และโจแฮนสันสองนักแสดงหลัก ร่วมกับผู้กำกับ จอนซ์ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกับความท้าทายในการแสดงถึงตัวตนของซาแมนธา ที่ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้ยินเพียงแค่เสียงของเธอเท่านั้น “มีหลายแง่มุมในตัวซาแมนธา” จอนซ์กล่าว “ แม้ว่าเธอจะไม่มีมารยา แต่ก็มีความฉลาดอยู่ในตัว นอกจากนี้ยังมีความเซ็กซี่ท มีเสน่ห์ ร่วมทั้งยังมีพัฒนาการด้านอารมณ์ไม่แตกต่างจากมนุษย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงของสการ์เล็ต” โจแฮนสันเล่าถึงการถ่ายทำว่า “มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางครั้งวาคินและฉันก็มาอัดเสียงร่วมกัน แต่บางครั้งฉันก็ทำมันกับสไปค์ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือความเป็นตัวตนของตัวละคร ที่จะต้องทำออกมาให้คงเดิมให้ได้ดีที่สุด” “ทุกฝ่ายๆที่มีส่วนร่วมในการถ่ายทำ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำทุกอย่างออกมาให้สมจริงและเป็นธรรมชาติมากที่สุด” ฟินิกซ์กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับบรรยากาศในการถ่ายทำ “การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบท การทำงานร่วมกับสการ์เล็ต ไปจนถึงความรู้สึกในกองถ่าย มันถือเป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์มากครับ” ไอเดียของภาพยนตร์เรื่อง “Her” อยู่ในหัวสมองของจอนซ์มานานนับสิบปี “แรงบันดาลใจของผม เริ่มต้นขึ้นจากการที่ได้อ่านบทความเมื่อ 10 ปีก่อน เกี่ยวกับระบบโต้ตอบข้อความกับคอมพิวเตอร์ ผมได้ทดลองทำมันและพิมพ์ไปว่า ‘สวัสดี’ มันตอบกลับมาว่า ‘สวัสดี’ ‘สบายดีมั้ย’ ‘สบายดีแล้วคุณล่ะ’ ข้อความโต้ตอบเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจ ผมคุยกับมัน และมันตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมพูด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่โปรแกรมหนึ่งเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นจริงๆครับ หลังจากนั้นมันทำให้ผมได้แนวคิดเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกนึกคิด ซึ่งผมได้พัฒนาให้กลายเป็นภาพยนตร์รักเรื่องนี้” เมื่อเริ่มต้นเขียนบทภาพยนตร์ จอนซ์ได้ตัดสินใจที่จะร่วมพัฒนาไอเดียกับโปรดิวเซอร์ที่เคยร่วมงานกับเขามาแล้วอย่าง วินเซนต์ ลันเดย์ และ เมแกน เอลิสันผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ “เมเกนเป็นคนที่น่าประทับใจมากครับ เธอมีไอเดียที่ชัดเจน และมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานที่ให้ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เธอทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมและพิเศษมาก” เอลิสันกล่าวว่า "การทำงานร่วมกับสไปค์ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า เขาเป็นผู้กำกับที่มีความเข้าใจและเป็นอัจฉริยะ เขามีความลึกซึ้งในเรื่องของความคิดและอารมณ์ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมทั้งในแง่ของความเป็นตัวเขาและในผลงานที่เขาทำ สไปค์มักจะทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจได้อยู่เสมอค่ะ” การทำงานในโปรเจคภาพยนตร์เรื่อง “Her” ทำให้สไปค์ จอนซ์ได้พบกับบรรดาทีมงานมากฝีมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบงานสร้าง เค เค บาร์เร็ต นักตัดต่อ เอริค ซัมบรูนเนน และ นักออกแบบเครื่องแต่งกาย เคซีย์ สตอร์ม นอกจากนี้ยังถือเป็นการทำงานร่วมกันครั้งแรกระหว่างจอนซ์และนักถ่ายทำฝีมือดีอย่าง ฮอยต์ แวน ฮอยเทมา ผู้ซึ่งจอนซ์กล่าวถึงว่า “สิ่งที่ผมรู้สึกชื่นชมอย่างมากในตัวของเขาก็คือความละเอียดอ่อนในวิธีการทำงานของเขา ด้วยความรู้สึกต่างๆที่ผมต้องการจะถ่ายทอดออกมาในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฮอยต์สามารถทำมันออกมาได้อย่างละมุนละไมและเปี่ยมไปด้วยความเป็นศิลปิน” “เรามีแนวคิดมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีและโลกมนุษย์ที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งบางครั้งทำให้มนุษย์รู้สึกโดดเดี่ยว รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงไปของสังคมที่มนุษย์อัยอยู่” จอนซ์กล่าว “ในระหว่างการเขียนบทภาพยนตร์ของผม ผมมักจะใส่เรื่องราวเหล่านี้ไว้เป็นเหมือนกับฉากหลังของภาพยนตร์ จุดที่ผู้ชมจะได้เห็นจริงๆมักจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างธีโอดอร์และซาแมนธา ทุกๆฉากของพวกเขาทั้งคู่ จะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในฐานะของคู่รัก เราพยายามที่จะมองพวกเขาในฐานะของคนสองคนที่มีความรักและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งจะเผยให้เห็นแง่มุมที่หลากหลายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” “ผมอยากจะเล่าถึงประเด็นเรื่องของความปรารถนาและความกลัวของมนุษย์ การตัดสินใจและความคาดหวังที่เรามีเมื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ สิ่งที่เราพยายามที่จะไม่ยอมรับ สิ่งที่เราแสร้งทำเหมือนว่าเราไม่ต้องการ ความรู้สึกที่เราอยากจะมีความสัมพันธ์กับคนอีกคน แต่ในที่สุดมันกลับล้มเหลว เราอยากให้คนอื่นเข้าใจและรู้จักเรา แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รู้สึกกลัวที่จะยอมให้ใครมารู้จักตัวตนของเราจริงๆ” “ซาแมนธาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีการพัฒนา” เขากล่าว “และเมื่อเธอเริ่มต้นทำงาน มันก็เหมือนกับมนุษย์ที่ต้องใช้ชีวิต เราไม่รู้เลยว่าสิ่งต่างๆจะนำพาเราไปสู้จุดไหนและเราจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน เมื่อคุณรักใครซักคน นั่นคือราคาของความเสี่ยงที่คุณต้องยอมจ่าย”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ