TK พอร์ทเช่าซื้อโต 4.8% ในขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์หดตัวเกือบ 6%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 27, 2014 09:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--ฐิติกร - เห็นสัญญาณลบตั้งแต่ต้นปี ทำให้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเพื่อความมั่นคงระยะยาว - เตรียมพร้อมเติบโตต่อหลังการเมืองสงบ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายงานผลประกอบการประจำปี 2556 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ารายได้รวมอยู่ที่ 3,883.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221.1 ล้านบาท เติบโต 6.0% ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้ออยู่ที่ 9,058.8 ล้านบาท เติบโต 4.8% มากกว่าตลาดรถจักรยานยนต์เกือบ 2 เท่าตัว แม้ว่าภาวะการแข่งขันจะรุนแรงและเศรษฐกิจซบเซา นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่าแม้ว่าปัญหาทางการเมืองได้ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ แต่ TK ยังคงมีอัตราเติบโตต่อเนื่องโดยมีรายได้รวม และลูกหนี้เช่าซื้อเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าไม่เข้าเป้าที่วางไว้ “ส่งออกเริ่มถดถอยตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 และโครงการรับจำนำข้าวที่มีปัญหามาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ได้ส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสำคัญของเรา ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของเราโดยตรง” นางสาวปฐมากล่าว และเสริมว่าลูกหนี้ของ TK ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ประกอบกับความไม่สงบทางการเมืองในช่วงไตรมาสที่ 4 จึงมีผลกระทบต่อรายได้และการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง นางสาวปฐมากล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินการในภาพรวมนั้น TK มีกำไรสุทธิที่ 428.7 ล้านบาท ลดลง 283.4 ล้านบาท หรือ 39.8% จาก 712.1 ล้านบาท ในปี 2555 ทั้งนี้เนื่องจาก TK ได้เล็งเห็นสัญญาณลบทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปี ซึ่งส่งผลให้ TK เร่งการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญและตัดหนี้สูญ โดยค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญรวมปี 2556 จำนวน 1,203.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญรวม 970.3 ล้านบาท “จากการเร่งตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นและตัดหนี้สูญทำให้ผลประกอบการในช่วงสั้นลดลง แต่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การแข่งขันของค่ายรถมอเตอร์ไซค์ถือว่ารุนแรงมาก โดยผู้ผลิตเปิดตัวสินค้ารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มากกว่า 30 รุ่น ทำให้บริษัทต้องเร่งขายรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความนิยมและราคาที่ปรับตัวลดลง” ปฐมากล่าว นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา TK ยังคงมีการลงทุนขยายสาขาเพิ่มอีก 7 สาขาในปีที่แล้วเพื่อรองรับกับเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดให้เพิ่มขึ้นจาก 65 - 70% มาเป็น 80% ในเวลา 2 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบัน TK มีสาขาทั่วประเทศทั้งสิ้น 90 สาขา และในปีนี้ TK ยังคงขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 4 - 5 สาขา และเดินหน้าเพิ่มพนักงานอีก 200 คน เตรียมขยายธุรกิจ มั่นใจโตได้อีกหลังการเมืองสงบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ