ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 900 ล้านบาท “บ. ฐิติกร” ที่ระดับ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 18, 2014 16:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--ฐิติกร ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 900 ล้านบาทของ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับในธุรกิจสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ตลอดจนความสามารถในการดำรงสถานะผู้นำตลาด การมีตลาดที่กระจายตัวทางภูมิศาสตร์ผ่านเครือข่ายสาขาที่กว้างขวาง ความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นต่อเนื่องแม้ว่าผลการดำเนินงานจะอ่อนลงในปี 2556 ที่ผ่านมา รวมถึงโครงสร้างเงินทุนที่ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังคงมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของธุรกิจซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลักเพียงประเภทเดียวคือสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รวมถึงการมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความอ่อนไหวต่อการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ รวมถึงการมีเครือข่ายสาขาที่กว้างขวางจะช่วยให้บริษัทสามารถดำรงสถานะผู้นำตลาดและมีผลประกอบการทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่งต่อไปได้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะรักษาระดับฐานทุนที่แข็งแกร่งในปัจจุบันเอาไว้เพื่อช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจและจากบรรยากาศการแข่งขัน โดยที่ระดับฐานทุนที่แข็งแกร่งยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคตด้วย สินเชื่อของบริษัทฐิติกรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 5.7% ในปี 2556 เป็น 9,624 ล้านบาทจาก 9,109 ล้านบาทในปี 2555 ณ สิ้นปี 2556 สินเชื่อรถจักรยานยนต์คิดเป็น 85% ของสินเชื่อรวม ขณะที่อีก 15% เป็นสินเชื่อรถยนต์ บริษัทสามารถดำรงสถานะความเป็นผู้นำตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากว่า 30 ปีเมื่อพิจารณาจากจำนวนบัญชีสินเชื่อใหม่ บริษัทมีการกระจายฐานการตลาดในทางภูมิศาสตร์ที่เหนือกว่าคู่แข่งโดยให้บริหารผ่านสาขาที่ครอบคลุม 53 จังหวัดทั่วประเทศ เครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งส่งผลให้บริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ซึ่งมักเน้นเฉพาะลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและพนักงานที่มีประสบการณ์ยาวนาน ตลอดจนเครือข่ายสาขาที่กว้างขวาง และระบบการบริหารงานและการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสนับสนุนความพยายามของบริษัทที่จะดำรงสถานะผู้นำตลาดเอาไว้ให้ได้ คุณภาพสินเชื่อโดยรวมของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในปี 2555 หลังจากที่ผลประกอบการทางการเงินได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 เช่นเดียวกับผู้ให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์รายอื่น ๆ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับลดลงเป็น 3.6% ของสินเชื่อรวมในปี 2555 จาก 4.3% ณ สิ้นปี 2554 ในปี 2556 ผลจากการแข่งขันที่รุนแรงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทำให้บริษัทต้องดำเนินนโยบายพิจารณาสินเชื่อในเชิงรุกมากขึ้นเพื่อรักษาสถานะทางการตลาดไว้ นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและความไม่สงบทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้บริษัท ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ณ สิ้นปี 2556 แม้ว่าจะมีความกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถควบคุมและปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อให้ดีขึ้นได้ โดยอาศัยประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจสินเชื่อรถจักรยานยนต์ การวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในรุ่นใหม่ๆ ที่มากมายในปี 2556 ได้กดดันต่อราคารถจักรยานยนต์มือสองให้ลดต่ำลง ทำให้ผลขาดทุนจากการขายรถจักรยานยนต์ยึดคืนของผู้ประกอบการส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 52.4% ในปี 2556 จาก 47.2% ในปี 2555 แม้ว่าต้นทุนการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น บริษัทยังคงสามารถจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ยึดคืนในราคาที่สูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่น เนื่องจากบริษัทมีศูนย์ปรับสภาพรถเป็นของตนเองก่อนที่จะนำออกประมูล ด้วยปัจจัยลบต่าง ๆ ในปี 2556 ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทลดลงค่อนข้างมาก โดยลดลงเป็น 429 ล้านบาทในปี 2556 จาก 712 ล้านบาทในปี 2555 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยก็ปรับลดลงช่นกัน โดยลดลงเป็น 4.3% ในปี 2556 จาก 7.8% ในปี 2555 ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากคุณภาพลูกหนี้และค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับที่น่าพอใจดังช่วงที่ผ่านมา สินเชื่อของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นในอัตราการเติบโตที่ 11.5% ในช่วงดังกล่าว แม้ว่าสินเชื่อของบริษัทจะขยายตัว แต่ความสามารถในการทำกำไรที่สูงได้ช่วยรักษาฐานทุนของบริษัทให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมปรับลดลงเล็กน้อยจาก 43.1% ในปี 2552 เป็น 39.1% ในปี 2556 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาอัตราส่วนโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งนี้เอาไว้ได้ การมีฐานทุนที่แข็งแกร่งจะมีส่วนช่วยรองรับความเสี่ยงด้านเครดิตที่สูงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจมากกว่า บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) (TK) อันดับเครดิตองค์กร: A- อันดับเครดิตตราสารหนี้: TK146A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A- TK165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A- TK167A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 570 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A- หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 900 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A- แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ