กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--PRDD
สภาวะตลาดวันที่ 11 เมษายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,314.35-1,321.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ14 อยู่ที่ 20,190 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,260 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ14 อยู่ที่ 641 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 641 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.57 น. ของวันที่ 11/04/14)
แนวโน้มวันที่ 16 เมษายน 2557
ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลงอาจกระทบอุปสงค์ทองคำ ซึ่งจีนเป็นประเทศผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลก ทั้งนี้ ราคาทองคำในจีนร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่าราคาในตลาดลอนดอนราว 2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่เคยอยู่เหนือราคาลอนดอนในช่วงก่อนหน้า ขณะที่การฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศดูเหมือนว่าจะแย่กว่าปกติเนื่องจาก นักลงทุนในตลาดทองคำ จับตาการประกาศประกาศข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกของจีน ในวันที่ 16 เมษายน โดยมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในอัตราต่ำสุด ในรอบ 5 ปีในไตรมาสแรก ของ ปี 2557 ขณะที่ภาวะชะลอตัวในช่วงต้นปีนี้เป็นไปตามความต้องการของรัฐบาลที่พยายามสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจจีน โดยค่ากลางจากการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 7.3% ในไตรมาสแรก จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วหลังจากที่ขยายตัว 7.7% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่นมา ความกังวลดังกล่าวส่งลบเชิงลบต่ออุปสงค์ทองคำในตลาดปัจจุบันให้อยู่ภาวะอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นแรงหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำ เมื่อกองทัพอากาศเกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-25 เมษายนนี้ โดยเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดที่มีอากาศยานเข้าร่วมถึง 103 ลำ และทหาร 1,400 นาย แนะนำว่านักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะกระแสข่าวที่เข้ามาส่งผลต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน ซึ่งวายแอลจียังคงมีมุมมองว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะเป็นไปในลักษณะ Sideway Up นักลงทุนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงมากจนเกินไปควรรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงมาในโซนแนวรับสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,300 หรือ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,340 หรือ 1,349 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,300 (19,840บาท) 1,292 (19,720บาท) 1,280 (19,530บาท)
แนวต้าน 1,340 (20,450บาท) 1,349 (20,590บาท) 1,360 (20,760บาท)
GOLD FUTURES (GFJ14)
แนวรับ 1,300 (19,960บาท) 1,292 (19,840บาท) 1,280 (19,650บาท)
แนวต้าน 1,340 (20,580บาท) 1,349 (20,710บาท) 1,360 (20,880บาท)
SILVER FUTURES (SVJ14)
แนวรับ 19.45 (626 บาท) 19.20 (618 บาท) 18.95 (610 บาท)
แนวต้าน 20.50 (660 บาท) 20.75 (668 บาท) 21.05 (677 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148