BURBERRY THE TRENCH COAT (เบอร์เบอรี่ เดอะ เทรนช์โค้ท) สัญลักษณ์แห่งอังกฤษ คลาสสิค มีไสตล์

ข่าวทั่วไป Wednesday April 16, 2014 12:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 เม.ย.--ขอบฟ้าพีอาร์ เอเจนซี่ การสวมใส่เสื้อผ้าสามารถบ่งบอกถึงไสตล์แต่ละคนได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ มีทั้งดีไซน์ที่เป็นแฟชั่นมาก ซึ่งรับรองว่าใส่ได้เฉพาะช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่หากเลือกสรรดีไซน์ที่มีความคลาสสิคแล้ว ย่อมสามารถใส่ได้บ่อย ใส่ได้นาน และทุกโอกาส BURBERRY (เบอร์เบอรี่) แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากอังกฤษ ขอแนะนำ “Trench Coat” (เทรนช์โค้ท) เครื่องแบบของทหาร ด้วยเนื้อผ้าคุณสมบัติพิเศษ แสดงความเป็นอังกฤษ มีความคลาสสิค และเป็นนิยมมาอย่างยาวนาน เป็นระยะเวลากว่า 100 ปีที่ “Trench Coat” ได้ถูกออกแบบขึ้น ในยุคแรกนั้นใช้เป็นเครื่องแบบของทหารชาวอังกฤษ มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่จาก ลม ฝน และสภาพอากาศที่แปรปรวนของประเทศ โดยใช้ชื่อว่า “Trench Coat” (เทรนช์โค้ท) ซึ่งหมายถึงหลุมหลบภัย ที่ทหารใช้เป็นที่ประจำการ (Trench) ในยุคนั้น มีที่มาและประวัติศาสตร์อันยาวนาน อันเป็นสัญญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นอังกฤษ มีความคลาสสิค เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานและเป็นไอคอนของแบรนด์ BURBERRY ในยุคปัจจุบัน Trench Coat ถูกออกแบบและจดสิทธิบัตรในปี 1912 โดย โทมัส เบอร์เบอรี่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เขาได้ใช้เนื้อผ้าที่เขาได้คิดค้นขึ้นเองมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถกันน้ำได้ สวมใส่สบาย และสามารถปกป้องร่างกายจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ แต่ในสภาพอากาศที่ร้อนก็จะมีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี ในขณะที่มีความแข็งแรงคงทนมาก เนื้อผ้าชนิดพิเศษนี้คือ “ผ้ากาบาร์ดีน” (Gabardine) ด้วยเนื้อผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษนี้เอง จึงเป็นที่นิยมสวมใส่มากในราชวงศ์อังกฤษ รวมไปถึงเหล่าบรรดาศิลปินและ นักแสดงในปัจจุบัน คนดังมากมายสวมใส่ Trench Coat โดยเฉพาะในเมืองผู้นำแฟชั่นทั้งลอนดอน ปารีส นิวยอร์ก และเซี่ยงไฮ้ เนื้อผ้ากาบาร์ดีน (Gabardine) คือเนื้อผ้าที่ทอขึ้นอย่างแน่นหนา แต่งต่างจากโค้ททั่ว ๆ ไป ถูกออกแบบขึ้นครั้งแรกในปี 1879 โดยโธมัส เบอร์เบอรี่ ที่ต้องการผลิตเสื้อที่สามารถกันฝนได้ แต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งในสมัยนั้นผ้ากันฝนจะทำมาจากผ้าที่นำไปเคลือบแวกซ์เพื่อให้มีคุณสมบัติกันน้ำ แต่ข้อเสียคือจะมีน้ำหนักมาก และสวมใส่ไม่สบาย ดังนั้นโธมัสจึงได้คิดค้นนวัตกรรมพิเศษขึ้นเพื่อผลิตผ้าที่มีคุณสมบัติกันน้ำแต่สวมใส่สบายขึ้น เส้นด้ายที่นำมาทอเป็นลายทะแยงมีความถี่ 100 เส้น/ 1 ตร.ซม. ระหว่างเส้นด้ายที่ถูกทอขึ้นแต่ละเส้นจะมีช่องว่างเล็กๆ เพื่อระบายอากาศในขณะที่โครงสร้างของเนื้อผ้ามีความละเอียดมากเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึม ถักทอขึ้นจากโรงงานของ BURBERRY ในประเทศอังกฤษ ปัจจุบันนี้ผ้ากาบาร์ดีนได้ถูกทอขึ้นโดยใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับกระบวนการใหม่ๆ ที่ช่วยให้กันน้ำได้ดียิ่งขึ้น BURBERRY จะพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การเลือกเส้นด้ายในการถักทอ ไปจนถึงการควบคุมสีของเนื้อผ้าซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติสีจากผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง หลังจากตรวจสอบเนื้อผ้าและสีของกาบาร์ดีนแล้วขั้นตอนสุดท้ายจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งด้วยสายตาเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อผ้าที่ได้เป็นผ้าที่สมบูรณ์แบบจริง Thomas Burberry ดีไซน์ของ Trench Coat ได้รับการพัฒนามาจากเครื่องแบบของทหารประจำการ ทุกรายละเอียดล้วนถูกออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ เช่น - อินทรธนู (Epaulettes) มีไว้เพื่อประดับยศของเจ้าหน้าที่ - แผ่นด้านหน้าหัวไหล่ (Gun Flap) สำหรับปกป้องไหล่จากแรงกระแทกเวลายิงปืน - ผ้าชั้นที่ 2 ที่แผ่นหลังด้านบน (Storm Shield) เพื่อป้องกันฝนหรือน้ำไม่ให้กระทบหลังโดยตรง โดยน้ำจะไหลลงไปทางด้านหลัง - เข็มขัดมีโลหะรูปตัวดี (D-Ring) รอบเส้น สำหรับพกพาอาวุธทางการทหาร - แถบพลีทจีบที่ชาย Trench Coat นั้นมีไว้เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวเวลาวิ่งหรือขี่ม้า ดีไซน์ในแต่ละจุดล้วนแล้วแต่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารทั้งสิ้น ช่างฝีมือ (Craftmanship) Trench Coat ทั้งหมด ผลิตขึ้นในเมืองคาสเซิ่ลฟอร์ดซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ โดยช่างผู้ชำนาญการซึ่งผสมผสานเทคนิคแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ Trench Coat 1 ตัวประกอบด้วยขั้นตอนการผลิตกว่า 100 ขั้นตอนและอาศัยความชำนาญของช่างผู้มากประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพที่ดี ดังที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ส่วนที่ซับซ้อนที่สุดส่วนปกเสื้อ ซึ่งมีการเย็บอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ BURBERRY ช่างที่ตัดเย็บจะต้องฝึกฝนโดยใช้เวลากว่า 1 ปีก่อนที่จะมีความเชี่ยวชาญในการเย็บปกเพียงอย่างเดียวเพราะจะต้องเย็บด้วยมือ ตะเข็บบนปกนั้นจะถูกกำหนดให้มี 11.5 ฝีเข็มต่อความยาว 1 นิ้ว ทั้งนี้เพื่อให้ปกมีความโค้งมนรับกับคอของผู้สวมใส่อย่างสมบูรณ์ รายละเอียดในการผลิตสายรัดข้อมือตรงปลายแขนเสื้อและเข็มขัดนั้นเป็นอีกจุดหนึ่งที่ BURBERRY ให้ความสำคัญ จะต้องตัดเย็บให้ตะเข็บเรียบและแบน ในขณะที่จีบที่ชายเสื้อด้านหลังนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงแบบเลย จีบที่ชายเสื้อดังกล่าวออกแบบไว้สำหรับการขี่ม้าโดยเฉพาะ ช่างฝีมือผู้มีความเชี่ยวชาญจะให้ความสำคัญกับการตัดเย็บทั้งภายนอกและภายใน Trench Coat ทุกตัวจะมีซับในลายBURBERRY CHECK ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ เป็นลายตารางประกอบด้วยสีคาเมล สีงาช้างสีแดง และสีดำ ซับในแต่ละชิ้นจะต้องวางให้ลายเรียงต่อกันพอดี โดยเฉพาะซับในบริเวณใต้คอปกจะเย็บขึ้นจากผ้าลายเชค 2 ชิ้นเรียงตัวกันทำมุม 45 องศาพอดีเพื่อรับกับส่วนโค้งที่คอ เฮอริเทจ คอลเลคชั่น ในช่วงที่ผ่านมา วิวัฒนาการของเบอร์เบอรี่เทรนช์โค้ทได้ถูกปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องในแต่ละซีซั่นเพื่อให้มีความเป็นโมเดิร์นเหมาะสมกับยุคสมัย มีการปรับรูปทรง ซิลลูเอท เนื้อผ้า และสีสันในแบบต่างๆ แต่ยังไว้ซึ่งคงความเป็นเอกลักษณ์ในแบบที่ได้รับการตกทอดมาจากเทรนช์โค้ทรุ่นดั้งเดิม สำหรับ คอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2014 BURBERRY จะนำ เทรนช์โค้ทรุ่นที่เป็นเฮอริเทจกลับมาอีกครั้ง โดยคอลเลคชั่นนี้ผลิตขึ้น 3 สีในรูปทรงต่างๆ กันคือ สีน้ำผึ้ง สีเทาหิน และสีดำ นอกจากนั้น BURBERRY ขอแนะนำแอคเซสเซอรี่ที่มากับเทรนช์โค้ทด้วย ได้แก่ - ผ้าพันคอแคชเมียร์ ซึ่งสามารถติดกระดุมเข้ากับชุดเทรนช์โค้ทของคุณได้ - โอเวอร์คอลล่าร์ ปกเสื้อที่สามารถติดกระดุมเข้ากับชุดเทรนช์โค้ท มีทั้งวัสดุขนมิ้งค์และหนังนาป้า BURBERRY.COM LINKS http://www.burberry.com/womens-heritage-trench-coat-collection/ http://www.burberry.com/mens-heritage-trench-coat-collection/ เชิญสัมผัสเทรนช์โค้ทไอคอนของแบรนด์ได้แล้วที่ช็อป BURBERRY - ชั้น M สยามพารากอน โทร.02 610 9719 - ชั้น 6 แผนกเด็ก เซ็นทรัลชิดลม โทร.02 655 7752 Website: Burberry.com IG : @Burberry FB: www.facebook.com/burberry

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ