โพลล์สำรวจความรับรู้ของวัยรุ่นเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์

ข่าวทั่วไป Wednesday April 16, 2014 18:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 เม.ย.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ,ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ แถลงผลการสำรวจความรับรู้ของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพมหานคร เนื่องในวันสงกรานต์ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ทำการสำรวจกลุ่มเยาวชนไทย ในกรุงเทพมหานคร อายุระหว่าง 15-25 ปี ระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า โดยวิธีการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ในระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน 2557 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,105 คน เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปประยุกต์เพื่อลดอุบัติเหตุและป้องกันปัญหาอื่น ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ศ.ศรีศักดิ์ กล่าวว่าจากผลวิจัยสามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 51.67 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 48.33 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 38.01 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 19 ถึง 22 ปี และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จบการศึกษาอย่างน้อยในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่าซึ่งคิดเป็นร้อยละ 32.94 ในด้านความรับรู้เกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์นั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 93.12 ทราบว่าวันสงกรานต์คือวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของคนไทย ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 68.14 ทราบว่าประเพณีปฏิบัติที่สำคัญในวันสงกรานต์คือการรดน้ำดำหัวขอพรจากญาติผู้ใหญ่ การทำบุญตักบาตร การสรงน้ำพระพุทธรูป และการร่วมก่อเจดีย์ทราย แต่มีกลุ่มตัวอย่างถึงเกือบหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 31.86 ที่ไม่ทราบ และเมื่อพูดถึงเทศกาลสงกรานต์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่นึกถึงการเล่นสาดน้ำเป็นอันดับแรกซึ่งคิดเป็นร้อยละ 37.01 ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 20.09 นึกถึงการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เป็นอันดับแรก ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 14.93 และร้อยละ 10.32 นึกถึงการสรงน้ำพระพุทธรูปและการทำบุญตักบาตรตามลำดับ สำหรับกิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างต้องการทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี พ.ศ. 2557 นี้สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ เล่นสาดน้ำ คิดเป็นร้อยละ 79.91 ทำบุญ/ตักบาตร/สรงน้ำ คิดเป็นร้อยละ 77.83 รดน้ำดำหัว/ขอพรจากญาติผู้ใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 74.84 เลี้ยงฉลอง คิดเป็นร้อยละ 72.04 และเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด/ต่างประเทศ คิดเป็นร้อยละ 69.59 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 57.65 ตั้งใจจะไปร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในสถานที่สาธารณะที่มีการจัดให้เล่นสาดน้ำ ในด้านความคิดเห็นต่อเทศกาลสงกรานต์นั้น สำหรับปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างมากที่สุด 5 อันดับคือ การทะเลาะวิวาท/ทำร้ายร่างกาย คิดเป็นร้อยละ 81.09 การลวนลาม/ล่วงละเมิดทางเพศ คิดเป็นร้อยละ 78.82 อุบัติเหตุจากการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ คิดเป็นร้อยละ 75.84 การเมาสุรา/เสพยาเสพย์ติด คิดเป็นร้อยละ 73.94 และอุบัติเหตุจากยานพาหนะ คิดเป็นร้อยละ 71.4 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือคิดเป็นร้อยละ 54.39 และร้อยละ 51.49 เห็นด้วยกับการออกข้อกำหนดห้ามใช้อุปกรณ์ เช่น แป้ง น้ำแข็ง ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงในการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในสถานที่สาธารณะ และเห็นด้วยกับการออกข้อกำหนดเรื่องการแต่งตัวของผู้ที่ไปร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในสถานที่สาธารณะ เช่น ห้ามแต่งชุดสายเดี่ยว ชุดเกาะอกเป็นต้นและกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าสมควรกำหนดโทษผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดการใช้อุปกรณ์และการแต่งตัวในการไปร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในสถานที่สาธารณะนอกเหนือจากการตักเตือนซึ่งคิดเป็นร้อยละ 53.48 แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 32.85มีความคิดเห็นว่าไม่สมควร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ