กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วันนี้ (21 เม.ย. 57) ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีคอนโพล (Econ Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจโครงการอีคอนโพล เรื่อง "คาดการณ์มติ กนง. 23 เมษายน 2557” การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 50 คน เกี่ยวกับมติ กนง. ในวันที่ 23 เม.ย. 2557 และการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 57 โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-21 เม.ย. 2557
ผลสำรวจพบว่ากลุ่มตัวอย่างนักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าและสนับสนุนให้ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ในรอบวันพุธที่ 23 เมษายน 2557 นี้ เพื่อรอดูผลกระทบจากการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งที่แล้วก่อน นอกจากนี้ด้วยปัจจัยการเมืองที่กดดัน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจปี 57 ไม่สามารถโตได้เกิน 2.5% โดยมีรายละเอียดดังนี้
Econ Poll ได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างนักเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 23 เมษายน 2557 เกี่ยวกับมติการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอัตราปัจจุบันอยู่ที่ 2.00% ผลสำรวจ พบว่า กลุ่มตัวอย่างนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 74 ประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00% รองลงมาร้อยละ 16 ประเมินว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาที่ 1.75% ขณะที่ร้อยละ 10 คาดว่า กนง. อาจจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 2.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อ
เมื่อสอบถามว่าหากท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 23 เมษายน2557 ท่านจะสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เท่าใด กลุ่มตัวอย่างนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 64 จะสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยที่ 2.00% รองลงมาร้อยละ 26 จะสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% และร้อยละ 10 จะสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25%
สำหรับการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยตลอดปี 2557 จากการที่หลายๆ สำนักได้ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 57 ลงเหลือ 2% กว่าๆ ท่านประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยปี 57 จะขยายตัวหรือหดตัวประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 92 ประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้ จะขยายตัวได้ไม่เกิน 2.5% มีเพียงร้อยละ 8 ที่คาดว่าน่าโตมากกว่า 2.5% ทั้งมีนี้ประมาณ 2 ใน 3 หรือ ร้อยละ 64 เชื่อว่าเศรษฐกิจจะโตได้ระหว่าง 1.5% ถึง 2.49%
ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ จากสถาบันอุดมศึกษา ร้อยละ 44 รองลงมาร้อยละ 22 จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตามมาด้วยร้อยละ 18 จากบริษัทหลักทรัพย์ ร้อยละ 10 จากหน่วยงานภาครัฐ ร้อยละ 4 จากหน่วยงานรูปแบบอื่นๆ และร้อยละ 2 ไม่มีสังกัดหรืออิสระ
หมายเหตุ: นอกเหนือจากผลสำรวจซึ่งนำเสนอข้อมูลตามวิธีทางสถิติแล้ว ความคิดเห็นอื่นๆ ในผลสำรวจนี้เป็นความเห็น
ของผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการ
จัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น