กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--19 มีเดีย
บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอผู้นำตลาดการจัดงานนิทรรศการแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมปลุกกระแสนักปั่นจักรยานอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้งระดมบริษัทผู้ผลิต ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่ายจักรยานแบรนด์ดัง สินค้าแฟชั่น แอสเซสซอรี่ บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับจักรยาน ตบเท้าเข้าร่วมงาน บางกอกไบค์2014 หรือ BANGKOK BIKE 2014 ครั้งที่ 3มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น ภายใต้แนวคิด “Get Ready to Ride แสดงความเป็นตัวตน บนถนนของคุณ” โดยมี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้การสนับสนุนการจัดงาน ผู้ประกอบการมากกว่า 200 บูธมาร่วมกันสร้างสีสันระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤษภาคมศกนี้ ณ ฮอลล์ 4 อิมแพคเมืองทองธานี
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าและบริการทั้งในและต่างประเทศผู้ริเริ่มการจัดงาน บางกอกไบค์ กล่าวว่า กระแสความนิยมของการปั่นจักรยานได้กลายเป็น Global trend ที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการรณรงค์ภาวะโลกร้อนที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ส่งผลให้คนทั่วโลกจำนวนมากหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มหันมาประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงเพื่อช่วยโลก “จักรยาน”จึงเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเกิดเป็นกระแสการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน จนขยายการใช้จักรยานมาเป็นการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวในที่สุด
สำหรับประเทศไทยเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทเอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์จำกัด หรือ นีโอ ในฐานะผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าและบริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้มีการศึกษาข้อมูลทางการตลาดเกี่ยวกับธุรกิจจักรยาน พบว่าในปี 2554 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เก็บสถิติตัวเลขการนำเข้าจักรยาน และชิ้นส่วนจักรยานทุกประเภท โดยเฉลี่ย 120 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ3,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 15-20% ในทุกปี ซึ่งภาพรวมธุรกิจจักรยานพบว่า ตลาดจักรยานในปี 2556 เติบโตเพิ่มขึ้น 10-15%มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น จักรยานระดับบน 25% และจักรยานระดับล่าง 75%
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าประเทศไทยเป็นทั้งแหล่งผลิตจักรยานเพื่อการส่งออก และเป็นตัวแทนจำหน่ายจักรยานนำเข้าแบรนด์ดังๆที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศอีกจำนวนมาก ยังไม่รวมถึงตลาดจักรยานมือสองจากต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ อะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่งจักรยาน เสื้อผ้า อุปกรณ์เสริม เป็นต้นในขณะเดียวกันด้านของผู้ใช้จักรยาน ทั่วประเทศมีมากถึง 2.25 ล้านคน (สองล้านสองแสนห้าหมื่นคน) และแต่ละครอบครัวก็มีจักรยานอยู่ในครอบครอง 2-3 คัน/ครอบครัว ทั้งที่จากเดิมมีแค่ 1 คัน/ครอบครัว
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายช่องทางการตลาด ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจจักรยาน รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้เกิดการจัดงานบางกอกไบค์2013 หรือมหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น ขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม และเดือนตุลาคมซึ่งเป็นศูนย์กลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้มาได้พบปะพูดคุยได้เห็นสินค้าและบริการของจริงที่รวบรวมจากผู้ประกอบการชั้นนำจำนวนมากที่เดียวภายในงาน Bangkok Bike
ผลจากการจัดงานบางกอกไบค์2013 ครั้งที่ 2 ที่ผ่านมานอกจากจำนวนบูธจะเพิ่มมากขึ้น 20 % จาก 135 บูธ เป็น 180 บูธแล้ว ยังมีจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 100,000 คน สร้างเงินสะพัดในงานกว่า 120 ล้านบาทดังนั้นในปีนี้ บริษัทเอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์จำกัด หรือ นีโอ จึงได้ดำเนินการจัดงานบางกอกไบค์2014 ขึ้น ซึ่งนับเป็นการจัดงานในครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด “Get Ready to Ride แสดงความเป็นตัวตน บนถนนของคุณ” โดยงานยังคงมุ่งเน้นการจัดงานแสดงสินค้าและบริการเพื่อคนที่รักจักรยาน และการท่องเที่ยว ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยภายในงานยังได้ระดมสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับจักรยาน มาจัดแสดงและจำหน่ายไว้อย่างครบวงจร กว่า 200 บูธโดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้
- The BikeZone ซึ่งถือเป็นโซนหลักของงาน พบกับจักรยานสำเร็จรูปจากผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่าย ในโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ
-Apparel & AccessoriesZoneแฟชั่นเสื้อผ้าสำหรับนักปั่น อุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์ตกแต่งจักรยาน ที่มีมาให้เลือกอย่างมากมาย
-Technology & Component โซนอะไหล่ และ Gadget ต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งเพื่อเพิ่มสมรรถนะ เพิ่มความปลอดภัย และความสนุกสนานให้กับการขับขี่จักรยานของท่าน
ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ยังมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศ นำสินค้าและบริการเข้ามาจัดแสดงงานอีกกว่า 10 บูธจาก 3 ประเทศได้แก่ ไต้หวัน จีน และญี่ปุ่นนับเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการจัดงานขึ้นสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ ภายในงานยังได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวด้วยจักรยาน บนเนื้อที่กว่า 500 ตรม. ภายใต้แนวคิด “So far So Green สองล้อเที่ยวไป หัวใจสีเขียว” อีกด้วย
“การจัดงานครั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 120,000 คน ตลอด 4 วันที่จัดงาน และคาดว่าจะมีเงินสะพัดสำหรับตลาดจักรยาน และอุปกรณ์เสริมในงาน ไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าว
ด้านนางวิไลวรรณทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีจำนวนตัวเลขของผู้ใช้จักรยานเพื่อการท่องเที่ยว260,000 คน โดยพฤติกรรมการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวของคนไทย นิยมปั่นจักรยานแบบไปเช้า-เย็นกลับ และแบบพัก 2 วัน 1 คืน มีอัตราการออกทริปเฉลี่ยปีละ 1 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 500-1,000 บาท/คน/วัน ประมาณการรายได้จากการท่องเที่ยวโดยจักรยานของคนไทยในปีที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่าราว 900 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 28,000 คน ซึ่ง 10% จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีการปั่นจักรยานท่องเที่ยวในรูปแบบ Exclusive Trip เช่น นิยมเข้าพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว ต้องการปั่นจักรยานในสถานที่พิเศษ เลือกร้านอาหารที่มีชื่อเสียง เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า 5,000 บาท/คน/วัน ซึ่งต่างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยจักรยานทั่วไป ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000-3,500 บาท/คน/วัน ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
จากข้อมูลดังกล่าว ททท. จึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยจักรยาน โดยในปีที่ผ่านมา ได้ให้การสนับสนุนการจัด บางกอกไบค์2013 ซึ่งถือเป็นงานแสดงสินค้าและบริการเพื่อคนรักจักรยาน ทั้งที่ใช้จักรยานเพื่อการเดินทาง และใช้จักรยานเพื่อการท่องเที่ยว งานแรกในประเทศไทย โดยการจัดงานในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดการใช้จักรยานเพื่อการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ททท. จึงให้การสนับสนุนการจัดงาน Bangkok Bike 2014 เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยว และถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักปั่นได้มีโอกาสรับทราบถึงข้อมูลด้านการท่องเที่ยวโดยจักรยานในวงกว้างอีกทางหนึ่ง
ภายในงาน ททท. ได้ร่วมจัดกิจกรรม ภายใต้แนวคิด “So far So Green สองล้อเที่ยวไป หัวใจสีเขียว” โดยมีการแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวโดยจักรยานที่น่าสนใจ พร้อมโรงแรม ที่พัก นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการนำเที่ยวด้วยจักรยานเข้าร่วมแสดงงานอีกด้วย ซึ่งในอนาคต ททท. ยังมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วยจักรยาน โดยการเชิญ Tour Operator ด้านจักรยานจากต่างประเทศ เพื่อเข้ามาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยวด้วยจักรยานในประเทศไทยสำหรับไฮไลท์ภายในโซน“So far So Green สองล้อเที่ยวไป หัวใจสีเขียว” ที่นักปั่นตัวจริงไม่ควรพลาด ได้แก่ การนำเสนอเส้นทางปั่นจักรยานตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบของนักปั่น ได้แก่
1. “ปั่นท่องธรรมชาติ สูดอากาศ รับโอโซน” เส้นทางสายธรรมชาติที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีอากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติโดยเฉพาะ
2. “ปั่นเลาะเลียบรั้วชมชุมชนเชื่อมวัฒนธรรม”เส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยว เพื่อชมวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชนที่มีเอกลักษณ์ มีประเพณี และวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นของตนเอง
3. “ปั่นมอง เมืองถิ่น มนต์สเน่ห์แห่งเมืองเก่า” เส้นทางย้อนรอยอดีตความรุ่งเรื่องแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นมรดกที่คนไทยภาคภูมิใจ
4. “ปั่นเยือน เพื่อนบ้าน สานสัมพันธ์ 2 ประเทศ”เส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่สวยงาม เลาะแนวพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรับการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และเพื่อบ้านในกลุ่มประเทศ AEC
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรม Interactive การปั่นจักรยานเพื่อสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว การเล่นเกมส์แจกของรางวัล พร้อมมุมถ่ายภาพ 3 มิติ กับจักรยานคู่ใจ อีกด้วยโดยการสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ททท. คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ขับขี่จักรยานเพื่อการท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นได้อีก 20% หรือ จาก 260,000 คน เป็น 320,000 คน สามารถกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยจักรยาน จากปีละ 1 ครั้ง เป็นปีละ 2-3 ครั้ง นอกจากนี้ยังตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้อีก 15% โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวในกลุ่ม Exclusive Trip ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวด้วยจักรยานเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก 15-20% จากปีก่อน
คุณจันทนาติยวัชรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอล เอ ไบซิเคิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานตลอดมากล่าวว่า แอล เอ ไบซิเคิ้ล ในฐานะผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานรายใหญ่สุด และถือเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานในประเทศไทย ทั้งยังมีฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยปัจจุบัน นอกจากจะดำเนินการผลิตรถจักรยาน LA และ LA PRO แล้วยังมีการพัฒนาการผลิตจักรยานระดับไฮเอนด์คือ Infinite และได้รับสิทธิ์ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีก 6 แบรนด์คือ LOOK, AVENUE, CUBE, SCOTT, Wilier และ commencalขณะเดียวกันยังเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานแบรนด์ดังชั้นนำทั่วโลกอีกกว่า 30 แบรนด์
ในส่วนการเข้าร่วมแสดงงาน Bangkok Bike ที่ผ่านมา ผู้จัดงาน บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์จำกัด หรือ นีโอค่อนข้างให้ความสำคัญและใส่ใจในรายละเอียดของการจัดงานเป็นอย่างมากโดยการจัดงานครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมถือเป็นการเริ่มต้น Kick offส่วนการจัดงานครั้งที่ 2ในเดือนตุลาคมต้องถือว่า การจัดงานประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า ผู้จัดงานจะสามารถกระตุ้นตลาดการจัดงานด้านจักรยานในปีเดียวกันได้ถึง 2 ครั้ง สร้างเม็ดเงินเฉลี่ยภายในงานมากกว่า 200 ล้านบาท แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ และมีประสบการณ์การจัดงานมาอย่างยาวนาน มีการวางแผนและวางแนวคิดการจัดงานที่ชัดเจนทำให้การจัดงานในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งนี้แอล เอ ไบซิเคิ้ลมองว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เมืองไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าจักรยานในอาเซียน(Bicycle Hub of Asian) เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงสุดในภูมิภาคนี้ โดย แอล เอ ไบซิเคิ้ลมั่นใจว่า จะสามารถจับมือร่วมกับ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เพื่อพัฒนางาน Bangkok Bike ให้ก้าวไปสู่งาน International Bicycle Show ที่ใหญ่ที่สุดใน AEC ในอนาคตอันใกล้ได้อย่างแน่นอน
สำหรับการจัดงานในครั้งที่ 3 ที่กำลังจะจัดขึ้นนี้ แอล เอ ไบซิเคิ้ลมีการใช้พื้นที่แสดงงานอย่างยิ่งใหญ่กว่า400 ตารางเมตร เพื่อนำเสนอสินค้าคุณภาพกว่า20 แบรนด์จากในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้พบกับสินค้าใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแบบเต็มตา เต็มรูปแบบ อย่างแน่นอน
Bangkok Bike 2014ครั้ง 3 หรือ มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น งานดีๆ ที่นักปั่นพลาดไม่ได้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2557 ณ ฮอลล์ 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2203-4232-5 หรือ www.bangkokbikeexpo.comหรือ สามารถติดตามข่าวสารของงานได้ที่ www.facebook.com/BKBEXPO