แม่ทัพใหม่ ‘ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง’ ตั้งเป้า 5 ปีนำตลาดสินเชื่อ 2 ล้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 22, 2014 16:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาเก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ในเครือซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น บริษัทเทรดดิ้งยักษ์ใหญ่ระดับโลก ชักธงรบรุกตลาดไทยขยายฐานลูกค้าเต็มสูบขานรับการเปิด AEC ปี 58 ตั้งเป้าผงาดขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ของวงการใน 5 ปี พร้อมเตรียมสยายปีกธุรกิจจับตลาดสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในอนาคต นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยในงานแถลงข่าวครบรอบ 20 ปีว่า ชื่อของ “ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” เป็นที่รู้จักมายาวนานในวงการธุรกิจโลกในฐานะผู้ดำเนินกิจการนำเข้าส่งออกและการลงทุนที่มีเครือข่ายกว้างขวางทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วโลก โดยกุมบังเหียน 5 ธุรกิจใหญ่ในมือ คือ ผลิตภัณฑ์โลหะ การขนส่งและระบบงานก่อสร้าง ธุรกิจด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและเครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภคและการบริการ ไปจนถึงธุรกิจแหล่งแร่ พลังงาน และเคมีภัณฑ์ และยังให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจด้านต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการขยายฐานธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้ามาในประเทศไทยผ่านการดำเนินงานของบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด มาตั้งแต่ปี 2537ก่อนเบนเข็มไปจับกลุ่มรถจักรยานยนต์เป็นหลักในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน สำหรับปี 2557 ทางบริษัทวางแผนดำเนินยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อสร้างความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community) ในปี 2558 ที่จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นจึง ตัดสินใจแต่งตั้ง “นายวิชิต พยุหนาวีชัย” ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารชาวไทยคนแรกของบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ด้วยความไว้วางใจในประสบการณ์ทำงานของเขาที่คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจสินเชื่อไทยมานานกว่า 23 ปีให้เข้ามาคุมทิศทางการดำเนินงานโดยรวมของบริษัท แทนที่การเลือกวางตัวผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่ถือครองตำแหน่งนี้มานานกว่า 20 ปี ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ที่วางแผนเดินหน้าเจาะตลาดสินเชื่อในไทยอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่งให้ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ของไทยให้ได้ภายในระยะเวลา 5 ปี “แม้เศรษฐกิจไทยปัจจุบันจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวส่งผลให้สถานการณ์ตลาดยานยนต์โดยทั่วไปค่อนข้างซบเซา แต่เมื่อเทียบกันแล้วทางบริษัทมองว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไม่ได้รับผลกระทบมากนักและยังมีโอกาสเติบโตได้อีก โดยในปี 2556 มียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ใหม่รวม 2,004,488 คัน ลดลง 5.89% จากปี 2555 ที่มียอดจดทะเบียน 2,130,039 คัน” นายวิชิตกล่าว ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง วางแผนที่จะขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดต่างจังหวัดที่มีความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์สูง ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์การให้บริการที่ดีกับตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกับจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นการรับรู้แบรนด์และสร้างความน่าเชื่อถือ โดยปีนี้มีกำหนดรุกตลาดเพิ่มเติมรวม 5 จังหวัด พร้อมจัดทำแผนงานในการรุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ครอบคลุมทั่วประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีศูนย์อำนวยสินเชื่อทั้งหมดรวม 11 แห่งใน 13 จังหวัด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับนโยบายบริหารความเสี่ยงให้มีความรัดกุมแต่คล่องตัวมากขึ้น เน้นการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้าที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับการขยายฐานธุรกิจ โดยใช้กลยุทธราคาที่ผันแปรกับความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละกลุ่ม (Risk based Pricing) ตลอดจนพัฒนาระบบการอนุมัติสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วตอบสนองความต้องการของลูกค้า และคู่ค้า รวมถึงการบริหารการติดตามหนี้และการจำหน่ายทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และรวดเร็ว บริษัทยังจะทุ่มเทในเรื่องการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรด้านการตลาดและการขาย ผ่านการฝึกอบรมด้านต่างๆ เพื่อให้พนักงานก้าวทันการเปลี่ยนแปลงรอบด้านในปัจจุบันและอนาคตที่จะมีปัญหาท้าทายใหม่ๆ เข้ามาอยู่ตลอด และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตรถ ตัวแทนจำหน่าย และลูกค้าได้เป็นอย่างดี สำหรับเป้าหมายการเติบโตปี 2557 ซีอีโอคนใหม่คาดหมายว่าแผนการขยายธุรกิจในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นรวมเป็น 10-15% ของยอดขายรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการเพิ่มขึ้นจากที่เคยทำไว้ 8.36% ในปี 2556 พร้อมกับเผยว่าทางบริษัทฯยังวางแผนที่จะขยายขอบเขตธุรกิจไปยังตลาดสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นเร็วๆ นี้อีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ