ช่องทางสวยและรวยในโซเชียลเน็ทเวิร์ค

ข่าวทั่วไป Tuesday May 27, 2014 14:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ นับวันการช็อปปิ้งออนไลน์ยิ่งได้รับความนิยม และความไว้วางใจเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ กลายเป็นช่องทางส่วนหนึ่งของขาช้อป ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจเครือข่ายอย่าง “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ที่มีสาวๆ ซึ่งเป็นผู้ร่วมธุรกิจ ฉีกกฏการทำธุรกิจเครือข่ายแบบเดิม หันมาพึ่งพาความทันสมัยทางเทคโนโลยีที่เหมือนย่อโลกไว้ในฝ่ามือ จนสามารถขยายองค์กร ยอดขาย และผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักในเวลารวดเร็ว สุณิสา ศิริสลุง หนึ่งในผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำธุรกิจเผยว่า “ปัจจุบัน เทรนด์การซื้อขายสินค้าและบริการทางออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้น ยิ่งเห็นรูปภาพ เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการใช้สินค้า จะยิ่งได้รับความสนใจ ต้องยอมรับว่ารูปภาพมีอิทธิพลเหนือคำพูดมากค่ะ ซึ่งรูปแบบการทำธุรกิจแบบนี้เป็นผลมาจากที่ตัวเอง ชอบเล่นเฟซบุ๊ค หรือไอจี ประกอบกับงานประจำเป็นพนักงานอยู่บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ที่มีหน้าที่ขายประกันภัยทางออนไลน์ จึงมีความเชี่ยวชาญในการรับมือตอบคำถามลูกค้าทางออนไลน์ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ตัวเองมองเห็นเป็นโอกาสทางธุรกิจ โดยในตอนแรกเริ่มต้นจากการโพสต์รูปสินค้าบ้าง รูปตัวเองบ้าง ที่เป็นรูปก่อนและหลังใช้ ผลิตภัณฑ์ จึงสังเกตเห็นว่ามีคนเข้ามากดไลค์ และเริ่มมีคนติดตามเข้ามาขอเป็นเพื่อน ซึ่งหลักการทำธุรกิจบนโซเชียลเน็ทเวิร์ค ได้วางบทบาทของตัวเองในฐานะกูรู ที่มาบอกต่อเรื่องความสวยความงามให้แก่สาวๆ มากกว่าการเป็นแม่ค้าที่มุ่งนำเสนอสินค้าเพียงอย่างเดียว แม้ว่าระยะเวลาที่เริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์ทางโซเชียลเน็ทเวิร์คเพียงครึ่งปี แต่เสียงตอบรับที่ได้คือการไว้ใจ เชื่อใจ ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น เห็นได้จากรายได้ 40% จากยอดขายทั้งหมด มาจากร้านค้าออนไลน์ทั้งสิ้น แม้ว่าจะมีบ้างที่คนมองว่าหลอกลวงหรือไม่ ดังนั้นในการโพสต์รูปต่างๆ สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืม และต้องเขียนในหน้าสเตตัสอยู่เสมอๆ คือการประชาสัมพันธ์บริษัทยูนิลีเวอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่คนที่ติดตามเรา ที่สำคัญความซื่อสัตย์ในการซื้อขาย ก็ต้องตรงไปตรงมา และตรงต่อเวลาเช่นเดียวกันค่ะ” ด้าน อสมา แซ่ตัน หนึ่งในผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ที่มีความสุข และสนุกกับการทำธุรกิจเครือข่ายผ่านโซเชียลเน็ทเวิร์คเช่นเดียวกัน เผยว่า “เป็นคนที่ชอบ และสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีอยู่แล้ว อุปกรณ์ไฮเทคด้านเทคโนโลยี อะไรมาใหม่ ล้ำสมัยในเวลานี้ ต้องขอศึกษา ก่อนหน้าที่จะรู้จักและเริ่มเล่นโซเชียลเน็ทเวิร์คต่างๆ จะชอบนำรูปภาพสินค้า ไปโพสต์ตามหน้าเว็บประกาศ ที่เขาให้เราโพสต์ได้ จนเมื่อเฟซบุ๊คเริ่มเข้ามาและเริ่มเล่น กลับมองเห็นประโยชน์ในการสร้างเป็นธุรกิจได้ เพราะเป็นสื่อที่กระจายไปไว เข้าถึงคนในวงกว้าง และที่สำคัญไม่มีการเสียค่าโฆษณา จึงเป็นจุดที่มองเห็นในการต่อยอดทำธุรกิจ ประกอบกับส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบพูด หรือต้องเผชิญหน้าตอบคำถามกับใคร ซึ่งผิดวิสัยของการทำธุรกิจเครือข่ายที่ต้องพบปะผู้คน แต่เมื่อพบกับช่องทางการทำธุรกิจเครือข่ายผ่านเทคโนโลยี ทำให้การทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ง่ายมากขึ้น เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เพียงมีมือถือ เราก็สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ทำธุรกิจได้ และเดี๋ยวนี้ในการโพสต์หนึ่งครั้ง มันสามารถเชื่อมต่อไปยังหน้าอื่นๆ ได้อีก อย่างขึ้นโพสต์ในไอจี จะลิ้งค์ไปที่หน้าเฟซบุ๊คให้ด้วย ทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยกับการแปะโพสต์หลายๆ รอบ แต่การเปิดร้านค้าออนไลน์เช่นนี้สิ่งหนึ่งที่เจ้าของร้านจะต้องเจอ คือความอดทน ต้องอดทนรอ เพราะการทำธุรกิจผ่านโซเชียลเน็ทเวิร์ค ลูกค้าจะติดตามหน้าเพจไปสักระยะ เพื่อดูความเคลื่อนไหว ดูการตอบรับต่างๆ จากคนอื่นๆ จนรู้สึกเกิดความมั่นใจ แล้วถึงค่อยมีการซื้อขายเกิดขึ้น ซึ่งหากใครสนใจและมีการบอกต่อแนะนำให้คนอื่นใช้ เราถึงค่อยแนะนำให้เข้าสู่การทำธุรกิจเครือข่าย เปลี่ยนจากลูกค้าทั่วไป สู่การเป็นผู้ร่วมธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการเสียเอง” และ ปัทมา เปรี้ยงประสาท หนึ่งในผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ที่ประสพความสำเร็จจากการทำธุรกิจเครือข่ายผ่านโซเชียลเน็ทเวิร์คเช่นเดียวกัน เผยว่า “แม้ว่าในช่วงแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ตัวเองก็มีระบบที่ไม่ต่างจากผู้ร่วมธุรกิจทั่วไป ที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ พร้อมชวนคนให้เข้ามาที่บริษัท เพื่อตรวจผิวตรวจเส้นผม แต่เมื่อโซเชียลเน็ทเวิร์คเริ่มฮิตกันมากๆ ซึ่งตัวเองก็เล่นเหมือนคนอื่นๆ และก็โพสต์รูปภาพของตัวเองตามปกติ แต่เป็นรูปภาพผลิตภัณฑ์ กลับมีคนสนใจ และทักถามเข้ามา ยิ่งถ้าเป็นรูปตัวเองที่เห็นความแตกต่างก่อนใช้และหลังใช้ผลิตภัณฑ์ จะได้รับความสนใจมากๆ จึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางนี้ทันที ทำสำคัญยังสะดวก และง่ายต่อการทำงานมาก เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน เราสามารถทำธุรกิจได้ตลอด เห็นได้ชัดเมื่อตอนน้ำท่วมปี 2554 ที่หลายๆ ธุรกิจต้องหยุดชะงัก แต่ธุรกิจร้านค้าออนไลน์กลับมีการซื้อขายกันได้ ยิ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคสมัยนี้ จะไม่ชอบแม่ค้าที่ตื้อ ยัดเหยียด แต่การขายสินค้าทางออนไลน์เช่นนี้ ทำให้ลูกค้าไม่ลำบากใจ เพราะหากไม่ถูกใจ หรือไม่ชอบ ก็เพียงไม่ตอบโพสต์ในอินบ็อกซ์ เพราะลูกค้าสามารถหาความรู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับความสวยความงามได้ทางอินเตอร์เน็ต จะเห็นได้ว่าตอนนี้บล็อกเกอร์มีอิทธิพลมากๆ เพราะจะมีการรีวิวผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม รวมทั้งยังมีการเปรียบเทียบเรื่องของคุณภาพอีกด้วย ทำให้เรายิ่งต้องอัพเดทข้อมูลและพยายามโยงเข้ามาให้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเราให้ได้ ซึ่งจะยิ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์ในร้านค้าออนไลน์ของเรามากยิ่งขึ้น” หลายคนยังมองว่าเทคโนโลยีคือดาบ 2 คม แต่คงใช้ไม่ได้กับทั้ง 3 สาว ที่กลับมองเห็นว่าเทคโนโลยี คือโอกาสที่สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ให้แก่พวกเธอ ....

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ