กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เร่งส่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านลงพื้นที่ชุมชน กำจัดลูกน้ำยุงลายตัวการเกิดโรคไข้เลือดออก พร้อมให้คำแนะนำและข้อปฏิบัติตัวในช่วงฤดูฝน
นาวาอาการตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากการรายงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 27 พฤษภาคม 57 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยทั่วประเทศป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก 6,897 ราย เสียชีวิต 4 ราย จังหวัดที่มากที่สุดได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,218 ราย รองลงมาคือนครศรีธรรมราช 265 ราย สงขลา 257 ราย สมุทรปราการ 248 และชลบุรี 207 ราย โดยจะพบผู้ป่วยมากที่สุดในช่วงฤดูฝนคือช่วงมิถุนายนถึงกันยายน ภายหลังจากฝนตกจะมีน้ำขังอยู่ตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
กรมสบส.ได้ส่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่รณรงค์ในชุมชนเพื่อสำรวจและให้ข้อแนะนำในการป้องกันโรคไข้เลือดออกช่วงฤดูฝน ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และบ้านเรือนของประชาชน โดย อสม.จะร่วมมือกับคนในชุมชนในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย ป้องกันการวางไข่ของยุง โดยใช้มาตรการ 5 ป 1 ข คือ ปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำทุกชนิด เปลี่ยนน้ำทุกๆ 7 วัน ปล่อยปลาหางนกยุงกินลูกน้ำในภาชนะที่เก็บน้ำ ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดการแพร่พันธุ์และขยายพันธุ์ยุง ให้ปฏิบัติจนเกิดเป็นนิสัย ส่วน 1 ข คือ ขัดภาชนะที่อาจมีไข่ยุงเกาะอยู่ รวมถึงให้ความรู้แก่ประชาชน
ในส่วนของวิธีป้องกันให้ห่างไกลจากไข้เลือดออก เช่น การนอน ควรนอนในมุ้งหรือในห้องติดมุ้งลวดที่ปลอดยุงลายและควรทายาป้องกันยุง สำหรับเด็กไม่ควรเล่นในมุมมืดหรือบริเวณที่ไม่มีลมพัดผ่าน ห้องเรียนหรือห้องทำงานควรมีแสงสว่างส่องได้ทั่วถึง มีลมพัดผ่านได้สะดวก ควรสำรวจรอบบริเวณบ้าน เช่น แจกันดอกไม้ควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน พลูด่างควรปลูกในดิน หากพบว่ามีแหล่งแพร่พันธุ์ยุงควรรีบกำจัดทันที และเมื่อพบผู้ที่มีอาการ มีไข้สูงร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง อาจพบจุดเลือดที่ผิวหนัง กดบริเวณชายโครงขวารู้สึกเจ็บ มักไม่มีอาการไอและน้ำมูก หากพบว่าอาการเข้าข่ายให้พบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที