กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--เวิรฟ
เมื่อพูดถึง “หน้าฝน” สิ่งที่คนนึกถึงมากที่สุดในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของความเปียกชื้นและเฉอะแฉะที่มักเกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากการโปรยปรายของสายฝนจนเป็นเหตุทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่ดีกับฤดูนี้เท่าไหร่นัก เพราะนอกจากจะต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรที่ติดขัดมากขึ้นในแต่ละวันแล้ว ยังต้องมาหงุดหงิดใจกับการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มอย่างไรในสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้แบบนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่บรรดาหนุ่มสาวยุคใหม่ คอตตอน ยูเอสเอจึงได้รวบรวมเคล็บลับที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาไอเท็มผ้าฝ้ายในหน้าฝนมาฝากกัน
คอตตอน ยูเอสเอ กล่าวว่า “ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยที่ค่อนข้างร้อนและอับชื้นเป็นปกติ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นอับชื้นอันไม่พึงประสงค์ในเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝนที่มีสภาพอากาศค่อนข้าง อึมครึมและเปียกชื้น การเลือกใช้ไอเท็มเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มให้ถูกกับสภาพอากาศจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หนุ่มๆ สาวๆ ไม่ควรมองข้าม โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ 100% ที่มีคุณสมบัติในแง่ของการระบายอากาศได้เป็น อย่างดี พร้อมทั้งควรศึกษาวิธีการดูแลรักษาไอเท็มผ้าฝ้ายเพื่อให้ไอเท็มตัวโปรดดูน่าใช้งานอยู่เสมอ ดังนั้น คอตตอน ยูเอสเอ จึงได้รวบรวมเทคนิคการดูแลไอเท็มเสื้อผ้าฝ้ายรวมทั้งผลิตภัณฑ์สิ่งทอภายในบ้านมาให้หนุ่มๆ สาวๆ เตรียมรับมือกับหน้าฝนในปีนี้”
ดูแลรักษาเดนิมตัวเก่งฉบับโมเดิร์นนิสต้า
ในช่วงหน้าฝน สำหรับคนที่ชื่นชอบสวมใส่กางเกงยีนส์เป็นชีวิตใจควรต้องใส่ใจเป็นพิเศษเพราะนอกจากกางเกงยีนส์จะขึ้นชื่อในเรื่องของการดูแลรักษายากแล้ว ยังเป็นไอเท็มที่เกิดกลิ่นอับชื้นหรือเปรอะเปื้อนได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นหนุ่มๆ สาวๆ จึงควรให้ความสำคัญกับขั้นการดูแลรักษาเป็นพิเศษ โดยในส่วนของการทำความสะอาดนั้นให้แช่กางเกงยีนส์ในน้ำเย็นผสมกับน้ำส้มสายชูสักเล็กน้อยและทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงโดยไม่ต้องซักหลังจากนั้นให้นำมาพึ่งตากแห้งทันที และควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนเพราะจะทำให้กางยีนส์ตัวเก่งของคุณยืดและซีดจางเร็วขึ้น สำหรับขั้นตอนการตาก หากในวันที่มีแสงแดด การตากไอเท็มยีนส์ในบริเวณที่มีแสงแดดพอเหมาะและอากาศถ่ายเทได้สะดวกดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากกางเกงเดนิมสุดที่รักของคุณมีกลิ่นอับชื้นเกิดขึ้น ไม่จำเป็นจะต้องนำไปซักในทันที แต่ให้นำกางเกงยีนส์ใส่ถุงพลาสติกซิปล็อคอย่างดีไปแช่ในช่อง แช่แข็งประมาณ 2-3 ชม.เพื่อกำจัดกลิ่นพร้อมทั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจติดอยู่บนกางเกงตัวเก่งของคุณแทน เพียงเท่านี้เดนิมของคุณก็จะปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว
เตรียมพร้อมรับมือหน้าฝนด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ของการดูแลรักษาเสื้อผ้าฝ้าย
อีกหนึ่งเทรนด์แฟชั่นในช่วงฤดูฝนแบบนี้คงหนีไม่พ้นไอเท็มเสื้อผ้ายอดฮิตที่ผลิตจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติอย่างเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดเนื้อนิ่มเพราะนอกจากจะสวมใส่สบายและไม่ระคายเคืองผิวแล้วยังระบายอากาศได้ดีซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศในช่วงนี้เป็นอย่างมาก สำหรับการดูแลรักษาเสื้อผ้าฝ้ายง่ายๆ คือการแยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน พร้อมทั้งกลับด้านในของตัวเสื้อออกมาด้านนอกเพื่อป้องกันการซีดจางของเนื้อผ้า ในส่วนของขั้นตอนการซัก ควรซักผ้าด้วยมือในระดับน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อป้องกันการหดตัวของเนื้อผ้า แต่หากจำเป็นต้องซักผ้าด้วยเครื่องให้ใช้น้ำอุ่นผสมกับผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่มีคุณสมบัติในการช่วยถนอมเส้นใยผ้าและสีสันของเนื้อผ้าให้อยู่คงทนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการตากนั้น ควรสะบัดผ้าก่อนตากทุกครั้งเพื่อป้องกันการยับย่นของเนื้อผ้า และควรปล่อยให้เสื้อผ้าแห้งเองตามธรรมชาติเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากคุณจำเป็นต้องซักผ้าในวันที่ฝนตก ให้แช่เสื้อผ้าทิ้งไว้ในน้ำที่ผสมกับเบคกิ้งโซดาประมาณ ½ ถ้วยไว้ประมาณ 2–3 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นอับชื้นหลังจากนั้นให้ซักตามปกติและแช่ในน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ทิ้งไว้สักครู่ สำหรับการตากผ้าในวันที่ฝนตก ให้นำเสื้อผ้าที่ซักแล้วไปตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อช่วยป้องกันกลิ่นอับชื้นที่อาจเกิดขึ้น
ดูแลรักษาไอเท็มสิ่งทอภายในบ้านให้ดูดีน่าใช้งานอยู่เสมอ
สำหรับการทำความสะอาดผ้าม่านที่ผลิตจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ 100% นั้น ควรซักด้วยมือในระดับน้ำอุณหภูมิพอเหมาะกับสบู่หรือผงซักฟอกเพียงเล็กน้อยเพื่อป้องกันการหดตัวของผ้า และถ้าหากไอเท็มผ้าม่านของคุณเป็นแบบที่มีสีสันและเนื้อผ้าค่อนข้างบางกว่าปกติ ให้ลองจุ่มผ้าม่านลงในดีเกลือฝรั่ง (Epsom Salts) ก่อนการซักเพราะจะช่วยทำให้ผ้าม่านสะอาดและมีสีสันคงทนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของตากแห้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้าในการทำให้แห้งเพราะอาจก่อให้เกิดรอยยับถาวรบนเนื้อผ้าได้ ดังนั้นจึงควรตากในบริเวณที่ลมพัดผ่านสะดวกเพื่อกำจัดกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้น และเมื่อผ้าม่านแห้งแล้วให้ใช้เตารีดรีดให้เรียบทันทีเพื่อให้ผ้าม่านดูใหม่และน่าใช้อยู่เสมอ สำหรับผ้าปูที่นอนนั้นควรนำผ้าปูที่นอนไปซัก1-2 สัปดาห์เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและคราบสกปรกที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ อีกทั้งควรซักผ้าปูในน้ำเย็นหรือในน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อถนอมอายุการใช้งานของเนื้อผ้า และหากต้องการให้ผ้าปูที่นอนดูขาวสะอาดน่าใช้งานให้ผสมน้ำมะนาว ประมาณ ¼ ถ้วยเข้าไปขณะขั้นตอนการซักด้วย และสำหรับการตากนั้น ควรตากผ้าปูที่นอนในบริเวณที่มีปริมาณแสงแดดที่เพียงพอ และปล่อยให้ผ้าแห้งเองเพื่อเป็นการฆ่า เชื้อโรคเป็นครั้งสุดท้าย
หวังว่าเทคนิคดีๆ ที่คอตตอน ยูเอสเอนำมาฝากกันในคราวนี้ จะทำให้หนุ่มสาวยุคใหม่พร้อมรับมือหน้าฝนกันได้ อย่างมั่นใจ