กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--PR One Network
หน่วยงานภาครัฐปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มการทดสอบและพัฒนาให้เป็นแบบเวอร์ช่วล เพิ่มความรวดเร็วในการเปิดตัวบริการซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นศูนย์กลางสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาด รวมทั้งจัดหาระบบที่จำเป็นเพื่อรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 545 บริษัท นอกจากนี้ ตลท. ยังมีหน้าที่กระตุ้นการลงทุนภาครัฐในอุตสาหกรรมท้องถิ่น ด้วยการเผยแพร่ข้อมูล การให้ความรู้แก่นักลงทุน การจดทะเบียนหลักทรัพย์ และการตรวจสอบดูแลบริษัทจดทะเบียน
ปัญหาท้าทาย
เนื่องจากตลาดทุนทั่วโลกมีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ตลท.จึงต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และขยายบริการค้าหลักทรัพย์ทางออนไลน์สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการลงทุน ทางตลท.ได้ขยายการซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งบนพีซีและอุปกรณ์พกพา ด้วยการสตรีมข้อมูลสำหรับทั้งแพลตฟอร์ม Android และ iOS ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากบริษัทโบรกเกอร์สำหรับบริการออนไลน์เหล่านี้ก่อให้เกิดภาระอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของตลท. หลังจากที่ฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ภายในไตรมาสเดียว ตลท.จึงจำเป็นต้องปรับปรุงระบบเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต จำนวนผู้ใช้ที่เข้าใช้งานระบบพร้อมๆ กันอาจแตะระดับสูงสุดถึง 70,000 คน “สัดส่วนการซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 2 เปอร์เซ็นต์จนตอนนี้มีสัดส่วนสูงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของการซื้อขายทั้งหมดที่ดำเนินการในตลาดหลักทรัพย์ของเรา” คุณถิรพันธุ์ สรรพกิจ หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าว
ตลท.ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพอย่างมาก จึงไม่สามารถตอบสนองได้อย่างฉับไวเพียงพอสำหรับการทดสอบและพัฒนา คุณถิรพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราตระหนักว่าในการขยายช่องทางออนไลน์ของตลท. เราอาจไม่สามารถขยายการสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับทีมงานฝ่ายพัฒนา ถ้าหากเราต้องดำเนินโครงการสำคัญ 3-4 โครงการในคราวเดียวกัน การเปิดตัวฟังก์ชั่นและอัพเดตใหม่ๆ แก่บริษัทโบรกเกอร์ก็จะเกิดความล่าช้าอย่างมากเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องปรับปรุงความคล่องตัวในการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดทุนอื่นๆ ในระดับโลก”
โซลูชั่น
เนื่องจากตลท.เป็นศูนย์กลางตลาดทุนของไทย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีแพลตฟอร์มที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนสำหรับระบบซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์ ตลท.ได้ทดสอบโซลูชั่นเวอร์ช่วลไลซ์หลายโซลูชั่น ก่อนที่จะตัดสินใจผนวกรวมโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ไว้บนแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลซ์ VMware vSphere® และล่าสุด ตลท.ไว้วางใจให้ยิบอินซอย ซึ่งเป็นพันธมิตรของวีเอ็มแวร์ ดำเนินการติดตั้ง VMware vCloud® Suite เพื่อรันระบบคลาวด์ภายในองค์กรบนแพลตฟอร์ม vSphere สำหรับสภาพแวดล้อมการทดสอบและพัฒนา VMware® vCenter™ Orchestrator™ ผสานรวม vCloud Suite เข้ากับระบบการจัดการคลาวด์ที่ตลท.มีอยู่ เพื่อรองรับการจัดสรรเซิร์ฟเวอร์โดยอัตโนมัติ โดยจัดหาเวิร์กโฟลว์การอนุมัติและการแจ้งเตือนบางอย่าง เมื่อเซิร์ฟเวอร์ดำเนินการบางอย่างใน vCloud Director “หากระบบของเราหยุดทำงาน อาจทำให้ตลาดหยุดชะงักและก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง ดังนั้นเราจึงเลือกใช้เทคโนโลยีที่เราไว้วางใจอย่างเต็มที่ โซลูชั่นของวีเอ็มแวร์ประกอบด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ความสามารถในการสร้างคลัสเตอร์ที่มีความพร้อมใช้งานสูงและได้รับการปกป้องด้วย Fault Tolerance ช่วยให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการของเราสามารถดูแลรักษาระบบและให้บริการตามระดับที่กำหนดสำหรับผู้ใช้แต่ละราย โดยลดระยะเวลาในการดำเนินการจากหลายสัปดาห์ให้เหลือเพียงไม่กี่วัน” คุณถิรพันธุ์ กล่าว
นอกเหนือจากการเปิดตัวส่วนปรับปรุงและฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับแพลตฟอร์มการซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์แล้ว บริษัทโบรกเกอร์แต่ละรายยังต้องการบริการที่ปรับแต่งตามความต้องการ ด้วย vCloud Director ทีมงานฝ่ายทดสอบและพัฒนาจึงสามารถจัดสรรสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลสำหรับแต่ละโครงการ เพื่อเริ่มต้นการทดสอบ แล้วนำเอาแอพพลิเคชั่นไปใช้งานจริง โดยใช้การจัดสรรแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้จะสามารถทดสอบหลายโครงการควบคู่กันไป รวมถึงภายในเวอร์ช่วลโคลนของสภาพแวดล้อมการใช้งานจริงของตลท. vCloud Suite ช่วยให้ ตลท.สามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากแต่ละกลุ่มธุรกิจได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ทางตลาดหลักทรัพย์ใช้ VMware vCenter Chargeback Manager เพื่อตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการทดสอบและพัฒนา พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์และรายงานที่เที่ยงตรงแก่ผู้บริหารระดับสูงของตลท.
ตลท.ใช้ VMware vCenter Site Recovery Manager สำหรับเวอร์ช่วลแมชชีนที่ไม่มีความสามารถในการคัดลอกข้อมูลหรือการกู้คืนระบบที่ระดับของแอพพลิเคชั่น เพื่อลดระยะเวลาในการกู้คืนข้อมูล (Recovery Time Objectives - RTO) และลดงานที่ต้องดำเนินการเองในการคัดลอกข้อมูล VMware vCenter Operations Manager ช่วยให้ทีมงานของตลท.สามารถจัดการและวินิจฉัยปัญหาภายในโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างทันท่วงที
ผลลัพธ์และคุณประโยชน์ทางด้านธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสามารถลดระยะเวลาในการพัฒนาฟังก์ชั่นและบริการใหม่ๆ สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์ให้แก่บริษัทโบรกเกอร์ได้อย่างมาก ในการใช้ระบบคลาวด์ภายในองค์กรเพื่อจัดสรรบริการใหม่ๆ ตลท.สามารถโอนต้นทุน/ค่าใช้จ่ายไปยังแต่ละกลุ่มธุรกิจได้โดยตรง โดยใช้พอร์ทัลการบริการตนเองซึ่งรองรับการอนุมัติเวิร์กโฟลว์และการรายงานต้นทุน/ค่าใช้จ่ายที่แม่นยำ คุณถิรพันธุ์ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ เราไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านการทดสอบและพัฒนาที่เกิดขึ้นจากแต่ละกลุ่มธุรกิจ และอาจเป็นไปได้ที่บางแผนกต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายแทนแผนกอื่นๆ เรานำเสนอบริการจำนวนมาก และเป้าหมายของเราสำหรับการใช้แพลตฟอร์มวีเอ็มแวร์ก็คือ การปรับปรุงความโปร่งใสในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านไอที เพื่อให้แต่ละกลุ่มธุรกิจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตนเองอย่างเหมาะสม”
การปรับใช้ระบบคลาวด์ภายในองค์กรช่วยให้ตลท.สามารถลดพื้นที่ตั้งวางอุปกรณ์ในดาต้าเซ็นเตอร์ได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังลดการใช้พลังงานที่เกี่ยวข้องได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังสามารถลดการใช้ทรัพยากรหลักๆ สำหรับการจัดการระบบคลาวด์ภายในองค์กรของตลท. กล่าวคือ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนบุคลากรฝ่ายไอที แต่ยังสามารถมุ่งเน้นการดำเนินโครงการสำคัญๆ ภายในองค์กรได้อีกด้วย
ความพร้อมใช้งานของระบบและความพึงพอใจของลูกค้านับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามของตลท.ในการปรับปรุงขีดความสามารถด้านการแข่งขัน โดยตลท.สามารถเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน ด้วยการลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาบริการใหม่ๆ ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนโบรกเกอร์ที่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์กับตลท. นอกจากนั้นยังลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เมื่อมีการสร้างและทดสอบแอพพลิเคชั่น แล้วปรากฏว่าไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องเมื่อโอนย้ายไปสู่สภาพแวดล้อมการใช้งานจริง “เราไม่เคยสูญเสียลูกค้าแม้แต่รายเดียว ที่จริงแล้ว ลูกค้าโบรกเกอร์ออนไลน์ของเราเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าทุกวันนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์รองรับจำนวนผู้ใช้ที่เข้าใช้ระบบพร้อมกันได้มากขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบทั่วไป” คุณถิรพันธุ์ กล่าว
แผนการสำหรับอนาคต
ทางตลาดหลักทรัพย์มีแผนที่จะปรับใช้ระบบคลาวด์สาธารณะสำหรับบริษัทโบรกเกอร์ เพื่อลดความจำเป็นสำหรับบริษัทเหล่านี้ที่จะต้องตั้งวางเซิร์ฟเวอร์ไว้ภายในดาต้าเซ็นเตอร์ของตลท. ระบบคลาวด์สาธารณะนี้จะช่วยลดความล่าช้าบนเครือข่ายได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ตลท.ยังมีแผนที่จะติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเวอร์ช่วลเดสก์ท็อปในปีหน้า “การจัดหาโซลูชั่นคลาวด์ให้กับบริษัทโบรกเกอร์โดยตรงเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวสำคัญสำหรับตลท.ในการพัฒนาสู่โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบครบวงจร ประโยชน์ที่เราได้รับจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เพิ่มมากขึ้นและการประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มความเชื่อมั่นสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย และเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ” คุณถิรพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย