กรมศุลกากรจับกุมน้ำมันดีเซล จำนวน 20,000 ลิตร มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Friday July 25, 2014 10:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--กรมศุลกากร บริเวณท่าเทียบเรือสินค้าขาออก สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร แถลงข่าวกรมศุลกากร จับกุมเรือประมง 1 ลำ บรรทุกน้ำมันลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 20,000 ลิตร มูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้นกว่า 2.5 ล้านบาท ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม ต่อมาเมื่อเวลา ๐1.๐๐ น. ของวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2557 นายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สามารถจับกุมเรือประมงไม่มีชื่อ สัญชาติไทย ขนาดความยาว 10 วา ความกว้าง 3 วา มีนายณัฐพล ชื่นสงวน เป็นผู้ควบคุมเรือ และลูกเรือนายธนกร บาพิมาย 1 คน โดยเรือ ลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวนรวม 2๐,๐๐๐ ลิตร มูลค่าประมาณ 6๐๐,๐๐๐ บาท มูลค่าของกลางรวมทั้งเรือและน้ำมันประมาณ 2,๕๐๐,๐๐๐ บาท เหตุเกิดบริเวณ แลตติจูด 12 องศา ๒6 ลิปดา 000 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 106 องศา 58 ลิปดา 000 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างเกาะจวง ด้านทิศใต้ ประมาณ 5 ไมล์ทะเลเขตจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตาม ตามมาตรา ๒๗ , ๒๗ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ ประกอบกับมาตรา ๑๖,๑๗ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๙) พ.ศ.๒๔๘๒ จึงได้ยึดน้ำมันและเรือบรรทุกน้ำมัน เป็นของกลางพร้อมจับกุมตัวลูกเรือทั้ง 2 คน เป็นผู้ต้องหานำส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อนึ่งในรอบปีที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถจับกุมน้ำมันลักลอบนำเข้าทั้งทางบกและทางทะเล ดังนี้ น้ำมันดีเซล 454 คดี ปริมาณ 2,017,290 ลิตร มูลค่า 56,100,119 บาท น้ำมันเบนซิน 345 คดี ปริมาณ 326,432 ลิตร มูลค่า 10,594,576 บาท รวมทั้งสิ้น 799 คดี ปริมาณ 2,343,722 ลิตร มูลค่า 66,694,695 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ