“เคทิส” ทุ่มพันล้านผลิตน้ำเชื่อม-น้ำตาลเกรดพรีเมี่ยม กลุ่มซูมิโตโมประกาศหนุนสุดตัว ปีหน้ามีโครงการใหม่อีก

ข่าวทั่วไป Friday July 25, 2014 16:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--ไอทูซี คอมมิวนิเคชั่นส์ กลุ่มเคทิส– KTIS เปิดโครงการผลิตน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษอย่างเป็นทางการแล้ว คาดใช้เงินลงทุน 980 ล้านบาท ผลิตน้ำเชื่อมได้ 4 แสนกิโลกรัมต่อวัน และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ 5 แสนกิโลกรัมต่อวัน เริ่มขายได้กลางปีหน้า เผยเป็นโรงงานที่ทันสมัยและคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปที่มีอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ตามมาตรฐานเดียวกันกับ บริษัท นิสชิน ชูการ์ประเทศญี่ปุ่น ด้านกลุ่มซูมิโตโม ผู้ค้าน้ำตาลยักษ์ใหญ่ของโลกแย้มนี่แค่ความร่วมมือในระยะที่หนึ่งเท่านั้น ปีหน้ามีระยะสองและสามตามมาอีก นายประพันธ์ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนลชูการ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “เคทิส” ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำพิธีเปิดโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sucrose) และโครงการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) ที่บริเวณโรงงานน้ำตาลของเคทิส จ.นครสวรรค์ แล้ว โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 980 ล้านบาทมีกำลังการผลิตน้ำเชื่อม 400 ตัน (400,000 กก.) ต่อวันและกำลังการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ 500ตัน (500,000 กก.) ต่อวันขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างอาคารโรงงานและสั่งซื้อเครื่องจักรและคาดว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จและเริ่มผลิตน้ำเชื่อมออกจำหน่ายได้ในช่วงกลางปี 2558 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัท นิสชิน ชูการ์ และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิสชิน ชูการ์ และเป็นผู้ถือหุ้นของเคทิสด้วย “นิสชิน ชูการ์ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยออกแบบให้เราเป็นพิเศษ และกำหนดสเปคในการเลือกซื้อเครื่องจักรต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานชั้นสูงโดยเราใช้มาตรฐานของญี่ปุ่นเป็นหลัก คุณภาพจึงสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปที่มีอยู่ในประเทศไทยโรงงานนี้จะเป็นโรงงานที่ทันสมัย และมีความครบถ้วนในเรื่องของประสิทธิภาพและคุณภาพ เนื่องจาก นิสชิน ชูการ์มีโรงงานในลักษณะเดียวกันที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว ผู้บริหารกลุ่มเคทิสก็เคยไปเยี่ยมชมและเห็นแล้วว่าคุณภาพน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่ออกมานั้นดีมาก” นายประพันธ์กล่าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเคทิส กล่าวด้วยว่าน้ำเชื่อมที่บริษัทฯจะผลิตจะมีระดับความเข้มข้นประมาณร้อยละ 66.5 - 67.5 บริกซ์และเพื่อให้การผลิตน้ำเชื่อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะผลิตควบคู่ไปกับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่มีค่าสีระหว่าง 15 ถึง 25 ICUMSAเหมาะสำหรับนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการวัตถุดิบที่มีความบริสุทธิ์สูง สำหรับตลาดน้ำเชื่อมของเคทิสนั้นจะผลิตเพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมก่อน เนื่องจากลูกค้าน้ำตาลทรายของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ทางด้านอาหารและเครื่องดื่ม ก็มีความต้องการใช้น้ำเชื่อมในปริมาณที่มากพอจะรองรับกำลังการผลิตทั้งหมดได้ ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ มีตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเช่นประเทศในแถบตะวันออกกลางประเทศเกาหลีและประเทศญี่ปุ่น “ผลิตภัณฑ์ของเราถือเป็นเกรดพรีเมี่ยม เป็นน้ำตาลเกรดพิเศษ น้ำเชื่อมที่ได้ก็เป็นน้ำเชื่อมคุณภาพสูง จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้าภาคอุตสาหกรรม เราจึงต้องรองรับกลุ่มนี้ก่อน ตลาดค้าปลีกนั้นจะเข้าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่จะขายในตลาดต่างประเทศนั้นเราไม่ห่วง เพราะซูมิโตโมฯ เป็นบริษัทค้าน้ำตาลยักษ์ใหญ่ของโลก สามารถที่จะส่งออกไปขายได้ทั่วโลก ส่วนรายได้จากโครงการนี้จะเป็นเท่าไรนั้น ต้องดูราคาน้ำตาลในตลาดโลกประกอบด้วยจึงจะประเมินได้”นายประพันธ์กล่าว ด้าน นายโคจิ โมรินากะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทนิสชิน ชูการ์กล่าวว่า เคทิสและซูมิโตโมฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน เมื่อเราเลือกที่จะลงทุนในประเทศไทย จึงเลือกที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มเคทิส “ด้วยอุปสงค์และอุปทานของตลาดในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงและประเทศไทยก็เป็นประเทศเดียวที่ส่งออกน้ำตาลเพื่อป้อนให้กับตลาดทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีความต้องการบริโภคน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลในภูมิภาคนี้ เราจึงต้องการที่จะสนับสนุนเคทิสให้เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านการผลิตน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หน้าที่หลักของเราคือช่วยขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน และทางนิสชิน ชูการ์ ก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายและแตกต่างรวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของกลุ่มเคทิสให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป”นายโคจิกล่าว นายโคจิกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนั้นอุตสาหกรรมน้ำตาลไม่ได้หยุดอยู่แค่น้ำตาลทราย แต่ยังมีผลิตภัณฑ์พลอยได้เช่น เอทานอล เยื่อกระดาษและพลังงานไฟฟ้า จะเห็นได้ว่า ทุกๆ ส่วนของอ้อยและสิ่งที่เหลือในกระบวนการผลิตน้ำตาลสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโมลาสชานอ้อยกากตะกอนและน้ำกากส่าซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มเคทิสได้อีกมาก “เรื่องของการผลิตน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษนี้เป็นแค่ความร่วมมือระยะที่หนึ่งเท่านั้น เราหวังว่าในปีหน้าจะมีความร่วมมือในระยะที่สองและสามต่อไป” นายโคจิกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ