กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ตราด และจันทบุรี รวม 4 อำเภอ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ขณะที่ 2 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สกลนคร และอุบลราชธานี รวม 15 อำเภอ 58 ตำบล ยังคงประสบอุทกภัย ซึ่ง ปภ. ได้จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2557 เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงใน 2 จังหวัด รวม 4 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดตราด ในพื้นที่ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด หลังคาอัฒจันทร์สนามกีฬากลางจังหวัดตราดพังเสียหายเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านหนองบัว หมู่ 2 เสียหายบางส่วน 10 หลังคาเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จังหวัดจันทบุรี ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอขลุง และอำเภอเขาคิชกูฏ สวนยางและต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย สำหรับการให้ความช่วยเหลือ สำนักงานป้องกันและบรรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นและเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ขณะที่ 2 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สกลนคร และอุบลราชธานี ยังคงประสบปัญหาอุทกภัย โดยจังหวัดสกลนคร เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล 136 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพรรณานิคม และอำเภออากาศอำนวย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,298 ครัวเรือน สะพานเสียหาย 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,782 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มการเกษตร ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ จังหวัดอุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเดชอุดม อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสำโรง อำเภอนาเยีย อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอสิรินธร อำเภอกุดข้าวปุ้น และอำเภอตระการพืชผล รวม 42 ตำบล 221 หมู่บ้าน 13,733 ครัวเรือน บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 747 หลัง เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนจำนวน 20 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 67 สาย สะพาน 4 แห่ง วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 27,160 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มการเกษตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 – 3 วัน ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่ประสบภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย พร้อมเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป