ทีมวิจัย เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จับตาทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลัง วางหมากการลงทุน หลังเข้าสู่ช่วงปฏิรูปประเทศไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 30, 2014 15:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ตอกย้ำการเป็นโบรกเกอร์อันดับ 1 มาอย่างยาวนานต่อเนื่อง เสริมทัพความแข็งแกร่งด้วยทีมวิจัยคุณภาพ เทียบเท่าระดับสากล พร้อมเสิร์ฟข้อมูลเชิงลึกแบบ รวดเร็ว แม่นยำ เข้าถึง ทุกวัน ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมจับทิศทางการลงทุนในครึ่งปีหลัง คาดฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในไตรมาส4/57 นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการลงทุนในหุ้นนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จึงไม่หยุดที่จะพัฒนาองค์กร บุคคลากร ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการลงทุน รวมถึงพัฒนาโปรแกรมเทรดหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ตในหลากหลายรูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้าได้อย่างสูงสุด นอกจากนั้น เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ยังให้ความสำคัญกับทีมวิจัย เนื่องจากเราดำเนินงานภายใต้กรอบความคิดที่ว่า “ความมั่งคั่งของท่าน คือความมุ่งมั่นของเรา” ทุกข้อมูลที่ออกจากทีมวิจัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก และต้องมาควบคู่กับ ความรวดเร็ว แม่นยำ และเข้าถึงแหล่งข้อมูล อันจะเป็นตัวช่วยในการประกอบการตัดสินใจของผู้ลงทุน โดยที่ผ่านมาทีมวิจัยได้เพิ่มขีดความสามารถ ด้วยการทำงานภายใต้แนวคิด “รวดเร็ว แม่นยำ เข้าถึง และน่าเชื่อถือ” จากการวิเคราะห์ของทีมนักวิเคราะห์ที่มากด้วยประสบการณ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ลงทุน เนื่องจากปัจจุบันผู้ลงทุนส่วนใหญ่มี แนวโน้มที่จะทำธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึงการศึกษาข้อมูลด้านการลงทุนผ่านทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากขึ้น ดังนั้น เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จึงไม่เคยหยุดนิ่ง โดยในเดือน ก.ค.ได้เปิดให้บริการระบบซื้อขายหุ้นผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับได้ทุก แอพพลิเคชั่น ภายในชื่อ KE Mobile ซึ่งลูกค้าสามารถได้รับข้อมูลจากฝ่ายวิจัยได้โดยตรง รวมถึง สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันที สำหรับ ภาพรวมเศรษฐกิจรอบ 6 เดือนแรกของปี 2557 ทีมวิจัย เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดเสี่ยงที่สุดไปแล้ว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนั้น เรามองว่าจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 4 โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการลงทุน การส่งออก และ การท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อไป กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง และ ท่องเที่ยว สำหรับปัจจัยที่ควรติดตามต่อจากนี้ไป คือ การจัดตั้งรัฐบาล การปฏิรูปการเมือง ความคืบหน้าในการปฏิรูปนโยบายด้านพลังงาน รวมถึง การประมูลคลื่นความถี่ของลุ่มสื่อสาร ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ ความชัดเจนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรและจีน เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่เหลือของปีนี้และปี 2558 นายสุกิจกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ