นักอนุรักษ์เฮ! 23,000 ชื่อ กดดัน 5 ห้างดังประกาศยุติขายปลานกแก้วแล้ว ย้ำการจัดการประมงอย่างยั่งยืนต้องเป็นวาระแห่งชาติ เหตุฉลามยังถูกฆ่าล้างเผ่า

ข่าวทั่วไป Thursday August 7, 2014 14:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--change.org หลังจากที่กลุ่มอนุรักษ์ ผู้พิทักษ์ปะการัง Reef Guardian Thailand ได้เปิดแคมเปญการรณรงค์ให้ซีอีโอห้างดัง ได้แก่ เทสโก โลตัส, แมคโคร เซ็นทรัล เดอะมอลล์ และ วิลล่า มาร์เกต ให้ยุติการขายปลานกแก้วผ่าน www.change.org/saveparrotfish ล่าสุดด้วยรายชื่อกว่า 23,000 คน ได้ส่งผลให้ห้างดังทั้งหมด ประกาศยุติการขายปลานกแก้วหมดแล้ว นายเพชร มโนปวิตร นักวิชาการด้านนิเวศวิทยาและการอนุรักษ์ ในฐานะที่ปรึกษากลุ่ม Reef Guardian Thailand กล่าวว่า ต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมสนับสนุนการรณรงค์ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยก่อนหน้านั้นมีเพียง เทสโก โลตัส, แมคโคร เซ็นทรัล ที่ตอบรับ แต่ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั้ง เดอะมอลล์ และ วิลล่า มาร์เกต ได้ประกาศพร้อมยุติการขายปลานกแก้ว หลังจากที่ทราบว่าการบริโภคปลานกแก้ว ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล “สำหรับผู้ทำงานด้านการอนุรักษ์ทะเลมานาน นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องรอมาตรการจากภาครัฐ ถือเป็นการแสดงเจตนาร่วมกันของสังคม ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการทำให้คนเมืองและห้างร้านต่างๆ ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคอย่างไม่พิจารณา เพราะในระบบนิเวศทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกัน รวมไปถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนในเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางและรุนแรงไปถึงท้องทะเล” นักอนุรักษ์ ผู้นี้กล่าวต่อไปว่า ทางกลุ่มจะเดินหน้าสร้างจิตสำนึกใหักับชาวประมงท้องถิ่น นักท่องเที่ยว รวมทั้งภาครัฐเพื่อผลักดันให้มีการอนุรักษ์ปลานกแก้วอย่างจริงจังในทุกระดับ ทั้งในเชิงกฎหมายและการสร้างจิตสำนึกสาธารณะ รวมไปถึงการอนุรักษ์ปลาชนิดอื่นๆที่มีบทบาทสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศต่อไป "เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือยังมีช่องโหว่ของกฎหมายที่ยังไม่ให้การคุ้มครองปลาในแนวปะการังที่อาจถูกลักลอบจับมาอย่างผิดกฏหมาย รวมไปถึงเรื่องการควบคุมจำนวนเรือประมงพาณิชย์อย่างจริงจังโดยเฉพาะอวนรุนอวนลากที่ถือว่าเป็นเครื่องมือที่สร้างความเสียหายกับระบบนิเวศอย่างรุนแรงโดยเฉพาะการใช้ในเขตอนุรักษ์" ทั้งนี้การจัดการประมงอย่างยั่งยืนถือเป็นวาระแห่งชาติ เพราะการที่เรายังปล่อยให้มีการทำประมงด้วยเครื่องมือทำลายล้าง ปล่อยให้มีการจับปลาในเขตหวงห้ามสุดท้ายแล้วมันไม่ได้ทำลายเฉพาะปลาที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศอย่างปลานกแก้ว ปลาฉลาม หรือปลาใกล้สูญพันธุ์อย่างปลากระเบนราหู ปลาโรนิน แต่มันคือการทำลายต้นทุนธรรมชาติของส่วนรวม "เราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในการบังคับใช้กฎหมายและมีการติดตามตรวจสอบอย่างจริงจังโดยเฉพาะท่าเทียบเรือที่มีปลาหายากถูกจับขึ้นมาเป็นจำนวนมากเป็นประจำเช่นท่าเรือระนอง มันควรจะหมดสมัยได้แล้วกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สัตว์น้ำหายากอย่างเช่นฉลาม เราจะผลักดันเรื่องนี้อย่างถึงที่สุดต่อไป" นายเพชร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ