กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
ข้าราชการพร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ กระทรวงเกษตรฯ ร่วมพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์พระพิรุณทรงนาคขึ้นประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าอาคารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้าง เข้าร่วมในพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์พระพิรุณทรงนาคขึ้นประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าอาคารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยมีการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป หลังจากนั้น คณะผู้บริหารได้สักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบพิธีบวงสรวงพระพิรุณทรงนาค ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ฐานประดิษฐานองค์พระพิรุณทรงนาค และประกอบพิธีอัญเชิญองค์พระพิรุณทรงนาคขึ้นประดิษฐานบนแท่น ซึ่งพระพิรุณมีลักษณะทรงเครื่อง สวมรองเท้าแก้ว พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ชัย พระหัตถ์ซ้ายประทานพร ประทับยืนในท่าลีลาบนหลังพญานาคราชที่มีลำตัวทอดยาว กำลังพ่นน้ำ ลอยอยู่เหนือเมฆ ที่ตั้งประกอบและตกแต่งด้วยน้ำพุโดยรอบ องค์พระพิรุณทรงนาค มีขนาดตั้งแต่ฐานพระเศียร (ยอดบนสุด) มีความสูง ประมาณ 3.50 เมตร ความยาวของพญานาคราช ประมาณ 2.93 เมตร สร้างจากเนื้อโลหะทองเหลืองรมดำ
นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวน 5 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต ได้แก่ 1. พระครูภาวนาเจติยาภิบาล (หลวงพ่อทวี มหาวีโร) วัดพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย 2. พระครูบรรพตพัฒนคุณ (หลวงพ่อปรีชา ธนวฑฒโก) วัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3. ครูบาเสาร์ห้า (หลวงปู่เสาร์ห้า ปัญญาวชิโร) สำนักสงฆ์อุดมศรีสุข อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 4. ครูบาป่านิกร ชยเสโน วัดพระบรมธาตุแก่งสร้อย อำเภอสามเงา จังหวัดตาก และ 5. พระครูปลัดนิพนธ์ ธมมทีโป วัดป่าปฐมชัย อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และพระสงค์จากวัดปรินายก จำนวน 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นสิริมงคล
นายชวลิต กล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ของการจัดสร้างพระพิรุณทรงนาคในครั้งนี้ เพื่อจัดสร้างพระพิรุณทรงนาคที่มีลักษณะสอดคล้องกับตราสัญลักษณ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเพื่อเป็นที่สักการะบูชาของข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งคนทั่วไปรู้จักพระพิรุณในฐานะเทพเจ้าแห่งฝน โดยเชื่อว่าทรงอานุภาพ มีบุญญาบารมีและอภินิหารประทานน้ำฝนให้เกิดความชุ่มชื้นไม่ขาด บันดาลให้เกิดการเกษตรสมบูรณ์ต้องตามฤดูกาล พรรณพฤกษา สัตวชาติและมนุษยชาติ เกิดลูกดอกออกผลลักษณะงาม ไร้โรคพยาธิเบียดเบียน และปวงประชาอยู่เย็นเป็นสุข