ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร และแนวโน้ม “บ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” ที่ “BBB+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 14, 2014 09:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่ดีขึ้น รวมถึงกลยุทธ์การขยายโครงการคอนโดมิเนียมอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและความหลากหลายของฐานรายได้ให้แก่บริษัท โดยคาดว่าการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมจะส่งผลต่อโครงสร้างทางการเงินของบริษัทในระดับปานกลาง นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้าง การบริหารการเงินที่รอบคอบ และผลงานที่เป็นที่ยอมรับในตลาดบ้านจัดสรรสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ โดยอันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการที่บริษัทเป็นบริษัทขนาดเล็กเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต รวมถึงลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินรวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนประเภทของโครงการที่พัฒนาให้สอดคล้องกับภาวะอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ในระยะ 3 ปีข้างหน้าคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนควรอยู่ระหว่าง 30% ถึง 40% อันดับเครดิตของบริษัทและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตสามารถปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงจากปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ บริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก่อตั้งในปี 2531 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 นายทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์และนายไชยยันต์ ชาครกุลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนรวมกัน ณ สิ้นเดือนเมษายน 2557 ในสัดส่วน 63% บริษัทเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ โดยมีราคาเฉลี่ยหลังละ 2.7 ล้านบาทในปี 2556 รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทซึ่งอยู่ในสัดส่วนมากกว่า 90% ของรายได้รวมในปี 2556 บริษัทเริ่มเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2554 โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อยูนิต ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 40 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายประมาณ 13,000 ล้านบาท บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ที่คาดว่าจะส่งมอบแก่ลูกค้าในปี 2557 มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท โดยประมาณ 58% ของยอดขายที่รอรับรู้รายได้เป็นโครงการแนวราบและส่วนที่เหลือเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในการเสนอราคาขายบ้านในระดับที่ไม่แพง ในขณะเดียวกันก็ยังมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงในระดับประมาณ 38%-40% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทในปี 2556 อยู่ที่ 2,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2555 ทั้งนี้ การเติบโตของยอดขายส่วนใหญ่มาจากโครงการแนวราบทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยยอดขายแนวราบคิดเป็น 83% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2556 อย่างไรก็ตาม ยอดขายของคอนโดมิเนียมในปี 2556 ลดลง 11% เมื่อเทียบกับปี 2555 เนื่องจากไม่มีการเปิดขายโครงการดอนโดมิเนียมใหม่ในปี 2556 รายได้รวมของบริษัทในปี 2556 เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 2,323 ล้านบาท โดยประมาณ 10% ของรายได้รวมมาจากโครงการ “แลนซีโอ คริป ศีราชา-บ่อวิน” ซึ่งเป็นโครงการแรกในจังหวัดชลบุรี ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2557 รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 656 ล้านบาทจาก 624 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายใต้ประมาณการปกติ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 2,200-2,700 ล้านบาทต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยมีสมมุติฐานว่าบริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงเล็กน้อยเป็น 38.5% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2557 กระนั้นก็ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการพัฒนาสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ระหว่างปี 2554 ถึงช่วง 3 เดือนแรกของปี 2557 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้อยู่ที่ 23%-26% และ ณ สิ้นปี 2556 จนถึงช่วง 3 เดือนแรกของปี 2557 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 31% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 24.42% ในปี 2555 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น แม้ว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะเพิ่มขึ้น แต่สภาพคล่องยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้เนื่องจากบริษัทมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 2,150 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 และคาดว่าจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 200-350 ล้านบาทต่อปี บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) อันดับเครดิตองค์กร: BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ