กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,311 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,304 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 31.86 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,750 บาท กับ 19,850 บาท และกลับมาปิดที่ 19,750 บาท กับ 19,850 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 525 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,931 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 10.7 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 16.5 % GFQ14 ปิด 19,810 บาท และ GFV14 ปิด 19,860 บาท GF10Q14 ปิดที่ 19,790 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,860 บาท
สัญญา Comex ลดลง 9.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,306.2 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.77 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 97.35 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 795.60 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
ในคืนวันศุกร์ ทองคำมีการแกว่งตัวอย่างผันผวน โดยเปิดตลาด COMEX หลุดระดับ 1,300 เหรียญลงมา จากการรับข่าวอุปสงค์ทองคำทั่วโลกปรับตัวลดลง ขณะที่จีนลดปริมาณทองคำลงในรอบ 5 ปี
อย่างไรก็ดี ทองคำสามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,300 เหรียญได้อีกครั้ง โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำแท่งในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากที่ยูเครนได้เปิดฉากโจมตีและทำลายคาราวานรถบรรทุกของรัสเซีย
นักวิเคราะห์ของ RJ O’Brien กล่าวว่า ราคาทองคำตอบรับกับข่าวความตึงเครียดในยูเครนและรัสเซีย จึงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ถ้าหากว่าข่าวภาวะสงครามเบาบางลง เราจะได้เห็นตลาดทองคำกลับมาสู่ขาลงอีกครั้ง
นักวิเคราะห์จากคิทโก้ ระบุว่า แม้ราคาทองคำจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,300 เหรียญได้จากข่าวภาวะสงครามอีกครั้ง แต่ก็ยังมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
นอกจากนี้ ยังคาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้จะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,280 – 1,320 เหรียญ แต่มีโอกาสไปทดสอบจุดต่ำสุดบริเวณ 1,280 เหรียญได้ในสัปดาห์หน้า หากข่าวสถานการณ์ความตึงเครียดเจือจางลง
นักลงทุนจับตาไปยังการแถลงการณ์ของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในการประชุมสุดยอดธนาคารกลางทั่วโลกที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวมิ่ง ในวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณสะท้อนจังหวะเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ขยับขึ้นเพียง 0.1% บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้ออยุ่ในระดับต่ำ
ในคืนวันศุกร์ ค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง ที่ระดับประมาณ 1.3400 ดอลลาร์/ยูโร
แต่หลังจากสถานการณ์ระหว่างยูเครนกับรัสเซียกลับมาตึงเครียดอีกครั้งก็ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก โดยยูโรแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.3397 ดอลลาร์/ยูโรจาก 1.3367 ดอลลาร์/ยูโร
ในคืนวันศุกร์ กองทัพยูเครน เปิดเผยว่า ได้ทำการโจมตีและทำลายคาราวานรถบรรทุกช่วยเหลือของรัสเซียที่ข้ามล้ำเขตแดนเข้ามายังยูเครน ในขณะที่รัสเซียได้ออกให้ข่าวปฏิเสธว่า คาราวานรถบรรทุกยังไม่ได้ข้ามล้ำเขตแดน และยังประณามการกระทำของยูเครนว่า เป็นการขัดขวางรถบรรทุกขนปัจจัยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของรัสเซียที่พยายามให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน
ขณะที่ EU ได้ออกแถลงการณ์ ให้รัสเซียยุติการดำเนินการที่จะเป็นปฏิปักษ์ทุกรูปแบบ ซึ่งอาจจะทำให้เพิ่มความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมฉุกเฉินของเหล่ารัฐมนตรีของสหภาพยุโรป ในเรื่องการให้ความสนับสนุนอาวุธแก่กองกำลังชาวเคิร์ตของอิรัก เพื่อทำการต่อสู้กับโจมตีของกลุ่มกบฏรัสอิสลาม เพื่อช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยยาซิดีและชาวคริสเตียนจากการถูกเข่นฆ่าอย่างทารุณ
ทางด้านสหรัฐฯได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโจมตีกลุ่ม ISIL ใกล้กับเขื่อนโมซูล ซึ่งเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดของอิรัก เพื่อยึดพื้นที่คืน ขณะที่กองทัพเยอรมนี ได้นำสิ่งบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่หลบหนีจากการรุกรานของกลุ่ม ISIL จนไปติดอยู่ที่บนภูเขา ทางตอนเหนือของอิรัก
งแม้ว่าอิสราเอลและปาเลสไตน์จะมีการขยายการหยุดยิงเป็นเวลา 5 วัน แต่เมื่อวานนี้ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวเตือนกลุ่มฮามาสว่า ฮามาสอาจเผชิญกับการตอบโต้อย่างรุนแรง หากยังไม่หยุดยิงเข้าใส่พื้นที่ที่มีชาวยิวอาศัยอยู่
ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของปากีสถานและประชาชนกว่า 55,000 คน ออกมาประท้วงรัฐบาลกรณีการจ่ายภาษีและรายจ่ายต่างๆ อันเป็นการคอรัปชั่น โดยนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกภายในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลดลง 0.30% เนื่องจากนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย
ดัชนีนิเกอิ เปิดตลาดทรงตัวในเช้าวันนี้ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระตุ้น จึงทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย
นักบริหารเงินคาดว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.10 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตากระแสเงินทุนต่างชิ ตลาดจนความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยง ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียและชาติตะวันตก และถ้อยแถลงของประธานเฟดในวันที่ 21-23 ส.ค.นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า แนวโน้มหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรก่อนการจัดตั้งรัฐบาล และในส่วนของปัจจัยภายนอกได้แก่ สถานการณ์ในอิรัก และยูเครน รวมถึงรายงานการประชุมเฟด ตัวเลขเงินเฟ้อ และดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นต่างประเทศ และจะสะท้อนมายังตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ดี ความชัดเจนจากการพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ของ สนช. น่าจะส่งผลบวกต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นไทยในเช้าวันนี้ได้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 0.1%
- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 0.2%
- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 25.6 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 17.4
- TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 18.6B ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -18.7B
- Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 81.8 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 79.2
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวตามการแกว่งตัวของข่าวความตึงเครียดในยูเครน โดยที่เมื่อวันศุกร์มีการแกว่งตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุด 1,293 เหรียญ และดีดเหนือ 1,300 เหรียญ หลังจากที่ยูเครนโจมตีกองทัพคาราวานของรัสเซียที่ส่งเข้ามาโดยอ้างว่าล้ำพรมแดน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์ โดยส่วนใหญ่ออกมาปรับตัวลดลง วิเคราะห์ได้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังอยู่ในภาวะทรงตัวหรือดีขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่ตลาดเริ่มรับรู้ข่าวความตึงเครียดในยูเครนน้อยลง หรือให้ความสำคัญน้อยลง โดยที่ในสัปดาห์นี้เน้นไปที่ถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ในวันที่ 22-23 สิงหาคม สำหรับคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ และ SPDR ยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 795.60 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในระยะสั้น ในทางเทคนิคดูจะเป็นแนวโน้มขาลง โดยที่แนวต้านในระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1,310 เหรียญ แนวรับที่ระดับ 1,290 เหรียญ และวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,290 – 1,305 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เข้าออกเร็ว เก็งกำไรตามกรอบของราคาทองคำ โดยเป็นลักษณะของการ Swing Trade
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรระยะสั้น เข้าออกเร็ว บริหารพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เป็นการเก็งกำไรตามแนวโน้มระยะยาวที่เป็นขาลง
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,880 บาท
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,920 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง