กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แจ้งเอาผิดดำเนินคดีบริษัท อินโนเวชั่นฟูดส์ โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบกิจการแปรรูปวุ้นมะพร้าว จังหวัดนครปฐม รวม 3 คดี คือ เจาะน้ำบาดาล ใช้น้ำบาดาล และระบายน้ำเสียลงบ่อน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ต้องวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตามที่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รับหนังสือจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม ขอให้ตรวจสอบบริษัท อินโนเวชั่นฟูดส์ โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการแปรรูปวุ้นมะพร้าว ตั้งอยู่เลขที่ 98 หมู่ที่ 1 ตำบลดอนตูม อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เนื่องจาก มีการร้องเรียนว่าบริษัทฯ ได้ระบายน้ำเสียลงบ่อน้ำบาดาล ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสำนักควบคุมกิจการน้ำบาดาล ร่วมกับสำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม (ส่วนทรัพยากรน้ำ) และองค์การบริหารส่วนตำบลดอนตูม อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบว่า สถานที่ประกอบกิจการเป็นโรงงานอาคารชั้นเดียว เปิดกิจการเมื่อปี 2556 มีพนักงานจำนวน 15 คน ทำกิจการแปรรูปวุ้นมะพร้าว โดยการนำแผ่นวุ้นมะพร้าวมาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดลูกเต๋า กำลังการผลิตเฉลี่ยวันละ 2-3 ตัน ใช้น้ำบาดาลเฉลี่ยวันละประมาณ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยใช้ร่วมกับน้ำประปาหมู่บ้าน
บ่อน้ำบาดาลที่ตรวจพบภายในสถานที่ประกอบกิจการมีจำนวน 2 บ่อ ซึ่งผู้ประกอบการแจ้งว่าไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตประกอบกิจการน้ำบาดาลกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาลทั้ง 2 บ่อ โดยบ่อน้ำบาดาล บ่อที่ 1 ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงงาน ขนาดบ่อ 100 มิลลิเมตร ความลึก 104 เมตร นำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในกระบวนการผลิต ส่วนบ่อน้ำบาดาลบ่อที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังโรงงานใกล้บ่อทิ้งน้ำเสีย ขนาดบ่อ 125 มิลลิเมตร ความลึก 56 เมตร ขณะตรวจสอบไม่พบสภาพของบ่อน้ำบาดาล เนื่องจากผู้ประกอบการ แจ้งว่า ได้อุดกลบบ่อน้ำบาดาลแล้ว เจ้าหน้าที่จึงขอให้เจ้าของโรงงานขุดบ่อที่อุดกลบเพื่อตรวจสอบการอุดกลบบ่อน้ำบาดาลว่าเป็นไปตามมาตรฐานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรับสารภาพว่า ได้ระบายน้ำเสียลงบ่อน้ำบาดาลจริง เมื่อช่วงต้นปี 2557 ซึ่งเพิ่งเจาะบ่อน้ำบาดาลเสร็จและสูบน้ำเสียลงบ่อน้ำบาดาลเป็นระยะเวลาประมาณ 3-4 ครั้ง และเกิดอาการเอ่อล้น อุดตันของบ่อน้ำบาดาล
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้แจ้งผู้ประกอบการว่า มีความผิดตามมาตรา 16 และบทกำหนดโทษตามมาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ต้องวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับ ไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และขณะนี้กรมทรัพยากร น้ำบาดาลกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางคดีกับผู้ประกอบการดังกล่าว ทั้ง 3 คดี ประกอบด้วย การเจาะ น้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้น้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการระบายน้ำเสียลงบ่อน้ำบาดาล โดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับบ่อน้ำบาดาลที่มีการระบายน้ำเสียนั้น เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เก็บ ตัวอย่างน้ำเพื่อนำไปวิเคราะห์ทั้งก่อนทำการเป่าล้างน้ำเสียออกจากบ่อน้ำบาดาลและหลังการเป่าล้าง โดยให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามระเบียบของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อเป่าล้างบ่อที่ระบายน้ำเสียจนได้น้ำที่ใส หมดกลิ่นและสี พร้อมทั้งอุดกลบบ่อน้ำบาดาลให้เรียบร้อย ส่วนบ่อน้ำบาดาลที่ใช้ในกระบวนการผลิต ผู้ประกอบการได้ยื่นขอใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐมแล้ว
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบ่อน้ำบาดาลที่มีการอนุญาตเจาะและใช้ น้ำบาดาลอย่างถูกต้องประมาณ 38,725 บ่อ และเชื่อว่ายังมีบ่อน้ำบาดาลที่ไม่ได้ขออนุญาตเจาะและ ขออนุญาตใช้น้ำบาดาลอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงขอเชิญชวนให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชนที่มีความประสงค์จะเจาะน้ำบาดาล หรือมีบ่อน้ำบาดาลอยู่แล้วและต้องการ ใช้น้ำบาดาล ให้ติดต่อยื่นคำขอรับใบอนุญาตเพื่อเข้าสู่ระบบการควบคุมกิจการน้ำบาดาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ของประชาชนในการใช้ทรัพยากรน้ำบาดาลที่มีคุณภาพ สะอาดปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อน ช่วยรักษาสมดุลและป้องกันปัญหาหรือผลกระทบในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นกับชั้นน้ำบาดาล หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุมกิจการน้ำบาดาล โทรศัพท์ 0 2793 1087-90