สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 22, 2014 10:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,289 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,276 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 31.97 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,500 บาท กับ 19,600 บาท และกลับมาปิดที่ 19,450 บาท กับ19,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,259 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,400 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 7.6% GFQ14 ปิด 19,460 บาท และ GFV14 ปิด 19,540 บาท GF10Q14 ปิดที่19,460 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,530 บาท สัญญา Comex ลดลง 19.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,275.4 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 0.51 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 800.08 ตัน (เท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด หลังจากข้อมูลชี้วัดเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ อันได้แก่ภาคแรงงาน ภาคการผลิต และภาคที่อยู่อาศัยฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง -นักลงทุนวิตกกังวลว่า ทองคำอาจไม่ใช่สินทรัพย์ดึงดูดอีกต่อไป หากว่าเฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะทำให้ทองคำกลับเข้าสู่ภาวะขาลงอีกครั้ง -นักลงทุนจับตาดู นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่จะแสดงความคิดเห็นด้านตลาดแรงงานในคืนนี้ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงมาตรการและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารรกลางยุโรป (อีซีบี) มีกำหนดแถลงการณ์เกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจยูโรโซนในวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคมนี้ -จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทองคำเข้าสู่ภาวะขาลงอีกครั้งหลังจากหลุดแนวต้านสำคัญ 1,280 เหรียญลงมา ซึ่งในทางเทคนิคแนวรับสำคัญของทองคำ ณ ขณะนี้อยู่ที่บริเวณ 1,250 เหรียญ -ซีเอ็มอี กรุ๊ป ระบุว่า หลักประกันขั้นต้น (initial margin) ปรับตัวลดลงในตลาด COMEX โดย 100 สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าปรับตัวลดลงไป 14.8% สู่ระดับ 5,060 เหรียญ/สัญญา จากเดิมที่ระดับ 5,940 เหรียญ/สัญญา -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯจะออกมาในเชิงบวก แต่นักลงทุนก็ยังคงรอดูถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะกล่าวในที่ประชุมสุดยอดผู้ว่าธนาคารกลางทั่วโลก ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3262 ดอลลาร์/ยูโร -ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 2.4% สู่ระดับ 5.15 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน และเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน แสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง -เมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติยูโรโซนเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของยุโรโซน ปรับตัวลดลงไป 50.8 จากเดิมที่ระดับ 51.8 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของยูโรโซนเริ่มชะลอตัว -นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 หลังพบว่า ประเทศสมาชิกอันเป็นศูนย์กลางของยูโรโซน 3 ลำดับแรก ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี เข้าสู่ภาวะถดถอยจากภาคการลงทุนและภาคธุรกิจที่อ่อนแอ -นอกจากนี้ วิกฤตการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครนกับรัสเซียก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซน -นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ในวันเสาร์นี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี อาจประกาศเพิ่มมาตรการเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ในขณะที่อีซีบีได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ 0.15% ในการประชุมวาระก่อนหน้า เพื่อลดปริมาณกู้ยืมทางภาคธุรกิจและภาคบริโภค แต่ระยะยาวอีซีบีอาจมีการให้ภาคธนาคารสามารถกู้ยืมในระดับราคาที่ย่อมเยา และอีซีบีอาจมีการดำเนินการเพิ่มการพิมพ์พันธบัตรครั้งใหม่เพื่อเข้าสู่ระบบการเงิน -ผลสำรวจดัชนีชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนพบว่า สภาพเศรษฐกิจจีนอ่อนแอลง โดยที่ภาคการผลิตของจีนเริ่มตอบสนองต่อความวิตกกังวลที่ว่าสภาพเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอีกครั้ง -ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิดปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ปิดสูงขึ้น 0.36% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง -เช้านี้ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดเพิ่มขึ้น 0.20% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นดาวโจนส์ -นักบริหารเงิน คาดว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมองว่ามีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง -ตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้รับอานิสงค์ จากการที่ สนช.มีมติเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 -ปลัดกระทรวงการคลังเชื่อว่า ภาคธุรกิจ ประชาชน และต่างชาติจะยอมรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เข้ามาดูแลเศรษฐกิจ จึงน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย -นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า บริษัทการบินไทยจะมีการกู้เงินเสริมสภาพคล่องและจ่ายค่างวดฝูงบินที่จัดซื้อมา เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2.7 หมื่นล้านบาท และจะร่วมค้ำประกันให้ในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้จะมีการเร่งรัดโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยแสนและโครงการรถไฟฟ้าเป็นจำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท -AOT ชะลอแผนพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ดันสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือวงเงิน 24,000 ล้านบาทเสียบแทน อ้างคตร.ยังตรวจข้อมูลไม่เสร็จ ขณะ "เมฆินทร์" ยื่นใบลาออกแล้ว มีผล 16 ก.ย. 57 -"อารีพงศ์"เจรจาคลังให้วายุภักษ์ถือหุ้น 25% ธุรกิจท่อก๊าซฯ ยันไม่แปรรูปกิจการเข้าตลาดหุ้นในอนาคต ด้านเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ปรับรูปแบบการเดินกลุ่มละไม่ถึง 5 คน เลี่ยงกฎอัยการศึก ขณะที่กสม.เตือนคสช.ควรสร้างความชัดเจนต่อการปฏิรูปพลังงาน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 312K ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 298K - Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 55.8 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 58 - Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 23.9 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 28 - Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.03M ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 5.15M ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - Jackson Hole Symposium - Fed Chair Yellen Speaks ทิศทางราคาทองคำ ตลาดทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากหลุดระดับ 1,285 เหรียญลงมา เมื่อคืนนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,273 เหรียญโดยประมาณ โดยที่ตลาดมีความกังวลกับสภาวะที่เศรษฐกิจดีขึ้นจึงอาจทำให้เฟดพิจารณายุติ QE เร็วขึ้น และปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ทองคำมีแรงเทขายเข้ามาในตลาดทองคำอย่างหนาแน่น ในส่วนของความตึงเครียดตะวันออกกลางคลี่คลายลงไป ขณะที่ SPDR ยังถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 800.08 ตัน เมื่อวานนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาโดยทั่วไปออกมาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนว่างงานน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เหลือเพียง 298,000 ราย วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง เมื่อหลุดระดับ 1,280 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับและลงมาทำจุดสุดในรอบ 4 เดือน ทำให้ทองคำจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,250 เหรียญ ขณะที่แนวต้าน 1,290 เหรียญ ในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,270-1,285 เหรียญ โดยที่ในภาพรวมราคาเข้าสู่สภาวะ ขายเกิน โดยสัญญาณ RSI เริ่มเข้าสู่ระดับประมาณ 20 จึงแนะนำให้นักลงทุนให้ระมัดระวังการเกิด Technical Rebound กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงแนะนำให้ขายปิดทำกำไรในระยะสั้น และเล่นเก็งกำไรในสภาวะ Technical rebound โดยมี Stop Loss ป้องกันความเสี่ยง - นักลงทุนที่ถือ Long Position ปิดสถานะทำกำไร และบริหารพอร์ตให้สมดุล มีจุด Stop Loss เพื่อป้องกันความเสี่ยง - นักลงทุนที่ถือ Short Position ทำกำไรเป็นช่วงๆ กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading แนะนำให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ และเก็งกำไรในทิศทางขาลง Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,380 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,580 บาท Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,470 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,770 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ