กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,278 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,281 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 31.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,300 บาท กับ 19,400 บาท และกลับมาปิดที่ 19,300 บาท กับ19,400 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 688 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,863 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2% แบบ 10 บาท ลดลง 0.3% GFQ14 ปิด 19,500 บาท และ GFV14 ปิด 19,570 บาท GF10Q14 ปิดที่19,510 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,570 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 4.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,280.20 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 31 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 93.65 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 800.08 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
-ตลาดทองคำสหรัฐฯ หยุดการซื้อขายในเช้าวันนี้ โดย CME Group กล่าวว่า โปรแกรมการซื้อขายในตลาดประสบปัญหาทางเทคนิค จึงอาจส่งผลให้มีการเปิดตลาดเลื่อนออกไปในช่วงกลางคืนแทน
-ในคืนวันศุกร์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นประมาณ 2% จากการปรับตัวลงของตลาดหุ้น และความกังวลที่ว่า ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียอาจกลับมาอีกครั้ง
-อย่างไรก็ดี ทองคำยังปรับตัวขึ้นอย่างจำกัด เพราะได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่ระบุว่า ตลาดแรงงานยังคงมีอุปสรรคในการฟื้นตัว เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
-นักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่า ตลอดทั้งสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปแล้วประมาณ 2% ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด เพราะได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนด หลังจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีสุดท้ายกำลังจะสิ้นสุดลง เนื่องจากมีคนว่างงานน้อยลง และประชาชนส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ มีงานทำเพิ่มมากขึ้น
-เทรดเดอร์ระบุว่า ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่เหนือระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยราคาซื้อขายทองคำแท่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงประมาณ 3% เนื่องจากนักลงทุนย้ายฐานการลงทุนไปถือครองผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในฐานะ Save Haven แทนทองคำ
-นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทองคำอาจกลับมาดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง หลังจากที่ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้
-อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ปริมาณความต้องการทองคำในอินเดียจะกลับมาเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคจะกลับเข้าซื้อทองคำในช่วงเทศกาลแต่งงาน จึงอาจส่งผลดีต่อราคาทองคำได้ในเวลานั้น
-จีนได้ลงนามในการวางแผนแลกเปลี่ยนทองคำทั่วโลกกับจำนวนสมาชิกหลายราย ในขณะที่ธนาคารต่างประเทศได้รับสิทธิเข้ามาทดสอบการลงปฏิรูปการลงทุนในรูปแบบค่าเงินยวน
สรุปถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด
- ตลาดแรงงานมีการขยายตัวมากขึ้นในรอบ 5 ปี แต่ก็ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ เฟดจึงต้องการที่จะเห็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ก่อนที่จะทำการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แสดงให้เห็นว่า เฟดต้องการให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง โดยมีการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นกว่านี้
- อย่างไรก็ดี เยลเลน ระบุเพิ่มเติมว่า นโยบายการเงินไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า และการเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดทันทีที่เงินเฟ้อปรับตัวกลับขึ้นสู่ระดับ 2% นั้นอาจเป็นการขัดขวางไม่ให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ และอาจไม่สอดคล้องกับ Dual Mandate (การจ้างงานสูงสุด และความมีเสถียรภาพด้านราคา) ของเฟด
-หลังเสร็จสิ้นการประชุมแจ็คสันโฮล สมาชิกเฟด 2 ราย อันได้แก่ นาย เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ และนายเดนนิส ล็อกฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ระบุกับสำนักข่าว CNBC โดย นายบุลลาร์ด เชื่อว่าเฟดอาจเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริงในช่วงท้ายไตรมาสแรกของปี 2558 ขณะที่ นายล็อกฮาร์ท คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงกลางปีหน้า
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากประธานเฟด ระบุว่า ตลาดแรงงานกำลังปรับตัวดีขึ้น อาจส่งผลต่อการกำหนดเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3241 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3281 ดอลลาร์/ยูโร
-ขณะที่ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า พร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบายการเงินให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคเริ่มเข้าสู่ภาวะชะงักงัน
-สถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย ส่งสัญญาณตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากที่รัสเซียส่งรถบรรทุกมากกว่า 150 คัน จากรัสเซียเพื่อข้ามพรมแดนยูเครนไปยังเมือง ลูฮานส์ ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
-ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ระบุว่า การที่รัสเซียส่งขบวนรถบรรทุกข้ามพรมแดนมายังตะวันออกของยูเครน ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการบุกรุก และเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง โดยชี้ให้เห็นว่า รัสเซียแสดงให้เห็นถึงการกระทำอันรุกรานที่มีการไตร่ตรองมาก่อนแล้ว
-นายบารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเตือนอาจมีการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มขึ้น หากรัสเซียไม่ยุติการเคลื่อนขบวนรถบรรทุกเพื่อเข้าสู่ยูเครน เนื่องจากเป็นการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดในยูเครนเพิ่มมากขึ้น
-ผู้นำอิสราเอลประกาศจะตอบโต้การกระทำของกลุ่มฮามาส โดยการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง หลังจากผู้นำกลุ่มฮามาสออกมาประกาศว่า จะไม่มีการยอมวางอาวุธอย่างแน่นอน
-สำนักข่าว AFP รายงานว่า ลิเบียกลับเข้าสู่ภาวะวิกฤตรอบใหม่ หลังจากที่นักรบอิสลามิสต์ ประกาศยึดสนามบินตริโปลีได้สำเร็จ หลังต่อสู้แย่งชิงการควบคุมจากนักรบซินตันฝ่ายชาตินิยม ส่งผลให้สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองของลิเบียรุนแรงขึ้น และอาจส่งผลให้ลิเบียเสี่ยงที่จะเป็นศูนย์กลางอำนาจคู่
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวลง 0.22% หลังจากที่ถ้อยแถลงของเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในการประชุมที่แจ๊คสัน โฮล ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียได้กลับมาปะทุขึ้นอีก กลับมาจุดกระแสความวิตกกังวลให้เกิดขึ้นในตลาดอีกครั้ง
-ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดเช้านี้ +0.45% เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงสู่ระดับ 104 เยน ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จะมีการสร้างโปรแกรมการลงทุนที่ไม่เสียภาษีสำหรับเด็กๆในเดือนมกราคม 2016 เพื่อยกระดับไปสู่ตลาดหุ้นระดับประเทศ
-นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ในสัปดาห์นี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.90-32.30 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงใกล้สิ้นเดือนของผู้ประกอบการในประเทศ รวมถึงทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ และความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้
-ปัจจัยบวกสำหรับตลาดหุ้นไทย ได้แก่ ปัจจัยภายในประเทศหลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยภาคเอกชนและต่างประเทศมีการขานรับข่าวในเชิงบวก ซึ่งเชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้าก็จะมีการเก็งโผคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเรื่องของนโยบายการบริหารประเทศ โดยเป็นไปตามกรอบเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้ไว้ ว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ภายในเดือนก.ย.นี้
-ในวันนี้ กสทช. จะมีการประชุมคณะกรรมการบูรณาการ เพื่อหามติในเรื่องการแก้ไขและจัดสรรความถี่ ก่อนจะนำเสนอสู่ กทค.
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Fed Chair Yellen Speaks
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 406 K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 426K
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในทิศทางขาลงจากความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจและสภาวะความตึงเครียดที่ผ่อนคลายลงไป ในช่วงสัปดาห์ทีแล้วราคาทองคำปรับตัวลดลง 1.8% ณ ขณะนี้ทรงตัวบริเวณ 1,280 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ก่อนออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อันได้แก่ Jobless Claims ลดน้อยลง ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองเท่าเดิม 800.08 ตัน สำหรับค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร โดยเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มมีปัญหาจากการคว่ำบาตรรัสเซีย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยที่กรอบแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,270 เหรียญ เป็นแนวรับระยะสั้น และ 1,250 เหรียญเป็นแนวรับระยะยาว ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,280 เหรียญ และ 1,285 เหรียญตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ทิศทางขาลง และให้มีการซื้อขายตามกรอบ เก็งกำไรในระยะสั้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ปิดสถานะ และบริหารพอร์ตให้สมดุล
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรในทิศทางขาลงเป็นช่วงๆ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะนำให้ทำการซื้อขาย ในสภาวะแนวโน้มขาลง ถ้ายังถือ Long Position แนะนำให้ปิดสถานะ Long
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,600 บาท
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,650 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง