กระทรวงวิทย์ฯ เปิดตัวระบบฐานข้อมูล STDB มั่นใจช่วยต่อยอดเอสเอ็มอีไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday August 26, 2014 09:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--อิน เฮ้าส์ เอเยนซี่ เปิดตัวแล้วฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Infrastructure Databank หรือ STDB) พร้อมใช้ 24 ชั่วโมง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แนะเอสเอ็มอีไทยนำงานวิจัยมาต่อยอดพัฒนาสินค้า รวมถึงการใช้งานเครื่องมือและห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุน สร้างความเข้มแข็ง มั่นใจฐานข้อมูลงานวิจัยและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ร่วมหมื่นจะเชื่อมโยงรัฐและเอกชน เสริมผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ด้านฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ Science and Technology Infrastructure Databank ชื่อย่อ STDB โดยมี พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารเรือ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนาม พร้อมกล่าวแสดงความยินดีที่เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคการศึกษา อันจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจเอกชนในที่สุด ระบบฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถรวบรวมข้อมูลนักวิจัยสูงถึง 11,341 ราย ข้อมูลผลงานวิจัย จำนวน 33,638 ผลงาน ข้อมูลห้องปฏิบัติการจำนวน 181 ราย และข้อมูลเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ 1,746 รายการ นับเป็นระบบฐานข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ ครบถ้วน และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลาผ่านเว็บไซต์ www.stdb.most.go.th รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึง ระบบฐานข้อมูลฯ ว่า “ระบบนี้เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ภาครัฐมีความพร้อมเรื่องทรัพยากร เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงนักวิจัยที่มีความสามารถ การจัดทำระบบฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นโอกาสให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอสเอ็มอีไทยได้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ จำนวนมากที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ซึ่งลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพ สร้างความแตกต่างแก่สินค้า ภาคธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เข้าถึงข้อมูลตลอดเวลา เป็นการใช้ทรัพยากรและงบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพอย่างมาก” “ข้อมูลในระบบจะมีความทันสมัย (live) ตลอดเวลา เพราะมีการอัพเดทข้อมูลตลอดบนพื้นฐานการร่วมใช้ ร่วมบริการการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าและบริการอยู่เสมอ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสินค้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตระหนักถึงความสำคัญนี้ จึงพัฒนาระบบฐานข้อมูลนี้เพื่อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจเอกชนในการพัฒนา ต่อยอดเชิงพาณิชย์” รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ