กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,284 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,281 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 31.89 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,350 บาท กับ 19,450 บาท และกลับมาปิดที่ 19,350บาท กับ19,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 950 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,575 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.6% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.17% GFQ14 ปิด 19,520 บาท และ GFV14 ปิด 19,610 บาท GF10Q14 ปิดที่19,500 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,610 บาท
สัญญา Comex ลดลง 1.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,283.4 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 93.88 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 795.60 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังขาดปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าซื้อในตลาดเอเชีย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงไปบ้าง รวมไปถึงสภาวะความตึงเครียดทางการเมือง จึงช่วยสกัดกั้นแรงเทขาย และสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
เทรดเดอร์ ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากกลุ่มเทรดเดอร์ในตลาดหันไปให้ความสนใจในสินทรัพย์เสี่ยงกว่า โดยยังคงให้ความสนใจกับกระแสข่าวที่ว่า อีซีบีจะดำเนินการใช้มาตรการ QE จึงอาจกระตุ้นให้ทองคำกลับมาน่าดึงดูดใจอีกครั้ง
รายงานรอยเตอร์ ระบุว่า ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ทางการเมือง จึงเกิดแรงกดดันจากการเทขายจากตลาดหุ้นที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นและติดตามตัวเลขจีดีพีจะมีประกาศขึ้นคืนนี้
นายอูแกนท์ เวนท์เบิร์ก ประธานนักวิจัยจากคอมเมิร์ซแบงก์ กล่าวว่า การซื้อขายทองคำก็ยังคงอยู่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200วัน ซึ่งเป็นแนวรับทางเทคนิคบริเวณ 1,285 เหรียญ แต่นักลงทุนต้องเฝ้าระมัดระวัง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่า และตลาดหุ้นฟื้นตัว จึงอาจกลับมาสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำอีกครั้ง
นายแจน แฮททีอัส นักวิเคราะห์จาก โกลด์แมน แซค ทำการวิจัยความคิดเห็นของเฟด โดยที่ผลวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานที่ลดลงไม่ได้ชี้ให้เห็นว่าจะเกิดภาวะถดถอยลงหรือเกิดภาวะเงินฝืด จึงมีโอกาสสูงที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ในปี 2015 นี้
วันนี้จะเป็นวันหมดอายุการซื้อขาย สัญญา Gold Futures ซีรี่ย์ Q ของตลาด TFEX
นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 ประจำไตรมาสที่ 2/2557 ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่า GDP โอกาสขยายตัวที่ระดับ 3.7-4.1% จากเดิม 4% เนื่องจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจมีการใช้จ่ายมากขึ้นหลังฤดูหนาวเย็นผิดปกติในสหรัฐฯผ่านพ้นไป
ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลง จากกระแสข่าวที่ว่าอีซีบีอาจจะยังไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ยูโรแข็งค่าขึ้น 1.3196 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3172 ดอลลาร์/ยูโร
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า อีซีบีจะยังไม่ส่งสัญญาณการใช้นโยบายทางการเงิน ในการประชุมอีซีบีสัปดาห์หน้า (พฤหัสบดี 4 ก.ย.)
อย่างไรก็ดี นายโบเน็ท ครัวร์ หนึ่งในสมาชิกอาวุโสของอีซีบี เปิดเผยว่า ทางอีซีบีได้เริ่มนำระบบการป้องกันความปลอดภัยทางการเงินเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมโดยที่รัฐบาลจะทำการรองรับความเสี่ยงบางส่วนเอาไว้หรือรองรับหนี้สินให้แก่เหล่าโรงงานอุตสาหกรรมในระยะสั้นๆเท่านั้น
นักวิเคราะห์กล่าวเสริมว่าทั้งสหภาพยุโรปและแอฟริกาต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในเวลานี้ ส่งผลให้สินค้าหุ้นกู้และพันธบัตรปรับตัวลง
เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ร่วงลงอย่างรุนแรงจากเดิมค่าเฉลี่ยในเดือนพ.ค.-ก.ค. อยู่ที่ระดับ 3.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่เดือน ส.ค. ปรับตัวลดลงที่ค่าเฉลี่ยอยู่ระดับ 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าการชะลอตัวและมีความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อตลาดลงทุนได้
นายกรัฐมนตรีอินเดีย นาเรนด้า โมดิ ได้จัดการผลักดันการเติบโตจีดีพีภายในประเทศที่คาดว่าอินเดียจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมากก่อนประกาศตัวเลขในวันพรุ่งนี้
รัสเซียกำลังผลักดันกฎหมาย เพื่อสร้างระบบการโอนจ่ายเงิน ซึ่งเป็นระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิก โดยเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาช่วยสนับสนุนสภาพเศรษฐกิจในขณะที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร เพื่อตัดช่องทางการเงินของรัสเซียจากวิกฤตจากยูเครน
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียคลี่คลายลง หลังจากผู้นำทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องกันในเรื่องการหาข้อยุติสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งรัสเซีย แสดงความคิดเห็นว่า การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ควรแก้เฉพาะปัญหาที่เกิดในยูเครน แต่รวมถึงปัญหาระหว่างประเทศอื่นๆที่ต้องเร่งแก้ไขไปพร้อมๆกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ ยูเครน ออกมาตำหนิการกระทำของรัสเซียในการส่งกองกำลังครั้งใหม่ โดยการบุกรุกข้ามมายังพรมแดนของยูเครน แม้ว่ารัสเซียจะอ้างว่าเป็นการขนส่งเพื่อมนุษยธรรมก็ตาม
ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงในเขตฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ช่วยสร้างความผ่อนคลายที่เกิดขึ้น โดยทุกฝ่ายคาดหวังให้เกิดการเจรจาสันติภาพโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สหรัฐฯ ประกาศปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อจัดการกับกลุ่มความไม่สงบ โดยมีการเพิ่มกำลังทหารในการค้นหาแหล่งกบดานของกองกำลังอิสลาม จิฮัดส์ ในอิรักและซีเรีย
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการภาคเอกชนและเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เช้าวันนี้ตลาดหุ้นโตเกียว เปิด -0.34% เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ จึงส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออก รวมถึง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตปรับตัวลงตาม
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวกรอบ 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์ โดยในเช้าวันนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยที่ระดับ 31.84 บาท/ดอลลาร์
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สศช. คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 57 จะฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโตได้ที่ระดับ 2%
ขณะที่การส่งออกของไทยประจำเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 0.85% และการนำเข้าลดลง 2.86% ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศขาดดุลสู่ระดับ 1,102.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
Prelim GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.0% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 3.9%
Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยุ่ที่ระดับ 298K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 299K
Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.6%
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบของ 1,280 – 1,287 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ไม่มี ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิม 795.60 ตัน สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในคืนนี้ ได้แก่ GDP Q2/2014 , Jobless Claims และ Pending Home Sales โดยส่วนใหญ่ค่อนข้างจะทรงตัว
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงมีความผันผวนในกรอบระยะสั้น 1,280-1,288 เหรียญ จึงต้องจับตาไปยังตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ที่อาจจะเป็นตัวผลักดันราคาทองคำต่อไป ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซีย และอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เล่นตามการแกว่งของราคา ซึ่งจะเห็นการแกว่งของตลาด โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,280 เหรียญ และแนวต้าน 1,290 เหรียญ ขณะที่เช้านี้เงินบาทแข็งค่าที่ระดับ 31.85 บาท/ดอลลาร์
* อย่างไรก็ดี Gold Futures Q14 จะหมดอายุลงในวันที่ 28 ส.ค. 57 จึงแนะนำให้นักลงทุนหันไปถือครองสถานะของ Gold Futures V14 แทน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบระยะสั้นตามการแกว่งของราคา และบริหารพอร์ตสมดุล
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ยังแนะนำเก็งกำไรในทิศทางขาลง เนื่องจากภาพระยะยาวยังเป็นขาลง
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,380 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,580 บาท
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,490 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,690 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “How to Trade TFEX ฉบับมือโปร” บรรยายโดย คุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 1 กันยายน 2557 เวลา 18.00-20.30น. ณ ห้อง VIP ชั้น 1 อาคาร 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สามารถลงทะเบียนด้วยตัวท่านเองได้ที่: http://www.setfinmart.com/seminar.do?ccID=5&cosID=5573