สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 8, 2014 09:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,264 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,267 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.06 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,150 บาท กับ 19,250 บาท และกลับมาปิดที่ 19,150 บาท กับ 19,250 บาท ปริมาณการซื้อขายGold Futures 50 บาทอยู่ที่ 465 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,713 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.84% แบบ 10 บาท ลดลง 1.13% GFV14 ปิด 19,380 บาท และ GFZ14 ปิด 19,420บาท GF10V14 ปิดที่ 19,370 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,430 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,267.3 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.16 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 93.29 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 785.72 ตัน (คงทองเท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ ในคืนวันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากข้อมูลภาคแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐฯ หลังพบว่าการจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนสู่ระดับ 142,000 ตำแหน่ง จึงส่งผลให้เฟดอาจพิจารณาชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน อย่างไรก็ดี นักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับสถานการณ์ในยูเครนอีกครั้ง เนื่องจากวิตกกังวลว่าสถานการณ์จะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุปะทะในภาคตะวันออกของยูเครนอีกครั้ง อาจส่งผลให้มีการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นในฐาน Save-Heaven ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำปรับตัวลดลงทั้งสิ้น 1.56% อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายฝ่ายประเมินว่า เดือน ก.ย. ของทุกปี จะเป็นเดือนที่ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยต้องจับตาปริมาณการซื้อทองคำของอินเดียในช่วงเทศกาลแต่งงาน เนื่องจากอาจช่วยหนุนให้ทองคำกลับมาฟื้นตัวได้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกว่าข้อมูลด้านแรงงานที่ซบเซาจะช่วยสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน นายอีริค โรเซนเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่ประกาศออกมา แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงมีความซบเซาอยู่มาก ดังนั้นเฟดจึงไม่ควรรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ นักลงทุนต่างจับตาไปที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ อันได้แก่ ยอดค้าปลีก และความเชื่อมั่นผู้บริโภค เพราะตัวเลขดังกล่าวอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ นักลงทุนวิตกกังวลว่า แผนการใช้ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบี อาจยังไม่มากพอที่จะช่วยฟื้นสภาพเศรษฐกิจยูโรโซนได้ หลังจากมีรายงานบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 ไม่มีการขยายตัว ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดแรงงาน ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยสู่ระดับ 1.2958 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2939 ดอลลาร์/ยูโร สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เกิดเหตุปะทะทางตะวันออกของยูเครนอีกครั้งในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งการปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน หลังจากที่ผู้นำยูเครนและผู้นำกลุ่มกบฏสนับสนุนรัสเซียได้ร่วมลงนามสัญญาหยุดยิงที่เมืองมินส์ (ภาคตะวันออกของยูเครน) ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งหากความรุนแรงดังกล่าวทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นโมฆะได้ อียู จะพิจารณามาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย หากพิจารณาว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพในยูเครน อย่างไรก็ดี นายเคเซียเนีย ยูเดฟวา เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางรัสเซียกล่าวว่าได้เริ่มมีการปรึกษาหารือเรื่องนโยบายทางการเงินหากมีมาตรการคว่ำบาตรจากทางอียูเพิ่มขึ้น GDP ประจำไตรมาสที่ 2 ของญี่ปุ่นออกมาตามคาดที่ระดับ -1.8% ขณะที่ นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. ดังนั้นรัฐบาลจะยังคงจับตาดูแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะสามารถขึ้นภาษีการบริโภคสู่ระดับ 10% ตามที่วางแผนได้หรือไม่ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นปิดปรับตัวสูงขึ้น +0.40% เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคาการเกษตรที่ออกมาน้อยกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลให้เฟดชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหว Sideways เพื่อเลือกทิศทาง แต่ยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าสูง เนื่องจากกระแสเงินไหลเข้าในประเทศ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ (SGX) ประกาศลดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อขายหุ้น (บอร์ดล็อต) จาก 1,000 หุ้น เหลือเพียง 100 หุ้น เท่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 58 เป็นต้นไป นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย คาดการณ์ว่า ในสัปดาห์นี้ ดัชนีอาจเผชิญแรงขายทำกำไร และอาจปรับตัวผันผวนหลังจากหมดปัจจัยใหม่ๆในการสนับสนุนการปรับขึ้นของตลาด อย่างไรก็ดีนักลงทุนรอติดตามผลการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องกฎเกณฑ์ที่จะต่อต้านกองกำลังทหารอิสลามและพยายามที่จะไม่ให้สาธารณชนเกิดความกังวลจนเกินไป ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 212K ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 142K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 6.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 6.1% ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260-1,300 เหรียญ จากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์ที่สำคัญได้แก่ การจ้างงานภาคการเกษตรต่ำกว่าคาดการณ์ สู่ระดับ 142,000 ตำแหน่ง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อย อย่างไรก็ดีทองคำปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยจากระดับ 1,260-1,280 เหรียญ อย่างไรก็ดีภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงแข็งแกร่ง เพียงแต่นักวิเคราะห์มองว่าเฟดอาจจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังตัวเลขการจ้างงานออกมาแย่ลง ขณะที่อัตราการว่างงานดีขึ้นจากระดับ 6.2% สู่ระดับ 6.1% ขณะที่ SPDR ไมได้ทำอะไรเพิ่มเติม ยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 785.72ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ จึงมองว่าไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่จะช่วยผลักดันราคาเท่าไหร่นัก วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบด้านล่างตามแนวโน้มขาลง โดยที่ราคาทองคำมีการ Technical Rebound จากบริเวณ 1,260 เหรียญขึ้นมาได้ ซึ่งการที่ Rebound ขึ้นมาเชื่อว่าเป็นเพียงสั้นเท่านั้น จะมีแนวต้านที่ระดับ 1,280 เหรียญ แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,260 เหรียญโดยที่ปัจจัยทางเทคนิคยังคงเป็นตัวชี้นำตลาดค่อนข้างมาก ในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260-1,275 และน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบเนื่องจากไม่มีข่าวใหม่ๆ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงเป็นการเล่นตามการแกว่งของตลาด ลักษณะลงซื้อขึ้นขายและปิดการซื้อขายให้เร็วภายใน 1-2 วันเท่านั้น และให้จำกัดความเสี่ยงโดยการใช้ Stop Loss ตามระดับต่างๆให้เหมาะสม - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position ทำกำไรระยะสั้น เข้า-ออกภายในวัน กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading แนะนำให้ทำกำไรบ้างบางส่วน โดยทำกำไรในทิศทางขาลงตามภาพหลักระยะยาว Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,500 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,550 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 15 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 และวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ