บ.เฮลธ์แคร์ เอ็กซเปิร์ท กรุ๊ป (ไทยแลนด์) ลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ การฝึกอบรม และการประเมิน รับรอง มุ่งผลักดันสถานพยาบาล ในประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ

ข่าวทั่วไป Thursday September 11, 2014 09:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--Notable Bangkok บ.เฮลธ์แคร์ เอ็กซเปิร์ท กรุ๊ป (ไทยแลนด์) ลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ การฝึกอบรม และการประเมิน รับรอง มุ่งผลักดันสถานพยาบาล ในประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ บ.เฮลธ์แคร์ เอ็กซเปิร์ท กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จัดตั้งขึ้นโดย ทีมสหวิชาชีพผู้มากประสบการณ์ และเป็นกลุ่มแรกในประเทศไทยที่ให้บริการเตรียมการรับรอง JCI ให้แก่สถานพยาบาลกว่า 60 แห่ง ทั่วประเทศ จัด “การลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ การฝึกอบรม และการประเมิน รับรอง” ร่วมกับ บ.เดทนอร์สกีเวริทัส เกอร์มานิชเชอร์ลอย (DNV.GL-Norway) โดยการสนับสนุนจาก ศูนย์ศึกษาและพัฒนามาตรฐานบริการสุขภาพนานาชาติ (มหาวิทยาลัยรังสิต)-IHIC มุ่งผลักดันสถานพยาบาลในประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการ แพทย์ในรtดับนานาชาติ นพ.สมพร คำผง ประธานกรรมการบริหารและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บ.เฮลธ์แคร์ เอ็กซเปิร์ท กรุ๊ป (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การที่สถานพยาบาลในประเทศไทยได้รับการยอมรับในมาตรฐานบริการสุขภาพสากล เป็นสิ่งที่จำเป็นและสร้างมูลค่าการแข่งขันแก่ประเทศไทย ในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC เป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันพบว่า มีสถานพยาบาลทั่วโลกกว่า 500 องค์กร รวมถึงในสหรัฐอเมริกาได้รับการรับรองมาตรฐาน “ดี เอ็น วี จี แอล (DNV.GL)” ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลจากค่ายยุโรปและได้รับการยอมรับในสหรัฐอเมริกา โดยประกันทั้งในภาครัฐและเอกชนโดยได้รับการยอมรับทั่วโลก ที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยและคุณภาพแก่ผู้ป่วย โดยลดความคลาดเคลื่อน และความผิดพลั้งทางการแพทย์ได้ โดยเฉพาะความชัดเจนโดดเด่นของมาตรฐานนี้ คือ เรื่องของการบริหารความเสี่ยง ที่มีการถอดแบบและเรียนรู้จากอุตสาหกรรมอื่นที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเดินเรือสมุทร ธุรกิจการบิน ธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจทางการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ธุรกิจอาหาร ธุรกิจเกี่ยวกับภาครัฐ ทำให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไป อย่างปลอดภัยซึ่งจะส่งผลดีต่อการแพทย์และสาธารณสุขไทยเป็นอย่างยิ่ง นพ.สมพร กล่าวเสริม โอกาสนี้ บ.เฮลธ์แคร์ เอ็กซเปิร์ท กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จึงได้จัดแถลงข่าว “การลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ การฝึกอบรม และ การประเมินรับรอง” ดังกล่าวขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้สถานพยาบาลในประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับระบบคุณภาพตามมาตรฐานบริการสุขภาพสากลและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีภาคีในประเทศไทยอย่างเป็นทาง การ ที่จะช่วยสร้างแรงก้าวกระโดดในการได้รับการรับรอง “มาตรฐาน ดี เอ็น วี จี แอล (DNV.GL)” ได้อย่างรวดเร็ว เหมือนที่ทางบริษัทประสบความสำเร็จในการเตรียมสถานพยาบาลให้การรับรองมาตรฐาน JCI-Joint Commission International-สหรัฐอเมริกามาอย่างมากมายกว่า 30 แห่งในประเทศไทย จนทำให้ประเทศไทยก้าวเป็นเบอร์หนึ่งในภูมิภาคเอชียที่ได้รับรอง JCI สูงสุกถึง 37 แห่ง สำหรับ “มาตรฐาน ดี เอ็น วี จี แอล (DNV.GL)” เป็นมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย ชุดมาตรฐาน สำหรับโรงพยาบาล, ผู้ให้การดูแลปฐมภูมิ, คลินิกผู้ป่วยนอกเฉพาะทางรวมไปถึงมาตรฐานการรับรอง เฉพาะโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมอง และการรับรองโปรแกรมการบริหารความเสี่ยงด้านการควบคุม การติดเชื้อแบบบูรณาการ สำหรับประเทศไทยมีระบบคุณภาพเริ่มต้นมากว่า 20 ปี ดังนั้น การปรับตัวของบุคลากรทางการแพทย์ต่อ “มาตรฐาน ดี เอ็น วี จี แอล (DNV.GL)” จึงไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องปรับตัวแต่อย่างใด ทั้งหมดนี้เพื่อให้เกิดผลดีด้านความปลอดภัยต่อผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น การที่สถานพยาบาลในประเทศไทยได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว ส่งผลต่อเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยโดยรวม ที่จะมีส่วนช่วยผลักดันจุดแข็งนี้แก่ประเทศไทย เมื่อมีการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือ AEC อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศไทยจะเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ที่จะสร้างการเรียนรู้ให้แก่ประเทศต่างๆ และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในระดับนานาชาติต่อไป นพ.สมพร กล่าวสรุป ทั้งนี้ บ.เฮลธ์แคร์ เอ็กซเปิร์ท กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หวังเป็นตัวกลาง (Change Agent) เชื่อมโยงมาตรฐานสากลด้านบริการสุขภาพต่างๆ ทั่วโลก ที่มีประโยชน์ในการสร้างความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการในประเทศไทยกับองค์กรต่างๆ รวมถึงสร้างทางเลือกแก่สถานพยาบาลทั้งในบริการให้คำปรึกษาและแหล่งความรู้ต่างๆ ในภูมิภาคนี้ต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ