สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 15, 2014 09:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,233 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,230 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.19 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,800 บาท กับ 18,900 บาท และกลับมาปิดที่ 18,750 บาท กับ 18,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,102 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,656 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.82% แบบ 10 บาท ลดลง 0.08 % GFV14 ปิด 18,930 บาท และ GFZ14 ปิด 18,950บาท GF10V14 ปิดที่ 18,920 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,990 บาท สัญญา Comex ลดลง 7.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,231.5 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 56 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 92.27 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 788.40 ตัน ข่าวที่สำคัญ -ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำทำสถิติปรับตัวลดลงติดต่อกัน 5 วันทำการ -ขณะที่ตลอดสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวลดลง 2.5% และลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนครึ่งที่บริเวณ 1,227.52 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ รวมถึงตลาดจับตาไปยังการประชุมเฟด ในเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ย -นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า เฟดอาจดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินเพิ่มขึ้น รวมถึงเฟดอาจกล่าวถึงสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการสิ้นสุดมาตรการ QE และการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐฯแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง -นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ ประเมินว่า เฟดอาจประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปี 2015 -นักวิเคราะห์จาก สคอร์เทียโมแคตต้า (ScotiaMocatta) ระบุว่า เส้นค่าเฉลี่ยโมเมนตัมของทองคำ แสดงให้เห็นถึงภาวะขาลงของทองคำอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่าระดับ 1,232 เหรียญลงมา อาจเห็นทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดเดิมบริเวณ 1,180 เหรียญ -นายเควิน กราดี้ ประธานจาก Phoenix Futures and Options กล่าวว่า ทองคำยังอยู่ในภาวะขาลง โดยจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ราคาหลุดระดับ 1,330 เหรียญลงมา ราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยกราฟปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าแนวรับแรกของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,220 เหรียญ และแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 1,200 เหรียญ -นอกจากนี้ ทองคำยังขาดแรงสนับสนุนเนื่องจากปริมาณความต้องการทองคำยังคงเบาบาง หลังจากที่ปริมาณการซื้อในกลุ่มผู้บริโภครายใหญ่ในจีนและอินเดียลดน้อยลง -ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง 9 สัปดาห์ และแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน สู่ระดับ 107.34 เยน/ดอลลาร์ หลังจากยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯออกมาอย่างส่งใส ส่งผลสนับสนุนกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยสู่ระดับ 1.2948 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2925 ดอลลาร์/ยูโร -นาย แสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า เฟดมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบความมีเสถียรภาพทางการเงิน เพื่อส่งเสริมให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะฟองสบู่ของราคาสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้นได้ -สหรัฐฯ ประกาศ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยเน้นไปยังภาคธนาคารขนาดใหญ่ของรัสเซีย 5 แห่ง รวมถึงภาคการผลิต ได้แก่ อาวุธ และของใช้ และภาคพลังงาน เพื่อเป็นบทลงโทษสำหรับกรณีที่รัสเซียแทรกแซงในประเทศยูเครน -ทางด้าน นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า พร้อมระงับการนำเข้าและดำเนินการขั้นต่างๆ เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่จากชาติตะวันตก -สำนักข่าว Bloomberg มีรายงานว่า ในวันนี้ นายจอห์น เคอรี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเข้าพบกับนาย เซอเก้ แลฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย หลังจากที่กลุ่มกบฎสนับสนุนรัสเซียมีการปะทะกับทหารยูเครนในหลายพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนประมาณ 3-5 จุดต่อวัน รวมถึงบริเวณสนามบินของเมือง โดเนสก์ -สำหรับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง สหรัฐฯและนานาประเทศในตะวันออกกลาง ประกาศพร้อมร่วมกวาดล้างกลุ่มกบฏอิสลาม(IS) ด้วยการโจมตีทางอากาศ ซึ่งออสเตรเลียอาจส่งกองกำลังทหารเพื่อสนับสนุนภาคพื้นดิน ขณะที่อังกฤษชะลอการตัดสินใจ หลังจากที่กลุ่ม IS ฆ่าตัดคออาสาสมัครชาวอังกฤษ และมีการข่มขู่จะฆ่าชาวอังกฤษเพิ่มอีก หากอังกฤษยังคงให้การสนับสนุนและร่วมมือกับสหรัฐฯ -อย่างไรก็ดี นายบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศพร้อมให้ความร่วมมือกับอังกฤษและประชาคมโลกเพื่อทำลายกลุ่มก่อการร้ายให้สิ้นซาก -ผลสำรวจของ Bloomberg ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน อาจเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถเติบโตได้ตรงตามเป้าหมาย แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตจะยังคงอยู่ในภาวะซบเซา -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 0.36% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ซึ่งตลาดรอคอยสัญญาณบ่งชี้จากการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า -ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปจับตราไปยังการประชุมเฟด และการลงประชามติของสกอตแลนด์ ในวันที่ 18 ก.ย. ในประเด็นการแยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษ ซึงผลการสำรวจส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการแยกตัว -นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า แนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยจับตาไปยังการประชุมเฟด ซึ่งหากเฟดส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่อง -สนช.เตรียมพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ด้วยวงเงิน 2.5 ล้านบาทในวันที่ 16 ก.ย. นี้ -นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย กล่าวว่า ตลาดยังคงมีความผันผวน จึงแนะนำให้ผู้ที่ถือสถานะ Long สามารถถือต่อได้ เนื่องจากมีโอกาสที่ดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1600 จุด แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้น โดยตลาดจับตาไปยังผลการประชุมของเฟดที่จะเปิดเผยในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่ตลาดยังคงกังวล ได้แก่เรื่องการปรับโครงสร้างภาษี (ภาษีสรรพากร และสรรพสามิต และการลดหย่อยภาษี) ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน - Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.3% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.6% - Import Prices m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -0.9% - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 82.5 ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 84.6 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 14.7 คาดการณ์ออกมาอยู่ที่ระดับ 16.4 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวปรับตัวลดลงต่อเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1,227.52 เหรียญ/ออนซ์ ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้น อันได้แก่ Core Retail Sales, Retail Sales และ Prelim UoM Consumer Sentiment อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนเองกลับอ่อนตัวต่อเนื่องเช้านี้มาอยู่ที่ระดับ 107 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2934 ดอลลาร์/ยูโร โดยยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องที่ระดับ 32.27 บาท/ดอลลาร์ สำหรับ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 788.4 ตัน ขณะที่คืนนี้มีตัวเลขสำคัญได้แก่ Empire State Manufacturing Index ที่คาดว่าภาคการผลิตจะออกมาดีขึ้น วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำเป็นแนวโน้มขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยที่ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงและทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 เดือน โดยที่แนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,200 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับในระยะสั้น ขณะที่แนวต้านลงมาอยู่ที่บริเวณ 1,250 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงใช้กลยุทธ์เล่นตามการแกว่ง โดยเน้นกลยุทธ์ทิศทางขาลง ขายบริเวณกรอบแนวต้านด้านบน 1,240 เหรียญขึ้นไป และปรับตามสภาพตลาด - นักลงทุนที่ถือ Long Position ลดสถานะ และหาจังหวะปิดสถานะ Long Position ออกไป - นักลงทุนที่ถือ Short Position เก็งกำไรในทิศทางขาลง หาจังหวะขายก่อนบริเวณแนวต้าน 1,240 เหรียญขึ้นไป และกลับมาซื้อปิดเมื่อราคาปรับตัวลดลง กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long Position และทำกำไรเป็นช่วงๆในระยะสั้นตามมา ในระยะยาวยังเน้นถือครองสถานะ Short Position ตามทิศทางขาลง โดย MTS Gold ได้เน้นย้ำมาโดยตลอด Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,050 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,100 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 15 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 และวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ