กลุ่มไทยยูเนี่ยน ลงนามสัญญาควบรวมกิจการกับ “คิงออสการ์” แบรนด์มรดกล้ำค่ากว่า 140 ปีของนอร์เวย์

ข่าวทั่วไป Monday September 15, 2014 12:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ประกาศครั้งที่สองของเดือน ถึงการบรรลุข้อตกลงการควบรวมกิจการรวมทรัพย์สินทั้งหมดและเครื่องหมายการค้าของ “คิงออสการ์”โดยสมบูรณ์ แบรนด์อาหารทะเล ติด 10 อันดับแรกของโลก “คิงส์ออสการ์” เป็นแบรนด์ระดับตำนานอายุกว่า 140 ปี กำเนิดในประเทศนอร์เวย์ ภายใต้คิงส์ออสการ์ โฮลดิ้ง เอเอส บริหารงานโดยกองทุน private equity fund Procuritas Capital Investors IV ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์ดิค ข้อตกลงนี้จะบรรลุเสร็จสิ้นตามข้อตกลงการควบรวมกิจการทางธุรกิจซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 นี้ “คิงส์ออสการ์” แบรนด์อันดับหนึ่งในหมวดหมู่ปลาซาร์ดีนระดับพรีเมี่ยมในนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย มียอดรายได้รวมที่ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ที่คิดเป็นอัตราร้อยละ12 เปอร์เซนต์ของยอดขายในปี 2556 “คิงส์ออสการ์” เป็นผู้ผลิตปลาบรรจุกระป๋องชั้นนำในนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา โปแลนด์ เบลเยี่ยม และออสเตรเลีย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 6 เปอร์เซนต์ต่อปีใน 5 ปีล่าสุด สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเบอร์เก็น ประเทศนอร์เวย์ “คิงส์ ออสการ์” มีโรงงานผลิตระดับมาตรฐานโลก 2 แห่ง ในประเทศโปแลนด์ และประเทศนอร์เวย์ มีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 135 ล้านกระป๋องต่อปี พนักงานจำนวนกว่า 500 คน ดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารบรรจุกระป๋องกว่า 90 ล้านกระป๋องต่อปีใน 16 ตลาดทั่วโลก “คิงส์ออสการ์” ยังติด 10 อันดับแรกของ แบรนด์อาหารทะเลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก* นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มทียูเอฟ กล่าวให้ความเห็นว่า “เรากำลังดำเนินการขยายธุรกิจของเรา ซึ่งผมมั่นใจว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายรายได้รวม 8 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในหรือก่อนปี 2563 ข้อตกลงทางธุรกิจนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อรายรับของ ทียูเอฟ โดยรายได้ของทั้งกลุ่มจะเพิ่มขึ้นอีกราว 2 เปอร์เซนต์ แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่ถือเป็นการควบรวมกิจการเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะทำให้กลุ่มทียูเอฟ ได้เข้าถึงตำแหน่งการตลาดในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษนี้ได้ จากการได้รับโอกาสในการสร้างแบรนด์ “คิงส์ออสการ์” ในตลาดโลก และรวมถึงการที่เราได้เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลกอีกด้วย” “หากข้อตกลงดังกล่าวเสร็จสิ้นสมบูรณ์ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของเรายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประมาณ 0.8 ทิศทางการเติบโตสะสมของเราภายใน 6 กลุ่มกลยุทธ์ธุรกิจจะมีความแข็งแกร่งและเป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้นด้วยการมีแบรนด์ระดับโลกเพิ่มขึ้น การควบรวมและซื้อกิจการยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของเราในการขยายตัวทางธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกเหนือไปจากการเติบโตแบบภายในจากยอดขายตามปกติ” “คิงส์ออสการ์” แบรนด์มรดกล้ำค่าของราชวงศ์นอร์เวย์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ใช้พระนามกษัตริย์คิงออสการ์ที่สอง ทั้งพระนามและพระบรมฉายาลักษณ์บนผลิตภัณฑ์ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์คิงออสการ์จะช่วยยกระดับหมวดหมู่ซาร์ดีนในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของทียูเอฟ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์คิงออสการ์ ยังรวบรวมเรื่องราวไม่เพียงแต่คุณภาพของวัตถุดิบ แต่ยังรวมถึงการคัดสรรแหล่งที่มาของสุดยอดวัตถุดิบจากฟยอร์ดในนอร์เวย์ (อ่าวแคบที่อยู่ในระหว่างหน้าผาโดยเฉพาะในประเทศนอร์เวย์) จากเขตทะเลเหนือและทะเลบอลติค รวมถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มาจากรากฐานการสนับสนุนโดยกษัตริย์ออสการ์ “เราไม่เพียงแต่ดำเนินการควบรวมทรัพย์สินทั้งหมด แต่เราได้รับมอบมรดกอันล้ำค่าที่สุด ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทียูเอฟ ได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ระดับตำนาน ซึ่งแบรนด์ที่มีสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์และทรงคุณค่าซึ่งไม่สามารถหาได้ง่ายๆ ผมมีความปลาบปลื้มที่ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนานในผลิตภัณฑ์และการตลาดของคิงออสการ์ ได้บรรลุข้อตกลงที่เข้ารวมกิจการกับกลุ่มไทยยูเนี่ยน เพื่อร่วมกันพัฒนาแบรนด์ธุรกิจที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเราให้ก้าวสู่รุ่นต่อๆ ไป” ตามที่ได้กล่าวมา ทียูเอฟ กำลังยกระดับความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารทะเลสู่ระดับสากลด้วยการเข้าซื้อกิจการคิงออสการ์ หนึ่งในแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเครื่องหมายการค้าระดับพรีเมี่ยมอย่างคิงออสการ์ จะช่วยเติมเต็มความเป็นผู้นำแบรนด์ระดับโลกของทียูเอฟ ได้อย่างลงตัว แบรนด์ระดับโลกดังกล่าวได้แก่ จอห์นเวสต์ พาร์เมนเทียร์ พีทินาเวียร์ มารีบลู ชิคเก้นออฟเดอะซี และซีเล็ค และที่สำคัญคือการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจนี้จะสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นให้แบรนด์ปัจจุบันของทียูเอฟ ในดินแดนสแกนดิเนเวีย รวมไปถึงการมีสายการผลิตอันทันสมัยเพิ่มขึ้นอีกในประเทศโปแลนด์ “ถือเป็นยิ่งกว่าปรากฏการณ์อย่างไม่มีข้อสงสัย แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและการประสบความสำเร็จในอดีตอย่างคิงออสการ์ บวกกับการขยายตัวทางภูมิศาสตร์ของแบรนด์ที่ทรงคุณค่า ทั้งสององค์กรต่างยึดถือค่านิยมที่เหมือนกัน ทียูเอฟ ให้คำมั่นในการดำเนินการตามค่านิยมแนวทางเดียวกันกับคิงออสการ์ ในการคัดสรรวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ หลักปฏิบัติทางธุรกิจที่เป็นธรรมและยั่งยืน รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม” นายธีรพงศ์ กล่าวสรุป มร. เกอร์ อาร์เน่ แอสเนส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคิงออสการ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า สายการผลิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ โครงสร้างการจัดการระดับสากล และความเชี่ยวชาญการผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋องระดับสูง เรากำลังเดินหน้าเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน เรามีวิสัยทัศน์เดียวกันกับทียูเอฟ นั่นคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางนวัตกรรม และคุณภาพระดับพรีเมี่ยม การเข้าร่วมกับทียูเอฟ คือก้าวเพื่อการเติบโตของแบรนด์คิงออสการ์ไปทั่วโลกอย่างแท้จริง” “การควบรวมกิจการจึงเป็นแนวทางที่ชัดเจนของเราที่จะบรรลุเป้าหมายการตลาดในการขยายแบรนด์ และเพื่อร่วมกันต่อยอดความแข็งแกร่งให้ทียูเอฟ ความเชี่ยวชาญของเราในการผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋องจะยังประโยชน์ในการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จในระดับโลกต่อไป เรามีฐานลูกค้าที่ภักดีและเหนียวแน่นต่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลระดับพรีเมี่ยม ขณะนี้เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอาหารทะเลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว จุดแข็งของแบรนด์และความยอดเยี่ยมในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์จะทำให้เรานำเสนอนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องแก่ผู้บริโภคปัจจุบันและรายใหม่ต่อไป” *ตามรายงานการศึกษาโดย Trade Publication Seafood Executive ประจำปี 2555

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ