The Maze Runner เข้าฉาย 18 ก.ย. 57

ข่าวบันเทิง Tuesday September 16, 2014 08:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--MMM Digital Asset กฎสำหรับนักวิ่ง ห้ามหยุดวิ่ง ตื่นตัวตลอด ห้ามหมดหวัง โธมัสตื่นขึ้นมาในลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบนช้าๆ เมื่อกรงขนส่งหยุดและประตูเปิดออก เขาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางกลุ่มชายฉกรรจ์ที่รอต้อนรับเขาสู่ทุ่ง พื้นที่เปิดกว้างขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมไปด้วยกำแพงคอนกรีตขนาดมหึมา ในสมองของโธมัสมีแต่ความว่างเปล่า เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด และจำพ่อแม่ เรื่องราวในอดีต หรือแม้แต่ชื่อของตัวเองไม่ได้ด้วย โธมัสกับเพื่อน “ชาวทุ่ง” ของเขาไม่รู้ว่าทำไมหรือเพราะอะไรพวกเขาถึงมาอยู่ที่ทุ่งได้ พวกเขารู้แต่เพียงในทุกๆ เช้าประตูคอนกรีตขนาดยักษ์ที่พาไปสู่เขาวงกตจะเปิดออก ทุกคืนเมื่อตะวันตกดินประตูจะปิดตัวลง และทุก 30 วันจะมีเด็กผู้ชายหน้าใหม่อยู่ในลิฟต์ ลักษณะของเขาวงกตที่พอจับทางได้ทำให้โธมัสเริ่มมีความหวัง แต่ที่คาดไม่ถึงคือกล่องโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในช่วงไม่ถึง 1 อาทิตย์ต่อมา ซึ่งนั่นเป็นการมาเยือนของ เทเรซ่า ผู้หญิงคนแรกที่ได้มาเหยียบทุ่ง โธมัสได้เรียนรู้ว่าผู้อาศัยที่ทุ่งแต่ละรายจะต้องมีหน้าที่ ตั้งแต่การจัดสวน ก่อสร้าง เป็นหนึ่งในสุดยอดนักวิ่งที่ทำแผนที่กำแพงของเขาวงกตเพื่อกันพวกเขาหนี และเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขาวงกตทุกคน Maze Runners แข่งกับเวลาเพื่อการครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ให้ได้มากที่สุดก่อนจะสิ้นสุดวันนั้น เมื่อเขาวงกตปิดตัวลงและโศกาจักรกลชีวภาพที่น่ากลัวจะเดินเร่ตามทางเดินของสิ่งก่อสร้างคอนกรีต แม้จะเป็นสมาชิกหน้าใหม่หรือ “กรีนนี่” โธมัสไม่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับเรื่องทุ่งและเขาวงกตเลย มันน่าจะมีบางอย่างที่ล้างความทรงจำของเขาไป และมันน่าจะเป็นกุญแจในการไขปริศนาเขาวงกตและน่าจะเกินขอบเขตโลกของเราด้วยซ้ำก็เป็นได้ THE MAZE RUNNER สร้างอิงจากหนังสือชุดที่ขายดีเล่มแรกของเจมส์ แดชเนอร์ ตีพิมพ์เมื่อเดือนตุลาคม 2009 นิยายเรื่องนี้ได้ขึ้นเป็น New York Times Best Seller เรื่องหนึ่ง และได้ครองจินตนาการของผู้อ่านจากทั่วโลกที่บรรยายว่าหนังสือมีส่วนผสมของเรื่อง Lord of the Flies, The Hunger Games และทีวีซีรี่ส์แห่งตำนานเรื่อง Lost แดชเนอร์เข้าใจถึงการเปรียบเทียบถึงเรื่องเหล่านั้นดี โดยเฉพาะกับเรื่อง Lord of the Flies แต่เขาเล่าว่าประเด็นของเรื่อง THE MAZE RUNNER เป็นเรื่องราวที่ต่างออกไป “ผมไม่คิดว่าตัวละครจะมีปฏิกิริยาในทิศทางแบบเดียวกับในเรื่อง Lord of the Flies นะ” เขาอธิบายว่า “ผมว่าพวกเขามีการพัฒนามากกว่า รู้จักคำสั่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะต้องรอดชีวิตและหลบหนีให้ได้ ผลงานเรื่อง THE MAZE RUNNER เป็นเรื่องราวการผจญภัยที่เกี่ยวข้องกับความหวังและความมุ่งมั่นของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ในตัว” หนังสือได้รับความสนใจจากผู้สร้างฯ อัลเลน โกลด์สมิธ-เวียน และ ลี สตอลแมน จากบริษัทด้านการบริหาร/ผลิต The Gotham Group “เราเห็นนิยายสำหรับเด็กโตมาแล้วหลายเรื่อง” สตอลแมนอธิบายว่า “และเราคอยมองหาเรื่องราวที่มีการก่อสร้างโลกขนาดใหญ่พร้อมตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเสมอ รวมถึงบางสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน” ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พบจากหนังสือของแดชเนอร์ สำหรับการดัดแปลงนิยายสู่ภาพยนตร์ให้ดูน่าเชื่อถือ สตูดิโอได้ขอความช่วยเหลือจาก Temple Hill Entertainment ผู้อำนวยการสร้างฯ ไวแอ็ค กอดฟรีย์ ผู้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากภาพยนตร์ซีรี่ส์ เรื่อง Twilight กอดฟรีย์ยกเครดิตให้ไวแอ็ตต์ลูกชายของเขากับฮัดสันสำหรับการทำให้เขารู้จักหนังสือชุดเรื่อง Maze Runner “ผมตอบตกลงทันทีที่ 20th Century Fox เข้ามายื่นโอกาสให้ผม เพราะในที่สุดลูกๆ ผมจะต้องแฮปปี้ที่ผมสร้างหนังที่เหมาะกับพวกเขา” เขากล่าว สำหรับการถ่ายทอดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีการคาดหวังสูงเรื่อง The Maze Runner ของแฟนๆ กองถ่ายได้ขอความช่วยเหลือจากผู้กำกับมือใหม่ของภาพยนตร์ เวส บอล ก่อนหน้านี้บอลเคยมีผลงานการกำกับเรื่องเดียวเป็นหนังสั้น 7 นาทีที่เป็นแอนิเมชั่น CGI เรื่อง Ruin และเป็นที่ประทับใจบนโลกออนไลน์ บอลเล่าว่า “ผมมีบริษัทผลิตวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์เล็กๆ และหลังจากที่สร้างผลงานให้คนอื่นมาหลายปี ผมตัดสินใจว่าอยากทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ผมยกเลิกเรื่องอื่นและสร้างเรื่อง Ruin ขึ้นมา ผมเผยแพร่บนโลกออนไลน์และมันก็ดังลามไปบน Twitter” ภาพยนตร์ภาษาภาพที่แข็งแรงแต่ประหยัดงบประมาณ ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองที่เต็มไปด้วยไม้เถาวัลย์ ผลงานเรื่อง Ruin ถูกจินตนาการขึ้นมาให้เป็นฉากเปิดตัวของภาพยนตร์ที่บอลหวังว่าจะได้พัฒนา หลังจากที่ได้ดูหนังสั้นแล้ว ทีมงงานฝ่ายพัฒนาของ Fox รู้เลยว่าบอลเป็นคนที่มีจินตนาการและอยากคิดภาพที่จะนำ THE MAZE RUNNER สู่จอยักษ์แน่นอน เมื่อสตูดิโอได้แนะนำให้เขาอ่านเรื่อง The Maze Runner บอลรู้เลยว่านี่อาจจะเป็นโปรเจ็กต์เรื่องต่อไปของเขา “ผมเห็นภาพชัดเจนมากว่าเกิดอะไรขึ้นในทุ่ง ผมเห็นภาพการทารุณ ความกระสับกระส่าย ความน่าทึ่ง และบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงคอนกรีตขนาดยักษ์ ผมรู้ว่านั่นเป็นโลกที่ผมอยากเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า” และบอลยังสนใจตัวละครโธมัสซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องอีกด้วย “โธมัสเป็นคนที่คิดก้าวไปข้างหน้าสู่สิ่งที่ไม่รู้ ขณะที่คนอื่นๆ เลือกเดินถอยหลัง” ผู้กำกับฯ หนุ่มเล่าว่า “มันเป็นไอเดียที่บอกว่าคุณต้องกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้ถ้าอยากจะค้นพบตัวเอง โธมัสเป็นคนอยากรู้อยากเห็น และบางคนในทุ่งมีความคิดว่ามันเป็นภัย แต่นั่นอาจพาเขาออกไปจากที่นั่นได้ “นอกจากนั้นแล้วผมยังรักหนังที่เกี่ยวกับการสร้างโลกขึ้นมา ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็มีการสร้างโลกจากเบื้องบนสู่เบื้องล่าง เราเริ่มจากในทุ่งที่หนุ่มๆ สร้างขึ้นมา จากนั้นก็เป็นนอกกำแพง เราเข้าไปในโลกแห่งเขาวงกตขนาดมหึมา และนั่นเป็นบทที่ต่างกันไปคนละขั้วเลย” บอลและกอดฟรีย์เริ่มนำองค์ประกอบต่างๆ ของโปรเจ็กต์มารวมตัวกัน กอดฟรีย์จำได้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมทึ่งคือตอนที่ผมนั่งอยู่กับเวส บอลเป็นครั้งแรก คือคอนเซ็ปต์ของเขาเกี่ยวกับเขาวงกตเหนือกว่าทุกสิ่งที่ผมคาดเอาไว้เลย” เรื่องต่อมาคือทีมนักแสดงที่จะมารับบทชาวทุ่ง ผู้สร้างสังคมที่มีคุณประโยชน์อย่างสูง พวกเขาต้องรับผิดชอบหน้าที่ในแต่ละวัน เฝ้าระวังหลังให้กัน และรวมพลังต่อสู้เมื่อพวกเขาพยายามแก้ปริศนาเขาวงกต กอดฟรีย์เล่าว่า “การคัดเลือกนักแสดงเป็นเรื่องหนึ่งที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับโปรเจ็กต์ นักแสดงต้องเชื่อในโลกใบนี้จริงๆ และเราต้องออกไปหาตัวพวกเขาไกลแสนไกล” นักแสดงนำคือดีแลน โอ’เบรียน ผู้รับบทโธมัสที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยถูกโน้มน้าวว่าเขาวงกตมีทางออก เขาเป็นที่คุ้นหน้าของแฟนๆ ซีรี่ส์ MTV เรื่อง Teen Wolf กอดฟรีย์เรียกโอ’เบรียนว่า “มีคุณสมบัติของการเป็นคนธรรมดาที่ดี ดีแลนดูเข้าถึงง่ายทำให้นึกถึงทอม แฮงค์สตอนเป็นหนุ่ม เขาไม่ดูมีเสน่ห์โดดเด่นหรือดูเป็นนักกีฬาที่เก่ง ดีแลนรับมือกับการแสดงของตัวละครที่ต้องใช้สมรรถภาพทางกายได้” โอ’เบรียนเล่าว่าถึงแม้จะมีความน่ากลัวและสับสนเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมตอนที่โธมัสไปถึงทุ่ง ประสบการณ์การจะนำสิ่งที่ดีออกมาจากตัวละคร “จนกระทั่งช่วงเวลาที่เขารู้สึกตัวขึ้นมาในลิฟต์ที่ทุ่ง เขาต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ” นักแสดงกล่าว “การถูกโยนไปอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ภายใต้บรรยากาศเหล่านั้น มันทำให้เขาเริ่มใช้สัญชาตญาณและความกล้าที่อยู่ในตัวเขาตลอดเวลา เขาไม่ยอมปล่อยให้ความกลัวในโลกลึกลับใบใหม่นี้มาขัดขวางความสงสัยของเขาได้ มันทำอะไรเขาไม่ได้แน่” โธมัสเริ่มเข้าใจว่าเขาคือหนึ่งในอีกหลายคนที่อยู่ในลิฟต์เดือนละหน ตลอดช่วงเวลา 3 ปี ผู้นำของชาวทุ่งคืออัลบี้ ซึ่งเป็นตัวละครที่คล้ายคนเป็นพ่อมาก “อัลบี้เป็นคนสำคัญเลยครับ” บอลกล่าว “เขาเป็นชาวทุ่งคนแรก เป็นผู้ชายคนแรกที่ถูกลิฟต์ส่งตัวขึ้นไป และต้องเอาตัวรอดเพียงลำพังตลอดทั้งเดือน โดยที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใคร จากนั้นก็มีมนุษย์อีกคนถูกส่งตัวขึ้นมา อัลบี้เริ่มเข้าใจกฏระเบียบข้อบังคับที่มีความสำคัญต่อการเอาตัวรอดในโลกใบนี้ เขามีความระมัดระวังมาก” อามิล อามีน ถูกคัดเลือกให้มารับบทอัลบี้ จอมเผด็จการ ก่อนหน้านี้เขาแสดงในเรื่อง Lee Daniels’ The Butler อามิลถือเป็น “นักแสดงหน้าใหม่ยอดฝีมือ” อย่างที่กอดฟรีย์เล่าว่า “เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนเดนเซล วอชิงตันตอนหนุ่ม” อามีนต้องแสดงการเป็นผู้นำและผู้ปกครองออกมาในตัวละคร “อัลบี้ได้สร้างหลักการและกฏเกณฑ์ขึ้นมาสำหรับหนุ่มๆ เพื่อเป็นแนวทางใช้ชีวิต” เขาอธิบายว่า “พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน อัลบี้คิดว่าพวกเขาถูกส่งไปที่เขาวงกตเพื่อเหตุผลบางอย่าง แต่ที่สำคัญสุดคือพวเขาต้องเกาะกลุ่มกันไว้ ชาวทุ่งเปรียบเสมือนครอบครัวหนึ่ง ฉะนั้นอัลบี้จึงมีทั้งความอ่อนโยน ความซับซ้อน แบบที่นักแสดงชอบ” ศัตรูในทุ่งของโธมัสคือแกลลี่ เขามีทั้งความฉลาดและน่ากลัวอยู่ในตัว แกลลี่อยากรักษาตำแหน่งและสถานภาพและคอยหาเรื่องพวกที่มาใหม่ “แต่แกลลี่กับโธมัสก็เหมือนเหรียญสองด้าน” บอลกล่าว “โธมัสพร้อมปรับตัวและรับมือกับความลึกลับ ส่วนแกลลี่จะคอยป้องกันตัวเอง ทำให้ทุกอย่างพ้นขีดอันตรายและเป็นปกติ” วิล โพลเตอร์มารับบทแกลลี่ เขาเคยแสดงในหนังคัลท์เรื่อง Son of Rambow และเมื่อไม่นานนี้แสดงความสามารถด้านการแสดงตลกไว้ในเรื่อง We’re the Millers กอดฟรีย์เล่าว่า “วิลเหมาะกับบทแกลลี่เพราะเราจะไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเขา และเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ชาญฉลาด” ความมั่นใจและจุดยืนในตำแหน่ง status quo ของแกลลี่ก็ยังมีข้อดีอยู่ โพลเตอร์เล่าว่า “เขาไม่ใช่ผู้รักษากฏที่เคร่งครัดเกินไป เขาเป็นคนหนึ่งที่มีศรัทธาในกฏระเบียบมาก เพราะถ้าไม่มีกฏระเบียบ ชาวทุ่งก็ต้องตายแน่นอน” เขาอธิบาย “แกลลี่จึงเอ่ยปากท้าโธมัสทันทีเวลาที่ไม่เคารพกฏเหล่านั้น เพราะสำหรับเขาแล้วกฏระเบียบเหล่านั้นคือชีวิตจริง” ผู้แต่งนิยาย แดชเนอร์ ปฏิเสธในไอเดีลที่ว่าแกลลี่คือตัวร้าย “ผมอยากสร้างให้เขาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของโธมัส และอยากให้ผู้อ่านเห็นใจเขา เข้าใจในความเชื่อมั่นและการกระทำของเขาด้วย” เขากล่าว ตัวแทนของอัลบี้คือ นิวต์ รับบทโดยโธมัส โบรดี้-แซงสเตอร์ เขาเคยแสดงในซีรี่ส์ยอดนิยมของ HBO เรื่อง Game of Thrones และเป็นที่จับตาครั้งแรกจากการแสดงในเรื่อง Love, Actually สำหรับนิวต์ กอดฟรีย์เล่าว่า “เขาเหมือนกับรองผู้การ แต่ไม่พร้อมจะรับภารกิจอย่างเต็มตัวนัก โธมัสมีคุณสมบัติที่ผมจำได้จากนิวต์ในหนังสือว่า… เขาค่อนข้างเหมือนอันธพา” “นิวต์เป็นสมาชิกคนที่ 2 ของทุ่ง” บอลกล่าว “ถ้าไม่มีอัลบี้ นิวต์จะรับบทผู้คุม แต่เขาไม่พร้อมความท้าทายมันเลยเกิดการท้าทายอำนาจกับแกลลี่ที่เลือกทำทุกอย่างตามใจตัวเอง” นิวต์ต้องเดินกระเผลก ซึ่งไม่มีอธิบายเหตุผลไว้อย่างชัดเจน เพราะนั่นอาจเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากพูดถึง แต่โบรดี้-แซงสเตอร์พูดถึงตัวละครว่า “เขาเป็นคนสร้างความสนุกสนานให้กลุ่ม เป็นคนที่เข้ากับทุกคนได้ เวลาชาวทุ่งมีปัญหาจะเข้ามาหานิวต์ เพราะเขาเป็นคนที่ทุกคนชอบและไว้ใจ” นักแสดงหญิงชาวอังกฤษคาย่า สโคดลาริโอ รับบท เทเรซ่า หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มชาวทุ่ง เธอมีความผูกพันกับโธมัสอย่างน่าประหลาด เธอมีชื่อเสียงจากทีวีซีรี่ส์อังกฤษเรื่อง Skins สโคดลาริโอสร้างความประทับใจให้ผู้สร้างหนังจากการเป็น “สาวเดียวท่ามกลางหนุ่มๆ” อย่างที่กอดฟรีย์กำหนดบทให้ “เธอมีความแสบในตัว ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เราต้องมีเมื่อถูกผลักดันให้เข้าไปอยู่ในโลกของทุ่งท่ามกลางบรรดาชายหนุ่ม” “เทเรซ่ามีความแกร่งเหมือนผู้ชาย” สโคดลาริโอยืนยัน “เธอรักอิสระ มีความสดใส แข็งแกร่ง และไม่มีใครกล้ายุ่งวุ่นวายกับเธอ” ยิ่งไปกว่านั้นบอลเปิดเผยว่า “เธอมีความลับลับพอๆ กับทุ่งและเขาวงกต เมื่อเธอปรากฏตัวขึ้นมาในลิฟต์ ทุกอย่างกลับมีแต่ความเลวร้าย” ในบรรดาชาวทุ่งจะมีคนที่ถูกเรียกว่าเป็นนักวิ่ง ซึ่งความสามารถด้านกีฬาได้ผลักดันพวกเขาให้ผ่านเขาวงกตไปได้ในแต่ละวัน มีหน้าที่ช่วยรวบรวมแผนที่โครงสร้างทำนายความเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น และนึกภาพเส้นทางการหลบหนี หัวหน้าของพวกเขาคือ มินโฮ รับบทโดยไค ฮอง ลี นักแสดงหนุ่มเริ่มเข้าใจในบทบาทของการเป็นผู้นำชาวทุ่งในแบบที่ไม่เหมือนใคร “ผมสังเกตจากการเดินเรือและกองทัพ ผมวิเคราะห์ดูแล้วว่ามินโฮเหมือนกับแม่ทัพของชาวทุ่ง ลีอธิบาย “มันเป็นหน้าที่ของเขาในการรวมพล” ชาวทุ่งที่อายุน้อยสุดคือชัค เขาเป็นเด็กที่น่ารัก ซื่อสัตย์ ยึดถือโธมัสเป็นแบบอย่างและทำหน้าที่เป็น Slopper – ชาวทุ่งที่รับผิดชอบอะไรไม่ได้ดีสักอย่าง “เขาเป็นเด็กที่มีความน่ารักครับ เป็นตัวละครที่เหมือนกับน้องคนเล็ก” บิลกล่าว “เขาต้องต่อสู้อย่างหนัก ไม่มีใครคาดหวังในตัวเขามากนัก แม้ว่าเขาจะผ่านช่วงเวลาที่แสดงการเป็นฮีโร่มาแล้วก็ตาม” มิตรภาพระหว่างชัคกับโธมัสทำให้ในหนังมีความสนุกสนานและความประทับใจหลายฉาก “พวกเขาเป็นมากกว่าเพื่อนกัน” เบลค คูเปอร์ ผู้รับบทเล่าว่า “โธมัสเหมือนกับพี่ชายคนโตและที่ปรึกษาของชัค พวกเขาจะคอยเฝ้าระวังให้กัน” ในโลกปัจจุบันนี้ การคัดสรรตัวแสดงที่คลาสสิคในโลกที่ผลักดันโดยยุคดิจิตอล คูเปอร์ได้เรียกความสนใจจากผู้แต่งฯ แดชเนอร์และผู้กำกับฯ เวส บอลจนถามเขาเผื่อเขาจะมาออดิชั่นในบทชัคได้ ตอนที่ผู้สร้างฯ เห็นเทปการออดิชั่นของคูเปอร์ คำตอบล้วนเป็นเอกฉันท์ว่า: เขานี่แหละชัค สำหรับการรับบทตัวละครสำหรับที่มีความลึกลับ อีวา เพจ หัวหน้าโปรแกรมการทดลอง WCKD ซึ่งเกี่ยวกับชาวทุ่งที่พบความน่าตะลึง ผู้สร้างฯ ได้คัดเลือกแพทริเซีย คลาร์กสัน นักแสดงชื่อดังที่เคยแสดงหนังหลายเรื่องตั้งแต่ผลงานระทึกขวัญของมาร์ติน สกอร์เซซี่ เรื่อง Shutter Island ไปจนถึงคอมเมดี้สุดเฉียบสำหรับวัยรุ่น Easy A และได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Film Critics สำหรับเรื่อง The Station Agent อีวาและ WCKD เป็นองค์กรลับที่การกระทำสะท้อนถึงประเด็นสำคัญของเรื่อง เช่น “อะไรคือความดี อะไรคือความชั่วร้าย และมนุษย์จะทำยังไงเมื่อเผชิญกับความสิ้นหวัง” แดชเนอร์กล่าว “ฉะนั้น WCKD มีเจตนาใช้ชื่อนี้เพื่อนำให้คุณคิดบางสิ่ง แต่ในที่สุดมันเป็นเรื่องที่มีความขุ่นมัว” รายละเอียดการถ่ายทำ ตั้งแต่กำแพงเขาวงกตที่สูงนับร้อยฟุตไปจนถึงเถาวัลย์ที่ขึ้นปกคลุมทั่ว ภาพลักษณ์ของแคมป์ชาวทุ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือ ผู้ออกแบบฉากของ THE MAZE RUNNER ได้สร้างสีสันให้กับเรื่อง ทั้งทุ่งและเขาวงกตถูกสร้างขึ้นมาบนสถานที่จริงและอาศัยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์มาช่วยยกระดับภาพถูกจินตนาการขึ้นมาโดยบอลและผู้ออกแบบฉาก มาร์ค ฟิซิเชลล่า ความยิ่งใหญ่ของกำแพงเขาวงกตทั้งมีความทันสมัยและดูเก่าแก่ เถาวัลย์ที่เลื้อยขึ้นสูงเกาะโครงสร้าง และทางเดินที่ว่างเปล่าเป็นลางที่สื่อถึงความน่ากลัว ซึ่งมันยิ่งสร้างความน่ากลัวมากขึ้นให้กับชาวทุ่งที่ผ่านประสบการณ์มามากแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในนั้นเด็กๆ เรียกกันว่าโศกา ไม่มีใครเคยเห็นตัวตนจริงๆ เขาจะฆ่าผู้ที่อยู่ในเขาวงกตนานเกินไป ซึ่งนี่หมายความว่าหนุ่มๆ ต้องออกจากเขาวงกตก่อนที่กำแพงจะปิดตัวลง เพราะไม่มีใครเอาชีวิตรอดในนั้นข้ามคืนได้ ฟิซิเชลล่ามีการพูดคุยถึงเรื่องการออกแบบและการสร้างฉากเขาวงกตจริงขึ้นมา “ในหนังเรามีเขาวงกตจำนวนมาก และแน่นอนเรามีข้อจำกัดว่าเราสามารถสร้างของจริงขึ้นมากแค่ไหน ผมเกิดไอเดียของการประกอบคอนเซ็ปต์ขึ้นมา เราสามารถจัดมันเรียงใหม่ได้และสร้างเป็นทางเดินยาวในตึกที่ตอบสนองการวางลำดับของพล็อตเรื่อง พร้อมด้วยทุ่งหญ้าและเถาวัลย์ในแต่ะชั้นและองค์ประกอบอื่นที่เราสามารถปรับโฉมมันได้มากพอ ฉะนั้นเราก็นำมาใช้เป็นส่วนต่างๆ ในเขาวงกตได้” เขาเล่าต่อว่า “เราสร้างกำแพงเขาวงกตสูง 16 ฟุตขึ้นมา เพราะเรามีข้อจำกัดเรื่องความสูงที่เราจะสร้างขึ้นได้ในโรงถ่าย และเผื่อพื้นที่ให้มากพอสำหรับแสงจากด้านบน วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์จะช่วยยืดขนาดให้ยาวถึง 100 ฟุต” หนึ่งในภารกิจด้านงานช่างที่สำคัญของแผนกศิลป์คือการสร้างประตูจริงของเขาวงกตขึ้นมาชุดหนึ่ง “ประตูแต่ละบานจะมีความลึกขนาด 20 ฟุต สูงขนาด 20 ฟุต เปิดออกมามีขนาด 20 ฟุต” ฟิซิเชลล่ากล่าว “พวกมันเป็นประตูกล ต้องเปิดและปิดได้จริง และเราต้องให้นักแสดงวิ่งผ่านประตูได้ ซ่งจะทำให้หนังมีชีวิตชีวามากกว่าถ่ายทำหน้าบลูสกรีน” ประตูแต่ละบานมีน้ำหนัก 7 พันปอนด์ เคลื่อนย้ายโดยทีมงานวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ในฉาก “เป็นการติดตั้งที่มีความท้าทายพอตัว เพราะเราต้องทำงานกันบนทุ่งหญ้าที่ห่างจากฐานตั้งมั่นของเรา” เขากล่าว ฟิซิเชลล่ามีวิธีการปรับโฉม เพื่อทำให้กระท่อมของชาวทุ่งแต่ละหลังดูสมจริงและมีเอกลักษณ์ตามตัวละครแต่ละตัว “สิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคืออยากให้กระท่อมแต่ละหลังดูเหมือนถูกออกแบบและได้จินตนาการมาจากแต่ละคน ผมอยากให้กระท่อมแต่ละหลังมีรายละเอียดเป็นการส่วนตัว แลยมีทีมงานมาช่วยสร้างกระท่อมแบบต่างๆ ขึ้นมา” ทีมงานของเขาฉลาดด้านการใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการสร้างจำนวนมาก เพื่อใช้สอยอย่างสะดวก “เราต้องเก้บทุกอย่างที่เราสร้างขึ้นมาโดยสิทธิอันชอบธรรมบนพื้นที่นั้น เหมือนกับเรามีทุ่งเก็บอุปกรณ์ที่สวนหลังบ้านของเรา ซึ่งมันช่วยย่นระยะเวลาให้เราได้มาก ทุกครั้งที่เราต้องการชิ้นส่วนอื่น เราก็แค่วิ่งเข้าไปในป่าเพื่อเอามันมา” ในเรื่องห้องแผนที่คือสถานที่ที่นักวิ่งจะใช้ความรู้ทั้งหมดที่พวกเขามีเกี่ยวกับเขาวงกต แบ่งจากการเสาะแสวงหาความเสี่ยงในประจำวัน “ผมรู้สึกว่าห้องแผนที่ควรมีความมิดชิด ไม่ได้เห็นง่ายๆ ตามทุ่ง เราจึงเลือกให้อยู่ในกลางป่าลึก ซึ่งมันมีความงดงามและมีต้นไม้ปกคลุม” ฟิซิเชลล่ากล่าว “มันดูลึกลับดีเวาที่เรามีกบอาศัยอยู่ในนั้นด้วย เราเลือกถ่ายทำจริง [บนสถานที่ในหลุยส์เซียน่า] ทั้งด้านในและด้านนอก ฉะนั้นเราจะได้แสงรำไรผ่านร่องไม้ และเห็นใบไม้อันเขียวชอุ่มผ่านกำแพงได้” บางครั้งแรงบันดาลใจทางงานศิลป์ก็ช่วยยกระดับเนื้อเรื่องต้นฉบับได้ ฟิซิเชลล่าอธิบายว่า “สิ่งสำคัญในห้องแผนที่คือโต๊ะแผนที่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบในหนังอย่างหนึ่งที่ผมชื่นชอบ นักวิ่งต้องเข้าไปในเขาวงกตและออกมาพร้อมกับข้อความที่พวกเขาบันทึกและแผนที่ที่วาดกับมือ ซึ่งมันจะวางรวมกันอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ และเมื่อพวกเขาเอามารวมกันเราจะเริ่มเห็นโครงสร้างของเขาวงกต ผมว่านี่เป็นโอกาสดีที่ผู้ชมจะได้เห็นขอบเขตของเขาวงกตในรูปแบบ 3 มิติ ผมคิดว่า ‘มันจะไม่ดีกว่าหรอถ้าให้ชาวทุ่งได้สร้างโมเดลเขาวงกตจากก้านไม้ กิ่งไม้ และนั่นเป็นวิธีที่พวกเขาใช้บันทึกมันหรอ?’ จนเราลงเอยด้วยโต๊ะสวยที่มีความสูง 8 ฟุต ซึ่งจำลองเขาวงกตอย่างละเอียด พร้อมด้วยกิ่งไม้ขนาด 2 นิ้วครึ่ง และมีการจำลองทุ่งขนาดจิ๋วที่อยู่แกนกลางของเขาวงกต มันดูเก่าแก่มากแต่ก็เป็นงานศิลป์ที่มีความงดงาม และเมื่อนำกลับไปเทียบแล้วเราจะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วเขาวงกตมีขนาดใหญ่แค่ไหน” สำหรับโศกาที่ดูคล้ายกับอสูรกาย ซึ่งคอยดูแลตามทางยาวของเขาวงกตที่ไม่มีสิ้นสุด กอดฟรีย์ให้คำว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ยากจะลืมและน่ากลัว “สิ่งที่เราทุกคนรักในตัวโศกาคือพวกเขาเป็นจักรกลชีวภาพ มันมีชีวิตที่นักวิทยาศาสตร์ได้ติตตั้งอุปกรณ์ที่เป็นอันตรายลงไป เช่น ขาโลหะและเหล็กใน มันน่ากลัวมากครับ” โลเคชั่นของป่าทึบที่ใช้เป็นทุ่งและใช้เป็นสถานที่ในการเริ่มถ่ายทำ คือฟาร์มแห่งหนึ่งในเซนต์ ฟรานซิสวิลล์ รัฐหลุยส์เซียน่า ห่างจาก Baton Rouge 1 ชั่วโมง ความเขียวชอุ่มในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลได้สร้างอุปสรรคให้ผู้สร้างฯ และทีมนักแสดง สตอลแมนเล่าถึงอุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งว่า “ที่นั่นมีงูพิษหลายชนิด แมลง ยุง แมลงดูดเลือด อุณหภูมิสูง ความชื้นสูง โคลน ฝน… เป็นสถานที่ที่คล้ายกับการแผ่บาปทั้ง 7 ในสถานที่เดียวกัน” (เรื่องงูไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผู้ต้อนงูของกองถ่ายต้องวุ่นวายกับการกำจัดงูน้ำคอททอนมัตส์ที่มีพิษหลายตัว งูต้นไม้ และงูพิษในฉากตลอดช่วงถ่ายทำที่นั่น 3 สัปดาห์ ทีมงานและนักแสดงพยายามเลี่ยงแมลงกัดต่อยมีพิษและงูทุกชนิด หลังจากที่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงแรมสัตว์เลื้อยคลาน พวกมันก็ถูกปล่อยออกมาเมื่อปิดกล้องการถ่ายทำอย่างปลอดภัย) ก่อนจะเริ่มเปิดกล้อง บอลได้ให้นักแสดงหนุ่มฝึกวิธีการเอาตัวรอด และตั้งแคมป์ทั้งคืนด้วยความตื่นเต้นจากพายุที่มาเซอร์ไพรส์จนยากจะลืม พร้อมกับฟ้าร้องและฟ้าแลบอย่างครบสูตร กอดฟรีย์คิดว่าประสบการณ์กลางป่าครั้งนี้ “จะสร้างความสนิทระหว่างนักแสดงขึ้นมาและสะท้อนถึงตัวละครต่างๆ ที่อยู่ในหนังสือ” เขายังรู้สึกอีกด้วยว่าสถานที่จะช่วยให้ทีมงานและนักแสดงมีโอกาสได้สัมผัสความยากลำบากของจริงๆ และได้ลอง “หาทางรอดชีวิตโดยไม่พึ่งเทคโนโลยี ตัวละครต่างๆ ต้องทำอาหารเอง ต้องสร้างที่พักขึ้นมาเอง และต้องดูแลกัน ผมว่าความน่าสนใจอยู่ที่การมีโอกาสตัดออกจากเทคโนโลยีและใช้ชีวิตอยู่ในป่า” เมื่อกองถ่ายปิดกล้องลง กอดฟรีย์ได้เล่าถึงเหตุผลว่าทำไมเวส บอล ถึงเป็นผู้ที่เหมาะจะมากำกับฯ THE MAZE RUNNER “สิ่งแรกที่ทำให้ผมสะดุดตากับเวส และการที่หนังเรื่องนี้อิงจากการได้ดูหนังสั้นของเขาเรื่อง Ruin คือจินตนาการของเขาและความรับผิดชอบของเขาในการสร้างโลกใบนี้ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าโธมัสจะต้องผ่านอะไรบ้าง” ผู้แต่งฯ เจมส์ แดชเนอร์ เห็นด้วยว่า “เวสกับผมพูดคุยกันตั้งแต่แรกเริ่ม ผมแทบบอกได้ทันทีเลยว่าเขาถ่ายทอดออกมาจากจินตนาการของผมจริงๆ ความกระตือรือร้น ความหลงใหล และการยึดถือตามเจตนารมณ์ของหนังสือล้วนน่าประทับใจมาก ผมไว้ใจเขาเต็มที่เลย” สำหรับการสะท้อนถึงความน่าสนใจของเรื่อง แดชเนอร์เล่าว่าส่วนใหญ่จะเป็น “สภาพที่เดาไม่ออกตลอดเวลาว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ผมอยากให้ผู้อ่านและตอนนี้คือผู้ชมภาพยนตร์รู้สึกแบบเดียวกับโธมัสเมื่อเข้าไปในทุ่ง”
แท็ก สมอง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ