กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,237 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,236 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.23 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท และกลับมาปิดที่ 18,800 บาท กับ 18,900 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 551 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,447 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.38 % แบบ 10 บาท ลดลง 1.37 % GFV14 ปิด 19,010 บาท และ GFZ14 ปิด 19,070 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,010 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,060 บาท
สัญญา Comex ลดลง 0.80 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 1,235.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 0.46 เซ็นต์ ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 94.88 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 784.22 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากปิดตลาด COMEX จากการแถลงของเฟดหลังเสร็จสิ้นการประชุม และทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,215 เหรียญ/ออนซ์ ก่อนจะดีดกลับมาบริเวณ 1,220-1,222 เหรียญในเช้าวันนี้
เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับต่ำ 0-0.25% ต่อไปในการประชุมเมื่อวานนี้ และยืนยันว่าจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ศูนย์ต่อไป แม้ว่า QE จะสิ้นสุดลงตามกำหนดก็ตาม
อย่างไรก็ดี เฟดประกาศปรับลดขนาด QE อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และจะเดินหน้าปรับลดปริมาณ QE ต่อไปจนกระทั่งจบโครงการภายในปีนี้
นอกจากนี้ เฟด ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะฟื้นตัว แม้ว่าอัตราว่างงานจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย สำหรับตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจปรับตัวดีขึ้น
เฟดเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับ 1.375% ในปลายปีหน้า เทียบกับระดับ 1.125% ซึ่งเป็นคาดการณ์ในเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะในปี 2016 จะอยู่ที่ระดับ 2.875%
ในวันนี้ สกอตแลนด์จะมีการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจช่วยหนุนราคาทองคำได้ หากว่าสกอตแลนด์มีมติเป็นเอกฉันท์ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ
นักวิเคราะห์จาก Kitco กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วหลังเฟดเผยผลการประชุมวานนี้ ซึ่งภาพทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่า หากราคาทองคำหลุดระดับ 1,226 เหรียญ ทองคำจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,214 เหรียญ และ 1,185 เหรียญตามลำดับ แต่แนวต้านที่แข็งแกร่งของทองคำยังคงอยู่ที่บริเวณ 1,252 เหรียญ
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังเฟดประกาศยืนยันเดินหน้ายุติ QE โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2919 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2961 ดอลลาร์/ยูโร
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนสิงหาคม ปรับตัวลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2013 แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในสหรัฐฯผ่อนคลายลง และอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดพิจารณาว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ยอดการส่งออกประจำเดือนสิงหาคมของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงยอดนำเข้าปรับตัวลดลง 1.5%ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าที่ นายชินโซ่ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประเมินไว้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลญี่ปุ่นจะสูงขึ้นที่ระดับ 9.485 แสนล้านเยน (8.7 หมื่นล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ OECD ตัดลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงสู่ระดับ 0.9%
ผลสำรวจนักวิเคราะห์ของ Bloomberg ระบุว่า แผนการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลจีนกำลังถูกสกัดกั้นจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน หลังข้อมูลเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคมชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลก
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจีนจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจำนวน 8.1 หมื่นล้านหยวนก็ยังไม่สามารถช่วยให้เศรษฐกิจหยุดการชะลอตัวลงได้
รัฐบาลยูเครน อนุมัติแผนการทำข้อตกลงการสมาคม (Association Agreement) ร่วมกับอียู เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับอียู พร้อมรักษาการค้ากับประเทศอื่นๆให้มีเสถียรภาพ และจะมีการดำเนินข้อตกลงอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2017
เมื่อวานนี้ นายบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศแผนที่จะติดอาวุธให้กับกองกำลังในซีเรีย เพื่อต่อต้านกลุ่มไอซิล (ISIL)
ด้านนาย จอห์น เคอรี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า ประเทศพันธมิตรกว่า 50 ประเทศพร้อมเข้าร่วมการต่อสู้กับกองกำลัง IS และบางประเทศสมาชิกเตรียมพร้อมโจมตีทางอากาศในกลุ่มกบฎหัวรุนแรงในซีเรีย
เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.15% เพราะได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลง รวมถึงการที่เฟดยังตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ และไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เช้าวันนี้ ดัชนีนิเกอิ เปิดตลาด +0.93% โดยทำสถิตปรับตัวสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนที่ระดับ 16,036.47 จุด เพราะได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงสู่ระดับ 108 เยน/ดอลลาร์
กระทรวงการคลัง เปิดเผย แผนเงินกู้รัฐบาลสำหรับงบประมาณปี 2558 ที่ระดับ 7.05 แสนล้านบาท และในสิ้นปีนี้เตรียมเปิดตัว พันธบัตรออมทรัพย์จำนวน 3.8 หมื่นล้านบ้าน ขณะที่นักวิชาการคาดการณ์ว่าส่งออกไทยปีนี้ อาจเติบโตเพียง 1%
เมื่อวานนี้ กนง. มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2% โดยชี้ให้เห็นว่า นโยบายการเงินยังคงมีความเหมาะสมต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งอาจคงอัตราดอกเบี้ยระดับดังกล่าวจนถึงสิ้นปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน
- CPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ลดลงสู่ระะดับ -0.2%
- Core CPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาลดลงสู่ระดับ 0.0%
- Current Account ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -102B ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -99B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
-Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.06B คาดการณ์ว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.04B
-Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 315K คาดการณ์ว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 312K
-Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.09M คาดการณ์ว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.04M
Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 28.0 คาดการณ์ว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 22.8
-Fed Chair Yellen Speaks (เวลาประมาณ 19.45น.ตามเวลาประเทศไทย)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบตลอดการซื้อขายเมื่อวานจนปิดตลาด COMEX โดยที่ปรับตัวลดลงรุนแรงหลังจากที่ตลาด COMEX ปิดไปแล้ว เนื่องจากถ้อยแถลงผลการประชุม FOMC เปิดเผยว่า ปรับลด QE ลงอีก 1 และจะสิ้นสุดในเดือนหน้า ขณะที่เฟดคาดการณ์จะปรับอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานในปลายปีหน้าจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.125% ปรับขึ้นเป็น 1.375% ทำให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์ใน Hedge Fund โดยทั่วไป คาดการณ์ว่า เฟดได้ส่งสัญญาณมายังบรรดากองทุนต่างๆว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทั้งหมดนี้จึงทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำอย่างหนาแน่นหลังปิดตลาด COMEX ซึ่งทองคำร่วงลงหลังจากตลาด COMEX ปิดที่ระดับ 1,235.9 เหรียญ และลงไปทำจุดต่ำสุดเช้านี้ที่ระดับ 1,215 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาในตลาดฮ่องกงและตลาดเอเชียที่ระดับ 1,223 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้โดยภาพรวมยังแสดงถึงภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับต่ำ ขณะที่การขาดดุลการค้าลดน้อยลงแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้น และตัวเลขยอดการค้าก็ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และยังคาดว่าแนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ ขณะที่แนวต้านขยับมา 1,240 เหรียญ จึงมองว่าในวันนี้ราคาน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,235 เหรียญเท่านั้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงให้เก็งกำไรในกรอบแคบดังกล่าว ในทิศทางแนวโน้มขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรทิศทางขาลง ในกรอบแคบบริเวณ 1,200-1,235 เหรียญ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ทำกำไรเป็นช่วงๆ และยังคงลงทุนในทิศทางแนวโน้มขาลง
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,810 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,070 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.