กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--กองเกษตรสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “ผลการตรวจราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2557” ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ ว่า การตรวจราชการเป็นกลไกสำคัญในการประเมินระบบราชการ และประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่จะผลักดันให้การดำเนินงานโครงการต่างๆของแต่ละหน่วยงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้มุ่งเน้นสู่การตรวจราชการแบบบูรณาระหว่างกระทรวงที่มีโครงการสอดคล้องกันตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มีโครงการจำนวนมากที่ต้องดำเนินงานเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยการตรวจราชการเน้นที่โครงการสำคัญตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง ซึ่งจะส่งผลสำเร็จสนับสนุนนโยบายและงานสำคัญของรัฐบาลในภาพรวมของประเทศยิ่งขึ้น
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ประจำปี 2557 และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บริหารของกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดีและผู้แทนส่วนราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจราชการของกระทรวง รวมทั้งพัฒนารูปแบบการตรวจราชการของกระทรวงให้มีความเข้มแข็งและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจราชการ และสร้างเครือข่ายในการตรวจราชการของกระทรวงให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมกำหนดแผนการตรวจราชการของกระทรวงเกษตรฯ ประจำปีงบประมาณ 2558
นายนิรันดร เอื้องตระกูลสุข หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2557 กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดโครงการตามแผนการตรวจราชการเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มโครงการบูรณาการตามประเด็นนโยบายสำคัญ ซึ่งมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก โดยกำหนดเป็น 4 โครงการ ประกอบด้วย ๑) โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานของกรมปศุสัตว์ ๒) โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานของกรมวิชาการเกษตร ๓) โครงการตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าประมง ปี 255๗ และ ๔) โครงการพัฒนาและส่งเสริมระบบการตรวจสอบและรับรองคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐานและหมู่บ้านชุมชนต้นแบบการลดต้นทุนการผลิตข้าว 2. กลุ่มโครงการตามยุทธศาสตร์ประเทศ นโยบายของกระทรวงเกษตรฯ โดยกำหนดโครงการไว้ 7 โครงการ ประกอบด้วย 1) โครงการจัดการชลประทานเพื่อสนับสนุนพื้นที่ Zoning ตามนโยบายรัฐบาล 2) โครงการก่อสร้างแหล่งน้ำชลประทานขนาดเล็ก 3) โครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ปี 2557 4) โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน(พืชผัก) 5) โครงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชรองรับประชาคมอาเซียน 6) โครงการร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q (Q restaurant) และ 7) โครงการพัฒนาเกษตรกรสู่ Smart Farmer 3. กลุ่มโครงการพิเศษ มุ่งเน้นตรวจติดตามงานในภารกิจที่เร่งด่วนและสำคัญตามที่ผู้บริหารเห็นชอบหรือมอบหมาย ได้แก่ โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ
ทั้งนี้ ได้จัดพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดการดำเนินงานโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ประจำปี 255๗ ซึ่งแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับเขตตรวจราชการ และระดับประเทศ จำแนกตามรูปแบบร่างแผนแม่บทโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ (พ.ศ.2557- 2564) ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ได้แก่ รูปแบบที่ 1 ดำเนินการในพื้นที่เขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การผลิตและการเลี้ยงสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรฯกำหนด และมีระบบน้ำเพื่อการเกษตรสมบูรณ์ กลุ่มที่ 2 ได้แก่ รูปแบบที่ 2 ดำเนินการในเขตพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การผลิตและการเลี้ยงสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรฯ กำหนด และมีระบบน้ำเพื่อการเกษตรค่อนข้างสมบูรณ์ และรูปแบบที่ 3 ดำเนินการในพื้นที่เขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การผลิตและการเลี้ยงสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรฯ กำหนด และมีระบบน้ำเพื่อการเกษตรยังไม่สมบูรณ์ โดยจังหวัดที่ได้รับรางวัลการประกวดในระดับประเทศ แบ่งเป็นรายภาคดังนี้ 1.การประกวดในกลุ่มที่ 1 ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี และภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดระนอง ส่วนการประกวดในกลุ่มที่ 2 ไม่มีจังหวัดที่ได้รับรางวัล เนื่องจากคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า 75 คะแนน