กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,222 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,225 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.25 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,700 บาท กับ 18,800 บาท และกลับมาปิดที่ 18,650 บาท กับ 18,750 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 918 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,853 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.7 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 6.6 % GFV14 ปิด 18,870 บาท และ GFZ14 ปิด 18,930 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,870 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,920 บาท
สัญญา Comex ลดลง 9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,226.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.35 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 93.07 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 784.22 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุน หลังจากตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงภาคแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
-นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เป็นอีกปัจจัยที่ยังคงกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงกว่าระดับ 1.2800 ดอลลาร์/ยูโร อาจส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงกว่าระดับ 1,200 เหรียญได้
-เหล่าเทรดเดอร์ ระบุว่า ระดับสำคัญทางจิตวิทยาของทองคำอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ ซึ่งหากพิจารณาจากภาพทางเทคนิคจะเห็นว่าหากหลุดระดับดังกล่าว แนวรับของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,185 เหรียญ และ 1,075 เหรียญ ตามลำดับ ขณะที่สัญญาณRSI แสดงให้เห็นถึงภาวะขายเกินจึงอาจเห็นแรงสนับสนุนของทองคำในระยะเวลาอันใกล้นี้
-กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง 36,000 ราย สู่ระดับ 280,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แสดงให้เห็นว่าภาคแรงงานของสหรัฐฯยังคงมีการฟื้นตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
-รายงานรอยเตอร์ ระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางที่จะทำการตัดสินใจหรือแม้แต่ความคิดเห็นทางด้านสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งเฟดจะยังคงใช้นโยบายและตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปเพื่อช่วยเหลือและกระตุ้นกลุ่มบริษัทรายย่อยให้มีการพัฒนามากขึ้น
-นอกจากนี้ นางเยลเลน กล่าวว่า ความมั่งคั่งโดยเฉลี่ยของภาคครัวเรือนได้ปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ปี 2010 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยทั่วไปจะปรับตัวดีขึ้นและอัตราว่างงานจะลดลงก็ตาม (ทั้งนี้ ครอบครัวรายได้ต่ำถึงปานกลางว่า ยังคงมีระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดตั้งแต่ก่อนปี 2007 จนถึง ปี 2009 เนื่องจากวิกฤตทางการเงินจึงทำให้สถานะความเป็นอยู่และรายได้ลดลง)
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 108.77 เยน หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานสหรัฐฯปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าสู่ระดับ 1.2917 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2919 ดอลลาร์/ยูโร
-ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับบค่าเงินยูโรที่ระดับ 78.24 ปอนด์/ยูโร จากความกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติกรณีสกอตแลนด์แยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษ
-สำนักข่าวรอยเตอร์ คาดว่า ผลการนับคะแนนการลงประชามติของชาวสกอตแลนด์ในการแยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษจะเสร็จสิ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30-13.30น. ซึ่งบางสถาบันเปิดเผยผลการนับคะแนน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกโหวต “NO”
-ยอดค้าปลีกอังกฤษประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวสูงขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการซื้อสินค้าภาคครัวเรือน บ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของอังกฤษยังคงมีการฟื้นตัว
-ไอเอ็มเอฟ ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจอิตาลี โดยคาดว่า เศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัวลง 0.3% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการชะลอตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ขณะที่ยอดหนี้สาธารณะจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังคาดว่าจีดีพีอิตาลีในปีนี้จะหดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
-อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟ ยังคาดการณ์ว่าในปี 2015 เศรษฐกิจอิตาลีจะสามารถขยายตัวได้สู่ระดับ 1.1% จากภาวะสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการผ่อนนคลายของอีซีบี
-เมื่อวานนี้ สภาคองเกรส อนุมัติงบประมาณสำหรับแผนการฝึกรบและการติดอาวุธแก่กลุ่มกบฏในซีเรีย เพื่อให้สามารถต่อสู้และป้องกันตัวจากกลุ่ม IS และเพื่อเป็นการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายให้หมดสิ้นไป
-ขณะที่ นายเปโตร โปโรเชนโก้ ประธานาธิบดียูเครน ได้เข้าพบกับ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุมัติตามคำขอดังกล่าว เพื่อให้ยูเครนสามารถป้องกันการรุกรานของรัสเซียได้
-นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ถือเป็นการละเมิดหลักพื้นฐานในการแข่งขันที่เป็นธรรมและอิสระทางภาคธุรกิจขององค์การการค้าโลก (WTO)
-เมื่อวานนี้ กลุ่มกบฏ IS เปิดเผยวิดีโอตัวประกัน นายอลัน เฮนนิ่งชาวอังกฤษ โดยข่มขู่ว่าจะฆ่าตัวประกันอังกฤษอีกรายในเวลาต่อไป
-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.64% เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่ให้คำมั่นว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงเกินคาด
-เช้านี้ ดัชนีนิเกอิ เปิด +0.86% สู่ระดับ 16,205 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2556 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
-นักบริหารเงินประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.15-32.30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทยังคงเป็นทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มจะกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง
-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่าหลังจากเข้าร่วมหารือกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในอาเซียน โดยเป้าหมายหลักในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆในอาเซียน ในส่วนของไทยเองก็สนับสนุนให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมไปถึงธุรกิจบริการ เช่น ร้านอาหารต่างๆ
-อย่างไรก็ดี จะมีการกำหนดนัดหารือถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจในส่วนของภาคการค้าและอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น (เมติ) ในวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน
-Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.06B ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 1.00B
-Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 316K ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 208K
-Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.12M ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.96M
Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 28.0 ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 22.5
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากถ้อยแถลงของเจเน็ต เยลเลนที่ระบุว่าเศรษฐกิจมีความมั่นคงต่อเนื่อง และยังคงมีโอกาสที่จะปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานในปีหน้าสู่ระดับ 1.375% จาก 1.25% เมื่อวานนี้ตัวเลข Jobless Claims ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดสู่ระดับ 280,000 ราย ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,216 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานหลายตัวออกมาอยู่ในระดับทรงตัว ในวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 784.22 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลง โดยที่แนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ แนวต้าน 1,235 เหรียญ ยังคงแนะนำให้นักลงทุนลงทุนตามแนวโน้มทิศทางขาลง เพียงแต่ราคาอาจจะมีการแกว่งตัวในระยะสั้นตามลักษณะ Technical Rebound เป็นช่วงๆ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เล่นเก็งกำไรตามการแกว่งของตลาด
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
เล่นเก็งกำไรตามการแกว่งของตลาด ในกรอบ 1,200-1,235 เหรียญ โดยบริหารพอร์ตให้สมดุลกับสภาพตลาด
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะนำให้ซื้อกลับทำกำไรในระยะสั้น ยังคงถือพอร์ตโดยทั่วไปในแนวโน้มขาลง ซึ่งเป็นลักษณะของ Short Position
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,920 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.