กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--กลุ่มผลักดันบางปะกงเป็นแรมซาร์ไซต์
บ่อยครั้งที่น้ำและอากาศ มักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวแปลสำคัญของแหล่งกำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลก ที่ใดมีน้ำ...ที่นั่นมักถูกสันนิษฐานและคาดหวังเสมอว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ เช่นเดียวกับการตั้งรกรากถิ่นฐานของคนในยุคสมัยต่างๆ ที่มักจะยึดแหล่งน้ำหรือแม่น้ำไว้พักพิงอาศัยและหากินเพื่อชีวิตที่อยู่รอด แม่น้ำสายสำคัญต่างๆจึงถือเป็นต้นกำเนิดของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
“บางปะกง” แม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย และเป็นแม่น้ำที่สำคัญที่สุดในภาคตะวันออก เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางน้ำทางบกตลอดบริเวณความยาวกว่า 200 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็น “สายน้ำแห่งชีวิต” ที่หล่อเลี้ยงประชากรหลายหมื่นครัวเรือนให้มีที่พักพิงอาศัย เป็นแหล่งอาหาร และแหล่งประกอบอาชีพทำกิน ไม่ว่าจะเป็นทำสวน บ่อกุ้ง บ่อปลา และประมงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
แม่น้ำบางปะกงมีต้นน้ำมาจากแม่น้ำนครนายก และแม่น้ำปราจีนบุรี ไหลมารวมกันที่ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา และไหลลงสู่อ่าวไทย ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำบางปะกงประกอบด้วยหลายปัจจัย อาทิเช่น พันธุ์ปลากว่า 280 ชนิดทั้งปลาน้ำจืด น้ำเค็มและน้ำกร่อย , พันธุ์พืชที่อุดมสมบูรณ์ทั้งป่าชายน้ำและป่าชายเลนริมสองฝั่งแม่น้ำลำคลองจนถึงบริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญ , ปลากระเบนราหูน้ำจืดที่หาได้ยากในปัจจุบัน และโลมาอิรวดีที่ยังคงอาศัยอยู่รอบบริเวณปากแม่น้ำและเข้ามาตามลำน้ำในบางช่วงเวลา รวมทั้งฝูงค้างคาวแม่ไก่ 3 จุดหลัก ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ เป็นต้น
แต่ความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามเหล่านี้กลับเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ลดและถดถอยลงในหลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในปัจจัยหลักคือการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ที่มีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น วิถีชีวิตเดิมเริ่มเปลี่ยนไปและคนรุ่นใหม่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมริมแม่น้ำน้อยลง พร้อมทั้งมีการเข้ามาลงทุนของบริษัทเอกชนหลายแห่งเพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากขึ้น ซึ่งการเข้ามาของการพัฒนาเหล่านี้จะเป็นผลดี หากทุกฝ่ายมีความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมจากของเสียในกระบวนการผลิตต่างๆ และมีการบริหารจัดการเพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติไม่ให้หายไป แต่ในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นเสมอ และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงถึงเวลาแล้วหรือไม่...ที่เราจะหันกลับมาทบทวน หาทางปกป้องรักษาความสมบูรณ์ของแม่น้ำบางปะกงให้อยู่กับลูกหลานต่อไป ซึ่งนอกจากการสื่อสารให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของแม่น้ำแล้ว การผลักดันแม่น้ำบางปะกงขึ้นเป็นแรมซาร์ไซต์ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับปัญหานี้
อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) คืออนุสัญญาข้อตกลงระหว่างรัฐบาล ซึ่งกำหนดกรอบการทำงานในแต่ละประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะช่วยรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำและยับยั้งการทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญ เพื่อคงความสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่ดังกล่าว และหากทำสำเร็จ บางปะกงจะเป็นพื้นที่แรกที่ถูกผลักดันโดยประชาชน ต่างกับพื้นที่อื่นที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล การร่วมกันผลักดันแม่น้ำบางปะกง(ซึ่งเข้าเกณฑ์พื้นที่ชุ่มน้ำตามที่แรมซาร์กำหนด)ให้ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ จึงเป็นความหวังหนึ่ง ที่เราจะสามารถช่วยกันปกป้องและอนุรักษ์สายน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ไว้ให้เป็นมรดกตกทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปได้ เปรียบเหมือนการทำ ”พินัยกรรมธรรมชาติ” ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงวิถีและชีวิตที่แท้จริงของธรรมชาติที่สมบูรณ์ในเส้นทางบางปะกง “สายน้ำแห่งชีวิต” เส้นนี้
สามารถติดตามรายละเอียดหรือเข้าร่วมผลักดันบางปะกงเป็นแรมซาร์ไซต์ได้ที่www.facebook.com/bangpakongramsar