กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 19 กันยายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,218.60-1,228.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออก อยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV14 อยู่ที่ 18,780 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,820 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.30 น. ของวันที่ 19/09/14)
แนวโน้มวันที่ 22 กันยายน 2557
ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (SGE) เป็นตลาดที่มีการซื้อขายทองคำมากที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 7 และมีปริมาณการซื้อขายแตะ 11,600 ตันในปี 2013 โดยสภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่าในปี 2013 เอเชียครองสัดส่วนปริมาณการใช้เครื่องประดับทองคำ,ทองคำแท่ง และเหรียญทองคำ ราว 63 % ของโลก ประเด็นนี้นักลงทุนจึงมุ่งจุดสนใจไปที่ตลาด SGE ซึ่งจะเปิดในช่วงต่อไปในเดือนนี้ การดำเนินการดังกล่าวอาจจะสร้างแรงซื้อทองคำในตลาดปัจจุบันให้เพิ่มมากขึ้น เพราะทองคำถือเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มแรกที่จีนจะเปิดให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนได้ หากตลาด SGE ได้รับความนิยมแนวโน้มและทิศทางของราคาทองคำก็จะมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น ทั้งนี้ ยอดนำเข้าทองคำที่เข้าจีนผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติปู่ตงของเซี่ยงไฮ้ในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้น 200% เมื่อเทียบรายเดือน สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2014 มีการส่งมองทองคำผ่านท่าอากาศยานปู่ตงเป็นมูลค่า 1.598 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมการเปิดตัวระบบซื้อขายระหว่างประเทศ ความชัดเจนประเด็นดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเมื่อรัฐบาลจีนให้ขอให้ ธนาคารที่ถือครองทองแท่งอย่างเช่น HSBC,ออสเตรเลียแอนด์นิวซีแลนด์ แบงกิง กรุ๊ป (ANZ), สแตนดาร์ด แบงก์, สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และแบงก์ ออฟ โนวา สโกเทีย ให้เข้าร่วมในตลาดการค้าทองคำของ SGE การดำเนินมาตรการดังกล่าวของจีนจะเพิ่มความสะดวกในการลงทุนและเพิ่มเติมแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้หากราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,240-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านโซน 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเกิดแรงขายกดดันราคาปรับตัวลดลงเข้าใกล้บริเวณ 1,210-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นคาดว่าราคาจะวิ่งในกรอบ 1,210-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนเพื่อเตรียมรอทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งและควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,210 (18,410บาท) 1,200 (18,260บาท) 1,190 (18,110บาท)
แนวต้าน 1,235 (18,780บาท) 1,245 (18,950บาท) 1,255 (19,100บาท)
GOLD FUTURES (GFV14)
แนวรับ 1,210 (18,600บาท) 1,200 (18,440บาท) 1,190 (18,290บาท)
แนวต้าน 1,235 (18,980บาท) 1,245 (19,130บาท) 1,255 (19,280บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148