กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,217 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,222 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.21 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650 บาท และกลับมาปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 755 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,552 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.08% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.8 % GFV14 ปิด 18,840 บาท และ GFZ14 ปิด 18,870 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,840 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,890 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 4.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,222 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 91.56 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 773.45 ตัน (ขายออก 1.2 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-เมื่อคืนนี้ทองคำปิดตลาด COMEX สูงขึ้น 0.34% กลับมายืนเหนือระดับ 1,220 เหรียญได้อีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานะ Save Heaven หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
-อย่างไรก็ดี หลังจากสหรัฐฯและชาติพันธมิตรปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ของซีเรียกว่า 20 จุด เพื่อจัดการกับกลุ่มติดอาวุธ IS ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาบริเวณ 1,228 เหรียญได้ในวานนี้
-นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
-นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดจะปรับตัวลดลง เนื่องจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีเพื่อกวาดล้างกลุ่มกบฎ IS จึงอาจส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงมากขึ้นอย่างเช่นทองคำแทน
-SPDR ยังคงลดการถือครองทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเทขายอีก 1.2 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองที่ระดับ 773.45 ตัน
-ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 1.2857 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2836 ดอลลาร์/ยูโร
-ทางด้านค่าเงินเยนอ่อนค่าติดต่อกัน 2 วันทำการ สู่ระดับ 108.93 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 108.83 เยน/ดอลลาร์ หลังสถานการณ์ในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น จากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ จึงกระตุ้นให้เกิดปริมาณความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ Save Heaven
-นายเจอเรอมี่ โพเวล ผู้ว่าการฝ่ายปกครองเฟด กล่าวว่า การแข่งขันช่วงชิงผู้กู้รายใหญ่ระหว่างแบงก์พาณิชย์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อเหล่าธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กอย่างชัดเจน ซึ่งเฟดจะทำการรับพิจารณาและศึกษา เพื่อให้เข้าใจปัญหาของระบบองค์กรธนาคารพาณิชย์ โดยเขาจะมีการวางระบบที่ปรึกษาผ่านทางการประชุมและสัมมนาผ่านระบบออนไลน์กับเหล่าธนาคารพาณิชย์ในเดือนหน้า
-ขณะที่ นายนารายานา โกเชอราโคต้า ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส ย้ำเกี่ยวกับเรื่องอัตราเงินเฟ้อ โดยเขาคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในอีก 4 ปีข้างหน้ามีโอกาสลดต่ำลงสู่ระดับ 2%
-สถาบันมาร์กิต เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนกันยายน แม้ว่าจะยังทรงตัวที่ระดับ 57.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยังเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่การจ้างงานในกลุ่มบริษัทผู้ผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2ปีครึ่ง
-ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซน แสดงให้เห็นว่า ผลรวมของภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นประจำเดือนกันยายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ระดับ 52.3 โดยภาคการผลิตชะลอตัวลงสู่ระดับ 50.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
-นอกจากนี้ ภาคบริการเบื้องต้นประจำเดือนกันยายน ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 52.8 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
-เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นประจำเดือนกันยายนของจีน ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 50.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
-สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ยอดขาดดุลอังกฤษประจำเดือนสิงหาคม ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 1.16 พันล้านปอนด์ (1.895 พันล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงกดดันการระดมทุนของภาคสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
-อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า รายได้ที่ปรับตัวขึ้นอย่างอ่อนแอส่ งผลให้นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังของอังกฤษประสบความยากลำบากมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายทางการคลังสำหรับปีงบประมาณนี้
-หลังจาก กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยมาตรการคุมเข้มเพื่อจัดการกับการหลีกเลี่ยงภาษี ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดต่างๆ วิตกกังวลว่า ธุรกรรมการซื้อกิจการในต่างประเทศของบริษัทสหรัฐฯ อาจเผชิญความยุ่งยากมากขึ้น
-โดยบริษัทสหรัฐฯที่จะได้รับผลกระทบ จะรวมไปถึง แอ๊บเวีย อิงค์ (AbbVie Inc.) ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทในกรุงดับลิน เพื่อย้ายที่อยู่ตามกฎหมายไปต่างประเทศเพื่อลดภาระภาษีบริษัท
-นายบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ความเห็นพ้องกันของนานาชาติ ที่จะร่วมกันให้เกิดพันธสัญญากันอย่างแนบแน่น โดยจะมีการร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และทำให้ประเทศที่มีความยากจนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
-โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า กองกำลังทหารสหรัฐฯและพันธมิตรกำลังใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อโจมตีกลุ่มกบฎ IS ในซีเรีย โดยจะใช้หน่วยรบแบบผสม ทั้งหน่วยทิ้งระเบิด และขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นดิน
-สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ขณะที่ทั่วโลกให้ความสนใจไปยังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อจัดการกับกลุ่มกบฏ IS ในซีเรีย ด้านกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า เตรียมความพร้อมให้แข็งแกร่งมากขึ้น และมีการข่มขู่ว่าจะโจมตีชาติตะวันตก
-นาโต้ ระบุว่า รัสเซียส่งสัญญาณการถอนกำลังทหารบริเวณพรมแดนยูเครน แสดงให้เห็นว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลยูเครนและกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนสัมฤทธิ์ผลมากขึ้น
-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด -0.68% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในต่างประเทศ หลังมีรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มกบฎ IS ในซีเรีย
-ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 11 สัปดาห์ เพราะได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการคุมเข้มกฎระเบียบภาษีใหม่ของสหรัฐฯจะส่งผลกระทบต่อกิจการเทคโอเวอร์ของภาคเอกชนในยุโรป นอกจากนี้ดัชนี PMI ภาคผลิตและภาคบริการของยูโรโซนชะลอตัวลง
-เช้านี้ ดัชนีนิเกอิ เปิด -0.62% เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง
-นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้น ณ ขณะนี้ไม่ค่อยมีเสถียรภาพเนื่องจากนักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนการซื้อขายค่อนข้างสูง จึงแนะนำให้ถือหุ้นขนาดกลางและเล็กเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศต้องติดตามเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจส่งให้เกิดกระแสShort Sell สำหรับปัจจัยในประเทศต้องติดตามเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์จะเข้ามาดูแลการซื้อขายหุ้นขนาดเล็กที่เข้มงวดขึ้น
-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีงบประมาณที่ผ่านมามีปัญหาการเบิกจ่ายใช้ไม่เต็มที่ แต่ในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 รัฐบาลจะเร่งใช้งบลงทุนและงบก่อสร้างหลายแสนล้านบาทเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
-ครม.มีมติเห็นชอบกรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2558 วงเงินดำเนินการจำนวน 1,397,412 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน 657,901 ล้านบาท และกำหนดเป้าหมายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของกรอบวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน
-บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชกร (BGH) แจ้งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ “บริษัทกรุงเทพเซฟดรัก จำกัด” เพื่อรองรับการลงทุนในบริษัทเซฟดรัก เซ็นเตอร์ จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 450 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 45 ล้านหุ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 412 K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 432 K
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเมื่อวานนี้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,235 เหรียญ จากข่าวสหรัฐเข้าโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยราคามีการแกว่งตัวอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงท้ายตลาดมีการเทขายลงมาอย่างรวดเร็ว โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideway Down ในกรอบ 1,210-1,235 เหรียญ ภาพรวมราคาทองคำผันผวนอย่างมากจากสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรีย และการที่โอบามากล่าวเกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่มกบฏ IS ทำให้ราคาทองคำกระชากขึ้นมา จึงย้ำว่าสภาวะของสงครามหรือ Geopolitics แบบนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักและไม่ใช่ปัจจัยถาวร ซึ่งจะเป็นเพียงปัจจัยที่สร้างความตื่นตระหนก และทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถือครองทองคำในฐานะ Safe Heaven คงต้องติดตามว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงเทคนิคระยะสั้นมี Technical Rebound หลังจากไปทำ New low ในรอบ 9 เดือน ซึ่งการ Rebound เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น จากสภาวะ Oversold ที่มีมาตลอด 4-5 วัน สำหรับระยะกลางกับระยะยาวยังคงเป็นขาลง โดยมีแนวต้าน 1,235 และแนวรับ 1,200 มีการเคลื่อนตัวเป็นลักษณะ Sideway Down ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาไม่สามารถผ่านระดับ 1,235 เหรียญ และกลับมาปิดทรงตัว 1,222 เหรียญ และคาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวลักษณะนี้ไประยะหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเป็นการเล่นสั้น ตามความผันผวน โดยให้เปิดทำกำไรหรือ Short Sell บริเวณ 1,230 เหรียญ ขณะที่แนวรับแรกบริเวณ 1,210 เป็นแนวรับแรกระยะสั้น ซึ่งหากกระแสความตึงเครียดเกี่ยวกับสภาวะสงครามเจือจางลง ทองคำจะกลับมาเป็นขาลงอีกครั้ง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะตัด Cut Loss เมื่อราคามีการดีดตัวสูงขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรเป็นช่วงๆบริหารพอร์ตให้สมดุล
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ภาพรวมยังเป็นขาลง หาจังหวะเปิดสถานะ Short เพิ่มเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,850 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,020 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.